สับบัวแก้วทำวิศวกรติดคุก

สับบัวแก้วทำวิศวกรติดคุก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ม็อบแดงนัด 1 ทุ่มรอฟังแม้วโฟนอินเชื่อมือที่ 3 ไม่ป่ว น

แม่วิศวกรไทยสุดกลั้นถามหาคำรบ ปาลวัฒน์วิไชยเลขานุการเอกสถานทูตไทยในกัมพูชาอยู่ไหน ถ้าเป็นลูกผู้ชายให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ แฉเป็นตัวต้นเหตุทำให้ลูกชายต้องติดคุก ลั่นไม่ขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพราะยังขัดแย้งกับกัมพูชา ขณะที่ บัวแก้ว ปฏิเสธพร้อมปกป้อง คำรบ หน้าตาเฉย อ้างไม่สั่งให้ ศิวรักษ์ ทำจารกรรม ด้าน เพื่อไทย ระดมสรรพกำลังทั้งหมดทุ่มช่วย ยื่นหนังสือ 3 ฉบับถึง ฮุนเซน คืนอิสรภาพให้วิศวกรไทย อนาถใจโฆษก มาร์ค ช่วยไม่ได้ยังปากดี กล่าวหาครอบครัว ศิวรักษ์ รวมหัว เพื่อไทย ดิสเครดิตรัฐบาล แฉ ปชป.กลาง กมธ.สร้างพยานหลักฐานเท็จเล่นงาน ทรท. พยานยอม ตายเพื่อให้ความจริงปรากฏแกนนำนปช. จตุพร ย้ำ เสื้อแดงมาชุมนุมอย่างสงบ นัด 1 ทุ่มตรง ทักษิณ วิดีโอลิงก์ แฉ มีคนหวังร้ายให้ต่างด้าวสวมเสื้อแดงมาก่อกวน ตำรวจเตรียมจัดการจราจรรับมือการชุมนุมทุก รูปแบบ สุเทพ มั่นใจไม่มีมือที่สามป่วน เสธ.แดง ยัน ทหารพรานมาโดยไม่อิงกองทัพแต่มาปกป้องเสื้อแดง

แม่ขอร้อง บัวแก้ว อย่ายุ่ง

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัทแคมโบเดียแอร์ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด แถลงเปิดใจผ่านโฟนอินจากกัมพูชามายังพรรคเพื่อไทยว่า หลังศาลกัมพูชามีคำพิพากษาลงโทษลูกชายตนแทบจะช็อก เพราะเป็นความเลวร้ายตกต่ำที่สุดของครอบครัว ตนขอขอบคุณรัฐบาลและเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ทุกคนที่ได้ให้การช่วยเหลือ แต่จากนี้ไปตนจะไม่ขอรับการช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศ แต่จะขอความช่วยเหลือจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยเพียงทางเดียว เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศขัดแย้งกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา การประสานงานติดต่อก็มีอุปสรรคอย่างมาก จึงขอร้องให้ชะลอหรือหยุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหายืดยาว

นางสิมารักษ์กล่าวต่อว่า ทุกคนคงทราบดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต และพรรคเพื่อไทยมีสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชามากกว่า จึงเป็นเหตุผลที่ตนขอรับการช่วยเหลือเพื่อให้ลูกชายได้รับอิสรภาพโดยเร็วที่สุด ตนไม่อยากให้คิดว่าใครได้ใครเสียหน้า เพราะคนที่เสียที่สุดคือนายศิวรักษ์เสียทั้งอิสรภาพ สิทธิเสรีภาพ ชื่อเสียงและอนาคตหน้าที่การงาน รวมถึงครอบครัวก็พลอยรับเคราะห์กรรมไปด้วย

คำรบอยู่ไหนสบายแล้วหนี

คุณแม่รู้สึกปวดใจที่สุดเมื่อเห็นข่าวจากโทรทัศน์ที่นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ พูดว่านายศิวรักษ์เป็นคนไทยคนหนึ่งที่ไปก่อเหตุในต่างแดน คำพูดนี้ สร้างความเจ็บปวดมาก ลูกดิฉันก่อเหตุนั้นหรือคะ หากคุณคำรบไม่โทรศัพท์ไปบอกให้ลูกชายเช็กตารางบินให้ คำพูดแค่ 2-3 ประโยค แต่ลูกต้องติดคุก 7 ปี มันไม่คุ้มกันเลย หากคุณคำรบและผู้อยู่เหนือกว่ามีความเป็นสุภาพบุรุษ ต้องออกมารับผิดชอบการกระทำ ของคุณด้วย มันถึงเวลาแล้วเราอย่าปกป้องคนที่ทำผิดแล้วปล่อยคนบริสุทธิ์รับกรรม วันนี้สังคมต้องรู้ความจริงเสียทีว่า ที่ไม่มีชื่อคุณเป็นผู้ต้องหาก็เพราะอาชีพของคุณคำรบ คุณถึงได้มีโอกาสกลับเมืองไทยสุขสบาย แล้วปล่อยให้นายศิวรักษ์ลำบากเพียงลำพัง นางสิมารักษ์กล่าว

เมื่อถามว่า จะให้นายคำรบรับผิดชอบถึงขั้นไหน นางสิมารักษ์กล่าวว่า รับผิดชอบทุกอย่างออกมาเปิดเผยและยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นนายศิวรักษ์ทำตามที่นายคำรบโทรศัพท์ไป เพื่อให้ลูกชายตนยืนหยัดในสังคมได้อย่างผู้บริสุทธิ์

อย่าเอาลูกชายมาเป็นเหยื่อ

นางสิมารักษ์กล่าวต่อว่า ตนและครอบครัวขอขอบคุณ พ.ต.ท.ทักษิณที่ไม่ติดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ต่อครอบครัวตน รวมถึง พล.อ.ชวลิตที่เป็นผู้ปิดทองหลังพระมาแต่ต้น คนเหล่านี้เป็นยิ่งกว่าญาติแต่ก็มีคนออกมาขัดขวางน้ำใจตั้งแต่แรก ตนไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นอยากให้คิดว่าคนไทยช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ไม่มีแม่คนไหนจะเอาลูกตัวเองไปเสี่ยงกับสถานการณ์เลวร้ายอย่างนี้เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ใคร เพียงแค่คิดแม่คนนั้นก็เลวสุด ๆ จึงอยากขอร้องวิงวอนคนไทยทุกคนว่าเราอย่ามัวขัดแย้ง อย่างน้อยก็เพื่อเห็นแก่อิสรภาพของนายศิวรักษ์ที่นับวันเวลารอความช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณและพล.อ.ชวลิตเป็นการส่วนตัวมาก่อนหรือไม่ นางสิมารักษ์กล่าวว่า ในส่วนของ พ.ต.ท. ทักษิณสามีตนเคยทำธุรกิจเล็ก ๆ ในแวดวงเดียวกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณมาเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว แต่ก็รู้จักเพียงเท่านี้ สำหรับ พล.อ. ชวลิตเป็น ส.ส.นครพนมและเป็นคน จ.นคร พนมเหมือนกัน เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่คนส่วนหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการจัดฉากของ พ.ต.ท.ทักษิณ นางสิมารักษ์กล่าวว่า ไม่มีหัวอกแม่คนไหนยอมให้ลูกตัวเองตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น

ไม่รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล

เมื่อถามว่า ล่าสุดนายกรัฐมนตรีระบุว่าพร้อมให้การช่วยเหลือ นางสิมารักษ์กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ขอความช่วยเหลือจากพล.อ.ชวลิตน่าจะดีกว่า เมื่อถามต่อว่ากระทรวงการต่างประเทศจะขอพระราชทานอภัยโทษให้จะรับหรือไม่ นางสิมารักษ์กล่าวว่า วันนี้ตนยังไม่ขอรับเพราะได้ปรึกษาทนายความและเห็นว่าจะดำเนินการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษโดยเร็วที่สุด หากไปซ้อนกับกระทรวงการต่างประเทศก็จะมีปัญหาได้ สำหรับตนจะอยู่ที่กัมพูชาไปจนกว่าจะดำเนินการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษแล้วเสร็จ

จากนั้นนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินมาร่วมแถลงว่า ความ คืบหน้าล่าสุดตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายซก อาน รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงของกัมพูชา เพื่อประสานว่า พล.อ.ชวลิตจะได้ส่งหนังสือถึงสมเด็จฮุนเซน เพื่อขอความช่วยเหลือให้ทางรัฐบาลกัมพูชาช่วยดำเนินกระบวนการยื่นหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษไปยังกษัตริย์รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่หนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งนายซก อานก็ยินดีและรับปากจะประสานส่งหนังสือถึงสมเด็จฮุนเซน

จวกรัฐบาลต้นเหตุของปัญหา

ต้นเหตุของเรื่องนี้มาจากการที่รัฐบาลไทยพยายามไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณทุกวิถีทาง หากเราไม่ปรับทัศนคติโดยเอาการเมือง ภายในขยายลามไปสู่ต่างประเทศ ก็ยากที่จะแก้ปัญหาในประเทศ สำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อทราบข่าวก็แสดงความเสียใจที่คนไทยต้องเป็นเหยื่อของการเมืองภายในประเทศนายนพดลกล่าว

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคจะมีหนังสือขอความอนุเคราะห์จากรัฐบาลกัมพูชาเพื่อช่วยเหลือนายศิวรักษ์จำนวน 3 ฉบับ โดยฉบับแรกคือหนังสือที่ พล.อ.ชวลิตจะส่งถึงสมเด็จฮุนเซน ฉบับที่ 2 เป็นหนังสือในนามพรรคที่ ส.ส.และสมาชิกมีความประสงค์ จะขอร่วมลงลายมือชื่อ และ 3 เป็นหนังสือแนบรายละเอียดถึงสถานทูตกัมพูชาในประเทศไทย เพื่อแจ้งกำหนดเวลาและสถาน ที่ที่พรรคจะยื่นหนังสือดังกล่าว

เทพไท ตั้งข้อสังเกต

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีศาลกัมพูชามีคำพิพากษาจำคุกนายศิวรักษ์ 7 ปีข้อหาจารกรรมว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า 1.ตั้งแต่นายศิวรักษ์ถูกจับมารดาของนายศิวรักษ์บอกว่าลูกชายเป็นโรคหอบหืด ถ้าหาก อยู่ในคุกอาจจะได้รับอันตรายได้ แต่เมื่อให้มีการประกันตัวกลับไม่ยื่นขอประกัน 2.เมื่อพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรมก็มีคนระดับรัฐมนตรีของกัมพูชาเดินทางไปรับมารดานายศิวรักษ์ และคนของพรรคเพื่อไทยก็ไปส่ง ที่น่าแปลกใจคือคนเหล่านี้เข้าไปยุ่งเกี่ยวและช่วยเหลือนายศิวรักษ์อย่างผิดสังเกต 3.พรรคเพื่อไทยมีการเตรียมร่างคำขอพระราชทานอภัยโทษไว้ให้กับมารดานายศิวรักษ์ ทั้งที่คำพิพากษายังไม่ออกมา พรรคเพื่อไทยรู้คำพิพากษาล่วงหน้าได้อย่างไร

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ว่า คงต้องให้ทางครอบครัวของนายศิวรักษ์เป็นผู้ตัดสินใจ ถ้าประสงค์ที่จะให้ช่วยอำนวยความสะดวกเราก็พร้อม ผู้สื่อข่าวถามว่า นางสิมารักษ์จะไม่ขอให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อยู่ที่ตัวเขา เมื่อถามย้ำว่า แต่ทางครอบครัวของนายศิวรักษ์จะไปขอพึ่งทางพรรคเพื่อไทย นายกฯกล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะทำได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า นางสิมารักษ์อ้างว่าทางเลขานุการเอกสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ เป็นคนไปสั่งให้ลูกชายเป็นคนทำ และเรียกร้องเลขานุการเอกออกมาชี้แจงเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่ตนทราบมาทางนายศิวรักษ์ก็ยืนยันว่าสิ่งที่เขาดำเนินการไปไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องของความลับ

ถามอะไร กษิต ก็ไม่ทราบ

เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะขณะนี้มีการโยงเป็นการเมืองระหว่างประเทศ นายกฯ กล่าวว่า เมื่อมีการตัดสินจากศาลแล้วเจ้าตัวก็ต้องใช้สิทธิในกรณีเรื่องการขออภัยโทษ เมื่อถามว่า แต่สิ่งที่จะเกิดตามมาคือนายศิวรักษ์อาจจะยอมรับผิด ปัญหาที่จะตามมาคือการกล่าวหารัฐบาลไทย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การจะรับผิดหรือไม่มันอยู่ที่คำให้การ แต่เมื่อมีคำตัดสินของศาลแล้วก็ต้องเคารพ ถ้าเกิดพันมาถึงเรื่องของรัฐบาลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ด้านนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงการต่างประเทศพร้อมให้ความช่วยเหลือ แต่เรื่องนี้ต้องอยู่ที่ครอบครัวของนายศิวรักษ์ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เมื่อถามว่า หากนายศิวรักษ์ยอมรับโทษและขออภัยโทษ เรื่องนี้จะถูกขยายผลเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่า เป็นห่วงว่าเรื่องนี้จะขยายเป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องรอทนาย

บัวแก้วป้อง คำรบไม่เกี่ยว

นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงนางสิมารักษ์เรียกร้องให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทย ณ กรุงกัมพูชาออกมาแสดงความรับผิดชอบว่า การปฏิบัติหน้าที่ของนายคำรบเป็นไปตามกรอบนักการทูต จึงไม่จำเป็นต้องออกมาชี้แจงอะไรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามหลังจากนายคำรบกลับมาประเทศไทย ได้เข้ามารายงานตัวที่กระทรวงและทำงานทุกวัน

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า เลขานุการเอกฯ ไม่ได้กระทำ อะไรที่ผิดกฎหมาย ไม่เคยขอร้องให้มีการจารกรรมข้อมูลใด ๆ กรณีนี้คงไม่ต้องชี้แจงหรือแถลงข่าวอะไร หากนางสิมารักษ์ต้องการให้พรรคเพื่อไทยช่วยก็ไม่เป็นปัญหา แต่กระทรวง ก็ได้วางแนวทางการช่วยเหลือไว้พร้อมแล้วเช่นกัน หากนางสิมารักษ์ขอพระราชทาน อภัยโทษก็สามารถดำเนินการได้ทันที

รมต.ข้าวนอกนาไม่สนไล่

ส่วนข่าวการปรับ ครม.นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ปรับออกจากตำแหน่งเพราะไม่มีผลงานว่า ไม่คิดมากและไม่น้อยใจ ทำงานการเมืองทุกคนก็เปียกน้ำหมด ตราบใดที่ยังได้รับความไว้วางใจจากนายกฯ ก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ การปรับ ครม.นายกฯ จะเป็นคนตัดสินใจ รัฐมนตรีทุกคนรวมถึงตนด้วยก็ควรจะยอมรับการตัดสินใจ

เมื่อถามว่า วิเคราะห์หรือไม่ว่าทำไมมีชื่อปรากฏทุกครั้งที่มีข่าวปรับ ครม. นายวีระชัยกล่าวว่า ตนไม่คิดเรื่องพวกนี้ มีโอกาสได้มาทำงานให้ประเทศชาติก็ทำเต็มที่ เมื่อถามว่า ต้องทำความเข้าใจ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายวีระชัยกล่าวว่า มีการพูดคุยกันตามปกติอยู่แล้วตนรับฟังความคิดเห็นของทุกคน เรื่องไหนต้องปรับปรุงก็ปรับปรุง แต่ถ้าบางเรื่องเข้าใจผิดก็ต้องชี้แจง

ให้นายกฯ ตัดสินใจคนเดียว

เมื่อถามว่า นายกฯ ให้กำลังใจหรือไม่ นายวีระชัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมาก็พูดคุยกับนายกฯ แต่ไม่ได้คุยเรื่องนี้ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็คุยกัน เมื่อถามว่า นายกฯ ยังพอใจการทำงานอยู่หรือไม่ นายวีระชัยกล่าวว่า นายกฯจะตัดสินใจอย่างไรก็สุดแล้วแต่เหตุผลของท่าน เมื่อถามว่า 1 ปี คิดว่าตัวเองสอบผ่านหรือไม่ นายวีระชัยกล่าวว่า ตนทำงานเต็มที่และพอใจกับงานที่ทำ ต่อข้อถามว่า ในฐานะเป็นกลุ่มทุนคิดว่านายกฯ จะกล้าปรับออกหรือไม่ นายวีระชัยกล่าวว่า นายกฯและนายสุเทพ เป็นคนที่กล้าตัดสินใจ

เมื่อถามว่า คิดว่านายนิพิฏฐ์ อินทร สมบัติ ส.ส.พัทลุง และนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ มีใบสั่งถึงได้ออกมาพูดหรือไม่ นายวีระชัยกล่าวว่า ไม่คิดอย่างนั้น คนเป็น ส.ส.มีวุฒิภาวะและอิสระ ตนได้คุย กับท่านนิพิฏฐ์และฟังดูจากที่ท่านให้สัมภาษณ์ ทางสื่อ บอกว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสมัยก่อน แต่ยังไม่ได้อ่านทั้งคำพูด เมื่อถามว่าหาก นายนิพิฏฐ์ทวงตำแหน่งคิดว่าถึงเวลาหรือยัง นายวีระชัยกล่าวว่า คนที่เป็นผู้แทนมา 5-6 สมัยมีความพร้อมทั้งนั้น

ปชป.ยันยังไม่ปรับ ครม.

นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงข่าวปรับ ครม.ว่า จะมีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ คนอื่นคงไม่สามารถกดดันได้ ในส่วนของพรรคยังไม่น่าจะมีการปรับ เมื่อถามว่า การที่ ส.ส.ภายในพรรคออกมาพูดนั้นจะทำให้ประชาชนสับสนหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า เป็นเรื่องการแสดงความคิดเห็นและเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของ ส.ส. ประชาชนทราบว่าอะไรควรหรือไม่ควร

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยกับกรณี ที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศยกตำแหน่งให้กับนาย ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทยพัฒนา บุตรชาย ทำให้ พล.ต.สนั่น ไม่พอใจว่า รัฐบาลผสมสมาชิกส่วนใหญ่มีระเบียบมีวินัยเข้าใจกฎเกณฑ์กติกา มารยาท แต่อาจมีสมาชิกบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความเคยชิน แต่คิดว่าไม่ใช่สาระสำคัญ และไม่คิดว่าจะทำให้เกิดรอยร้าวในพรรค ร่วมรัฐบาล

เหน็บจะซักฟอกหาผู้นำก่อน

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่นายบุญยอดเรียกร้องให้มีการปรับ ครม. และมีการพาดพิงถึง พล.ต.สนั่นว่า นายบุญยอดไม่ควรไปพูดก้าวล่วงถึงพรรคอื่น การปรับ ครม. เป็นอำนาจของนายกฯ ผู้สื่อข่าวถามว่า ความขัดแย้งของ ส.ส. ในพรรคร่วมรัฐบาลจะกระทบต่อการที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปราย รัฐบาลในการเปิดประชุมสภาต้นปีหน้าหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า ไม่ห่วง แม้บางเรื่องจะมีความไม่เข้าใจกันแต่ยังถือธงการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกันเหมือนเดิม ฝ่ายค้านควรหาตัวผู้นำก่อนเพราะเว้นว่างมาถึง 10 เดือน เพื่อเป็นผู้ยื่นญัตติการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ และต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

บุญยอดแฉพฤติกรรม ส.ส.

ส่วนการเมืองอื่นนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูลการประชุม สภาผู้แทนราษฎรในสมัยนิติบัญญัติ 2552 ระหว่างวันที่ 13 ส.ค-25 พ.ย. ซึ่งมีจำนวนการลงมติในกฎหมายสำคัญทั้งสิ้น 100 ครั้ง ไม่รวมถึงการประชุมร่วม 2 สภาพบว่า มี ส.ส.ที่มาลงคะแนนทุกครั้ง 58 คน ส่วน ส.ส.ที่ไม่เคยลงมติเลยแม้แต่ครั้งเดียวมี 8 คน ได้แก่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา นางฟารีดา สุไลมาน ส.ส.สุรินทร์ พรรค มาตุภูมิ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย รวมถึง ส.ส.ตระกูลเทียนทองทั้ง 3 คน คือ นายฐานิศร์ นางตรีนุช และนายเสนาะ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ มี 1 คน คือ นายทิวา เงินยวง ส.ส. กรุงเทพฯ

จากการตรวจสอบยังพบว่ามีกลุ่ม ส.ส.ที่สอบตกในการลงมติถึง 33.5 เปอร์ เซ็นต์ หรือ 159 คน ถือเป็น 1 ใน 3 ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด คือลงมติไม่ถึง 50 ครั้ง แยกเป็นพรรคเพื่อไทย 126 คน พรรคภูมิใจไทย 7 คน พรรคประชาธิปัตย์ 5 คน พรรคประชาราช 6 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 6 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 4 คน พรรคมาตุภูมิ 3 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 2 คน ขณะที่พรรคกิจสังคม ไม่มี ส.ส.คนใดสอบตกเลย นายบุญยอด กล่าว

ซัดพวกเดียวกันลงมติน้อย

นายบุญยอดกล่าวอีกว่า ในส่วนการลงมติของรัฐมนตรีพบว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนที่ลงคะแนนมากถึง 68 ครั้ง นายไพฑูรย์ แก้วทอง รมว.แรงงาน 75 ครั้ง นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมฯ 70 ครั้ง อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่ารัฐมนตรีที่ลงคะแนนน้อยส่วนใหญ่มาจากพรรคภูมิใจไทย โดยคนที่ลงมติน้อยที่สุดได้แก่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่ลงคะแนน เพียง 4 ครั้ง

นายบุญยอดกล่าวต่อว่า สำหรับ ส.ส. พบว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ลงมติเพียง 1 ครั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน 1 ครั้งเช่นกัน ส่วน ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงมติน้อยมีอยู่หลายคนเช่นกัน เช่น นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ที่ลงมติเพียง 41 ครั้ง นาย อลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ 38 ครั้ง

พยานแฉ ปชป.กลาง กมธ.

อีกด้านหนึ่งที่รัฐสภา คณะกรรมา ธิการการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ได้ ประชุมพิจารณากรณีพยานในคดียุบพรรคไทยรักไทย ออกมาแฉพร้อมแสดงหลักฐานว่าถูก ว่าจ้างโดยแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ให้ใส่ร้ายและสร้างหลักฐานเท็จจนเป็นเหตุให้ยุบพรรคไทยรักไทย โดยเชิญนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายสุขสันต์ ชัยเทศ ผอ.เลือกตั้ง และรองหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย นายชวการ โตสวัสดิ์ พยานปากสำคัญ

นายสุขสันต์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้งเดือน เม.ย. 49 จึงเห็นว่าพื้นที่ภาคใต้ประชาชนจะไม่เลือกพรรคไทยรักไทยแน่ จึงส่งผู้สมัครแต่พรรคตนติดปัญหาที่ไม่มีสมาชิกพรรค จึงประสานกับเจ้าหน้าที่ กกต. เพื่อเปลี่ยนฐานข้อมูลสมาชิก ระหว่างดำเนินขั้นตอนนายไทกร พลสุวรรณ ได้มาหาและแนะนำว่าถ้าอยากได้เงินสนับสนุนให้ไปพบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิ การพรรคประชาธิปัตย์ จึงได้ไปพบในวันที่ 15 มี.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพถามว่าจะส่งผู้สมัครอย่างไร ตนจึงได้เล่าให้ฟังถึงเรื่องการแก้ไขฐานข้อมูลผู้สมัคร

งามไส้วางแผนเล่นงาน ทรท.

นายสุเทพถามผมว่าทราบข่าวหรือไม่ว่ามีการจ้างผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งใน จ.ตรัง และได้ชักชวนให้ผมมาร่วมกันทำงาน ถ้าไม่ร่วมมือจะแจ้งความจับเรื่องการปลอมทะเบียนสมาชิก แต่ถ้าร่วมมือจะช่วยดูแลคดีให้ แลมีค่าใช้จ่ายสนับสนุนให้ 15 ล้านบาท จึงได้ตัดสินใจร่ วมมือด้วย จนนำไปสู่ภาพเหตุการณ์ที่มีการไปพบ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่กระทรวงกลาโหมนายสุขสันต์กล่าว

นายสุขสันต์กล่าวต่อว่า จากนั้นก็ถูกพาไปเก็บตัวไว้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และพาไปให้ปากคำคณะทำงานชุดสอบสวนที่ บช.ภ.8 ทั้งหมดนี้ตนมีหลักฐานเป็นบัญชีธนาคาร ที่แสดงจำนวนเงินไหลเวียนเข้าออกบัญชี จำนวน 5.8 ล้านบาท

ยอมตายเพื่อให้ความจริงปรากฏ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายวิรัช กัลยาศิริ กรรมาธิการฯจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ซักถามถึงรายละเอียดการให้การของนายสุขสันต์ โดยพยายามซักถามให้ นายสุขสันต์พูดอยู่ในกรอบที่เคยให้การไว้ ที่พรรค และในชั้นการไต่สวนของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญขณะนั้น ทำให้นายสุขสันต์ถึงกับสวนกลับพร้อมกับยืนยันว่า การให้การของตนเป็นไปตามคำให้การที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ร่างให้อ่าน

ขณะที่นายชวการชี้แจงว่า ที่ต้อง ออกมาครั้งนี้เป็นเพราะผู้ใหญ่ตระบัดสัตย์ผิดสัญญา ตนและภรรยาเป็นคนสุราษฎร์ธานีโดยกำเนิด ที่ผ่านมาคิดเสมอว่ายอมตายได้เพื่อพรรคประชาธิปัตย์ แต่พอหลังเลือกตั้งไม่เคยมีการทำตามคำพูดที่รับปากไว้ เงิน 15 ล้านก็ได้แค่ 5 ล้านบาทเศษ ตนไม่ใช่หมาและต้องสู้ วันนี้ตนพร้อมจะตายและ ต่อสู้ทางคดีทุกอย่าง ตนพร้อมให้การกับกระบวนการยุติธรรมในทุกองค์กรเพื่อให้ตัวจริงในคดีนี้ต้องออกมารับผิดชอบ กระบวนการทั้งหมดเพื่อเชื่อมโยงให้พรรคไทยรักไทยถูกยุบ

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวว่า ลำพังพวกตนไม่สามารถทำให้หลักฐานนี้มีความน่าเชื่อถือได้ ถ้าพบว่ามีหลักฐานชัดเจนว่าคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์มีการจ้างวาน ข่มขู่ บังคับให้มีการให้การเท็จเพื่อปรักปรำให้ร้ายต่อพรรคไทยรักไทย น่าจะมีการดำเนินคดีหรือดำเนินการทางกฎหมายต่อกรรมการบริหารของพรรคประชาธิปัตย์

หลังการรัฐประหาร ตุลาการรัฐธรรมนูญที่ได้รับแต่งตั้งขึ้นไม่ใช่ศาล จึง ไม่ควรมีอำนาจในการพิจารณา แต่เรื่องนี้ระบบกฎหมายประเทศไทยให้อำนาจไว้ ถือเป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักนิติธรรม ทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมต่อพรรคไทยรักไทย ที่จริงเราไม่ควรถูกตัดสิทธิตั้งแต่ต้น ถามว่าควร จะได้รับสิทธิคืนหรือไม่ และจะทำได้อย่างไร การที่พวกผมถูกเพิกถอนสิทธิ เท่ากับ เป็นเรื่องประจานว่าไร้ความยุติธรรม นายจาตุรนต์กล่าว

สุเทพเชื่อไม่มีปั่นป่วน

ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่ 10 ธ.ค. ว่า รัฐบาลไม่ได้ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เหมือนครั้งก่อน เพราะรัฐบาลต้องการส่งเสริมบรรยากาศในช่วงประชาชนกำลังมีความสุขด้วยการออกมาแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ คิดว่าคงไม่มีมือที่สามหรือสี่ที่จะสร้างสถานการณ์ให้เหตุการณ์บานปลาย คนไทยต้องเข้าใจถ้าใครไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามไม่เหมาะสมในช่วงเวลาแบบนี้ สังคมไทยหรือคนไทยทั้งประเทศคงไม่ยินยอม ส่วนจะมีการชุมนุมยืดยาวถึงวันที่ 13 ธ.ค. หรือไม่นั้น เรามีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง พยายามทำหน้าที่ของเราเต็มที่

ทหารพรานมาปกป้อง นปช.

พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ เวลา 12.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มอดีตทหารพรานจำนวนหลายร้อยคน จาก จ.นครราชสีมาและอุบล ราชธานี จะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แต่ตนไม่ทราบว่าจะแถลงเรื่องอะไร ซึ่งการที่ตนออกมาพูดครั้งนี้เพื่อเป็นการแจ้งข่าวให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. รับทราบข้อมูล ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนออกมาปกป้องและเจตนาดีต่อ พล.อ.อนุพงษ์ ตลอด แต่กลับแปลเจตนาเป็นอย่างอื่นตลอด

ล่าสุดที่ ผบ.ทบ. มอบเงินให้กับอดีตทหารพราน 5 ล้านบาท แต่ขณะนี้อดีตทหารพรานยังไม่ได้เงินดังกล่าว ทำให้อดีตทหารพรานพากันบ่นว่าเสียเวลาหยุดงาน ที่กรุงเทพฯ 2 วัน เพื่อเดินทางมารับเงิน แต่กลับไม่ได้รับเงินเลย การที่กลุ่มอดีตทหารพรานออกมา เพราะเห็นด้วยกับแนวทางประชาธิปไตยของกลุ่มคนเสื้อแดง เขามาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้อ้างอิงกองทัพ แต่เขามาเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับ กลุ่มผู้ชุมนุม เพราะเขาเกรงว่า กลุ่มม็อบน้ำเงินจะเข้ามาก่อเหตุวุ่นวาย พล.ต.ขัตติยะ กล่าว

ชุมนุมไม่ยืดเยื้อ1ทุ่มแม้วลิงก์

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวว่า รัฐบาลได้ประสานมายังตนผ่านทางนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง โทรศัพท์มาขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงยุติการชุมนุมภายในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 10 ธ.ค. โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลจะขยายเวลาจัดงานต่อเนื่องจากวันที่ 5 ธ.ค. แต่ตนได้ยืนยันกลับไปว่า จะชุมนุมตามกำหนดการเดิม เวลา 12.00-24.00 น. โดยจะนัดรวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อรำลึกวันรัฐธรรมนูญและร่วมสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ล่าสุดกลุ่มเสื้อแดงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานกับตำรวจนครบาลเพื่อจะนำเครื่องขยายเสียงและตั้งเวทีที่บริเวณอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยในเที่ยงคืนของวันนี้ จึงขอเตือนรัฐบาลว่าอย่านำสถาบันมารุกรานคนเสื้อแดงและมาใช้อ้างเพื่อทำให้สังคมมองว่ากลุ่มเสื้อแดงไม่สมควรมาชุมนุมในช่วงเวลานี้ สำหรับกิจกรรมตลอดทั้งวันจะอยู่ที่เวทีเป็นหลัก ในเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะวิดีโอลิงก์ มายังเวทีการชุมนุม เพื่อนำคนเสื้อแดงจุดเทียนชัยถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับพูดกับคนไทยในวาระสำคัญด้วยแต่จะไม่มีการเคลื่อนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ แน่นอน นายจตุพร กล่าว

แฉมีให้ต่างด้าวใส่แดงป่วน

นายจตุพร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่ายังมีกระบวนการ ที่รัฐบาลพยายามสร้างสถานการณ์ในการชุมนุมโดยนำคนต่างด้าวมาสวมเสื้อแดง เพื่อสวมรอย จึงขอบอกผ่านไปยังรัฐบาลโดยเฉพาะนายสุเทพ ว่า หากมีการสร้าง สถานการณ์ดังกล่าว การชุมนุมจะไม่ยุติแค่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 10 ธ.ค. แน่นอน แต่จะยืดเยื้อและคนเสื้อแดงก็ตั้งรางวัลนำจับคนต่างด้าวที่รัฐบาลนำมาสวมรอยไว้รายละ 1 แสนบาท ยืนยันว่าเราสามารถดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ โดยได้จัดเตรียมการ์ดเสื้อแดงไว้กว่า 1,000 คน จากทั่วประเทศพร้อมประสานกับ ตำรววจและ ยืนยันว่าไม่มีการนำกำลังทหารพรานมาร่วมชุมนุมด้วยแน่นอน

พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. กล่าวว่า หากผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงมีจำนวนไม่มากก็ให้อยู่บนฟุตปาธหรือลาน อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่หากมาจำนวนมากก็คงต้องปิดการจราจรโดยปริยาย บริเวณแยกคอกวัว และแยกผ่านฟ้า ให้ใช้เส้นทางซ้ายเข้าถนนมหาชัยและขวาไปถนนพระสุเมรุ หากมีผู้ชุมนุมมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ต้องขยายพื้นที่ไปถึงแยกผ่านพิภพ แยกหลานหลวง โดยเชื่อว่าที่กว้างถึงแยกคอกวัวก็น่าจะพอ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook