จี้นายกฯจัดการนักการเมืองคอร์รัปชั่น

จี้นายกฯจัดการนักการเมืองคอร์รัปชั่น

จี้นายกฯจัดการนักการเมืองคอร์รัปชั่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ป.ป.ช.ภาคปชช.จับมือนักวิชาการ ต้านคอร์รัปชั่น เผยสร้างจิตสำนึกสังคมไทย ด้านหมอนิรันดร์ เปิดเกมโกงนักการเมือง 5 แบบ ถามนายกฯต้องกล้าจัดการ

ป.ป.ช.ภาคประชาชาชน ได้มีการจัดสัมมนาเนื่องในวันต่อต้านการคอร์รัปชั่นสากล โดยคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวเปิดสัมมนาว่า สิ่งที่เราสมควรทำ คือให้การศึกษา และปลูกฝังกับเด็กๆในเรื่องการปราบคอร์รัปชั่น หรือสามารถนำข้อมูลการคอร์รัปชั่นไปทำเป็นละครทีวี เนื้อเรื่องเป็นละครน้ำเน่าก็ได้ แต่ต้องสอดแทรกเรื่องการต่อต้านการคอร์รัปชั่นลงไป เราต้องไม่อยู่ในสังคมที่ยอมรับความเจ็บปวดแล้วอยู่เงียบๆ เราต้องสร้างสังคมให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ร่วมกัน วันนี้ในฐานะวันต่อต้านการคอร์รัปชั่นสากล ขอให้พวกเรามาร่วมจิตร่วมใจและร่วมมือ ต่อต้านการคอร์รัปชั่นต่อไป

จากนั้น.ดร.จุรี วิจิตรวาทการ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการป้องกันและปรามปรามการทุจริต แสดงปาฐกถาเรื่อง"ประเทศไทยจะก้าวข้ามวิกฤตคอร์รัปชั่นได้อย่างไร" ว่า ที่คอร์รัปชั่นไทยล้มลุกคลุกคลานแบบนี้ เพราะสังคมไทยไม่มีการปลูกฝังหรือทำความเข้าใจเกี่ยวกับประชาธิปไตย มีเพียงแค่ความเข้าใจว่าประชาธิปไตยต้องไปเลือกตั้งเท่านั้น ทั้งที่ความจริงนักการเมืองมาทำงานให้ประชาชน เมื่อทำไม่ดีประชาชนก็มีสิทธิ์ถอดถอน แต่เราได้รับการปลูกฝังว่าการเมืองการปกครองไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน แต่เมื่อเกิดความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นได้แต่บ่น แล้วทำตาปริบๆไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนี้สังคมไทยยังมองว่าคอร์รัปชั่นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว อย่าไปมองการคอร์รัปชั่นเล็กๆ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องความไม่เป็นธรรม และเป็นการเอาเปรียบ ซึ่งสังคมไทยยังอ่อนด้อยในเรื่องนี้อยู่มาก

ดร.จุรี กล่าวต่อว่า คอร์รัปชั่นยังทำลายความศรัทธาของประชาชนต่อฝ่ายการเมือง เราจึงควรแก้ไขและก้าวข้ามวิกฤตคอร์รัปชั่น ด้วยการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชน ซึ่งการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นไม่ใช่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ต้องมองในองค์รวม มองในกฎหมายและกลไกต่างๆ จะทำอย่างไรให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ เข้มแข็งและไม่เลือกปฏิบัติ สถาบันต่างๆที่ปราบปรามคอร์รัปชั่นเข้มแข็งหรือไม่ มีอุปสรรคอะไรบ้างและทำงานร่วมมือกันหรือไม่ นอกจากนี้ยังต้องสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเกลียดการคอร์รัปชั่น ให้สังคมรับไม่ได้ และกีดกันคนที่คอร์รัปชั่นด้วย ถ้าทำได้เราก็สามารถก้าวผ่านการคอร์รัปชั่นได้ ซึ่งการแก้ไขคอร์รัปชั่นต้องอาศัยความร่วมมือทางสังคม และต้องเริ่มก้าวแรก เพื่อให้เดินต่อไปได้

ต่อมาได้มีการอภิปรายเรื่อง คอร์รัปชั่นและเกมโกงนักการเมือง จะแก้ไขอย่างไร โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษากฎหมาย วุฒิสภา กล่าวว่า 3 ประสานร่วมกันโกง ประกอบด้วยนักการเมือง ร่วมกับข้าราชการและนักธุรกิจ ทำให้เกิดการทุจริตเลวร้าย คือการทุจริตเลือกตั้ง จนกลายเป็นการโคตรโกง เมื่อประมูลมาแล้วค่าประมูลสูง ก็ต้องเก็บทุนไว้เยอะๆแล้วโกงกันแบบไม่อายใคร จนทำให้เกิดแหล่งการหาเงินคือการทุจริตคอร์รัปชั่นและการทุจริตซื้อขายตำแหน่ง เพื่อรวมเงินไปทุจริตการเลือกตั้งก่อน ซึ่งถือว่าเป็นวงจรที่เลวร้าย ซึ่งภาคประชาชนถือว่าเป็นองค์กรหลักที่ต้องร่วมกันต่อต้านคอร์รัปชั่น นอกจากนี้ต้องให้หน่วยงานรัฐและสื่อเข้ามาร่วมเป็นภาคีในการดำเนินการด้วย เชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันจะไม่มีการโกงในประเทศไทยแน่นอน

