พิษมาบตาพุดอมตะชวดแสนล้าน

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีกลุ่มทุนต่างชาติ 10 ราย วงเงินลงทุนรวม 1 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะมาตั้งแต่ต้นปี 52 แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุป ได้ เนื่องจากนักลงทุนกังวล 3 ปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อแผนธุรกิจ ประกอบด้วย ปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความขัดแย้งทางการเมืองของไทยที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น และความไม่ชัดเจนของ 65 โครงการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ระงับชั่วคราว

ทั้งนี้ต้องการเสนอให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาภายในประเทศโดยด่วนทั้งเรื่องของความขัดแย้งของคนในประเทศ และปัญหามาบตาพุด เพราะหากช้าอาจทำ ให้นักลงทุนต่างชาติปรับแผนการลงทุนไป ประเทศเพื่อนบ้านแทน โดยเฉพาะประเทศเวียดนามที่หลายรายให้ความสนใจอย่างมาก

ลูกค้า 10 ราย ซึ่งเป็นรายใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรม ยานยนต์ เคมีภัณฑ์ เครื่องมือทางการเกษตร และอาหาร ได้เจรจามาเกือบปีแล้ว แต่ก็ยังลังเลอยู่ว่าจะเข้ามาลงทุนในไทยหรือไม่ แต่หาก 3 ปัจจัยเสี่ยงทุเลาลงอย่างรวดเร็วเชื่อว่าเกือบทั้งหมดเข้ามาลงทุนแน่นอน และทำให้อมตะขายที่ดินเพิ่มเกือบ 1,000 ไร่

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่อุตสาหกรรมมาบตาพุดนั้น คงส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมไทยภาพรวมแน่นอน ซึ่งหลังจาก 65 โครงการถูกระงับทำให้ผู้ผลิตสินค้าบางส่วนต้องนำเข้าวัตถุดิบในราคาที่สูง

นายณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ นักวิชาการ คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การฟ้องร้องให้ระงับโครงการลงทุนในมาบตาพุดของกลุ่มชุมชนนั้นดำเนินการถูกต้องแล้ว แต่วัฒนธรรมของไทยยังไม่ยอมรับ เพราะบางฝ่ายมองว่าเป็นต่อต้านการลงทุน ซึ่งต่างจากในยุโรปที่ชุมชนมีการตรวจสอบภาคธุรกิจอย่างเข้มงวด.