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า เกมโกงนักการเมืองมีอยู่ 5 แบบสามารถจับได้ แต่อยู่ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กล้าหรือไม่ เกมโกงที่ 1.โกงแบบบูรณาการ ที่เราเคยเจอมาแล้วแต่ตอนนี้สิ่งที่เราเจอคือเกมโกงจากหลายพรรค มีการโกงแบบรวมศูนย์ 2.โกงแบบบูรณาการแบบฮั้วผลประโยชน์ มีความหลากหลายทางธุรกิจ เป็นแบบกินกันอยู่ลับหลัง 3.โกงเพื่อให้เข้าสู่อำนาจทางการเมือง 4.โคตรโกง เป็นการโกงเชิงนโยบาย ซึ่งเราเคยเจอกับตัวมาแล้ว จนคนที่เป็นอดีตนายกฯต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ซึ่งการโกงแบบนี้บางคดีตุลาการและกฎหมายไปไม่ทัน และ 5.โกงแบบอุปถัมภ์ ตั้งแต่ระดับชาติถึงระดับท้องถิ่น และระดับหัวคะแนน

ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญ สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เรื่องเขาพระวิหารเป็นการคอร์รัปชั่น 1,000 % เป็นอภิมหาคอร์รัปชั่น เพราะไม่ได้กินแบบธรรมดา แต่เป็นการคอร์รัปชั่นแบบบูรณาการ เป็นการทุจริตในเชิงการบริหารราชการ โดยปัญหาที่เกิดเรื่องเกี่ยวกับพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมา แต่จริงๆแล้วมีการสร้างเรื่องเพื่อต้องการเปลี่ยนแผนที่ จะนำไปสู่ผลประโยชน์มหาศาลทางการเมือง จึงขอให้จับตาดูเรื่องจีบีซี ที่มีการไปทำเอ็มโอยูเมื่อปี 2543 เกี่ยวกับการจัดทำผลประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่ทับซ้อนด้วย

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งบประมาณที่โกงกินแต่ละปีคิดเป็นเงิน 350,000 ล้านต่อปี แต่องค์กรที่ปราบปรามคอร์รัปชั่นได้งบประมาณแค่หมื่นล้าน ดังนั้นไม่มีทางที่จะไปจัดการกับการโกงกินแบบนี้ได้ ดังนั้นสิ่งที่เห็นคือละครฉากหนึ่งเท่านั้น เพราะเดี๋ยวคดีก็หมดอายุความ ตนขอฟันธงว่ารัฐมนตรีที่เข้าไปดูแลแต่ละกระทรวงก็ไม่เข้าไปเพื่อดูนโยบายแต่เข้าไปโกงกินงบประมาณ ดังนั้นการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นคือต้องขับเคลื่อนไปด้วยกันหมด ไม่เช่นนั้นไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาได้

จากนั้นนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตส.ว.ได้กล่าวปัจฉิมบท ทำไมงานต่อต้านคอร์รัปชั่น จึงเป็นงานที่ยาก แต่ก็จำเป็น ว่า ระบบเล่นพรรคเล่นพวกเป็นตัวสำคัญที่ทำให้การต้านคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องยาก ระบบอุปถัมภ์ทำให้คนลุกขึ้นต้านคอร์รัปชั่นทำงานยาก การเล่นพวกสร้างผลประโยชน์ให้พวกพ้อง เพราะคนไทยนึกถึงผลประโยชน์ส่วนตัวก่อนส่วนรวม และคนไทยส่วนใหญ่คิดว่าโกงไม่เป็นไร แต่ขอให้ทำงานหรือคิดว่าธุระไม่ใช่ คิดว่าถ้าไปยุ่งภัยจะถึงตัว จึงทำให้การต้านคอร์รัปชั่นทำได้อยากลำบาก นอกจากนี้การโกงมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นการโกงในเชิงนโยบาย อย่างเช่นคดีกล้ายางเป็นต้น เราจำเป็นที่ต้องต่อต้านการคอร์รัปชั่น เพราะสมัยนี้การโกงไม่ใช่การล้วงเงินหลวงแล้วเอาเข้ากระเป๋าเท่านั้น

แต่เป็นการโกงที่บิดเบือนนโยบาย และเป็นการโกงไม่ใช่เพื่อบริโภคแต่โกงเพื่อผูกขาดทางธุรกิจ และนำไปสู่การผูกขาดอำนาจทางการเมือง ซึ่งเชื่อว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากการโกงและการคอร์รัปชั่น ซึ่งมันเป็นลูกโซ่ที่เลวร้าย ทั้งนี้ได้ประสานไปยังคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯเพื่อก่อตั้งหน่วยงานเพื่อรวบรวมข้อมูลประวัติส่วนตัวและประวัติทางธุรกิจของนักการเมืองทั้งหมด ซึ่งอาจถึงขั้นตั้งมูลนิธิเพื่อเก็บข้อมูลเหล่านี้ ล่าสุด ป.ป.ช.ภาคประชาชนก็พยายามสร้างข้อมูลเหล่านี้ด้วย เพื่อที่จะได้ช่วยกันตรวจสอบกดดันและป้องกันคนไม่ดี ไม่มีโอกาสเข้ามาบริหารบ้านเมือง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook