เผยคดีขนขีปนาวุธมติUNให้เป็นเรื่องกม.ไทย

เผยคดีขนขีปนาวุธมติUNให้เป็นเรื่องกม.ไทย

เผยคดีขนขีปนาวุธมติUNให้เป็นเรื่องกม.ไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ อสส. ระบุ 1-2 วันนี้ชัดเจนเรื่องตั้งอัยการ-ตำรวจ ร่วมสอบรายละเอียดอาวุธสงคราม ปัด ยังไม่มีองค์กรต่างชาติยื่นมือขอร่วมทำคดีนี้ เผยยูเอ็นระบุชัดให้เป็นเรื่องกฎหมายภายในของไทยจัดการ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 14 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธานการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับกรณีการจับเครื่องบินขนอาวุธสงครามที่ท่าอากาศยาน ดอนเมือง โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดของอาวุธว่าเป็น ประเภทใดบ้างนั้น เพราะต้องรอดูข้อมูลอย่างละเอียด ครบถ้วนก่อน จากนั้นจึงจะสามารถดำเนินคดีได้ โดยการทำงานยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลา เพราะต้องลงพื้นที่ตรวจหลักฐานประกอบการดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าจะลงพื้นที่เพื่อตรวจหลักฐานในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เพราะต้องการให้มีการดำเนินการโดยเร็วที่สุด ส่วนที่ว่าได้ประเมินมูลค่าของอาวุธที่ยึดไว้ได้หรือไม่ นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้ตรวจสอบข้อกฎหมายที่จะใช้ดำเนินคดีแล้วหรือยังว่าจะดำเนิน คดีในความผิดใดได้บ้าง นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุน และอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้อาจจะมีความผิดในกฎหมายอื่นด้วย ซึ่งทาง อสส.มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศร่วมกับกองปราบปรามไปดำเนินคดี เมื่อถามว่าในที่ประชุมวันนี้ได้หารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายเรื่องการส่ง ผู้ร้ายข้ามแดน หรือ ข้อตกลงระหว่างประเทศอื่นๆที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า ตามมติของสหประชาชาติระบุว่าให้ใช้กฎหมายภายในของเรา ซึ่งชัดเจนว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนอย่างชัดเจน รวมทั้ง พ.ร.บ.ศุลกากร และ พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์

เมื่อถามว่าจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายการต่อต้านการก่อการร้าย หรืออาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือไม่ นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า ต้องดูผลการสอบสวน เพราะบางครั้งข้อมูลยังไม่ชัดเจน ขณะนี้กำลังจะเริ่มต้นกระบวนการสอบสวน และจะดำเนินการอย่างเป็นทางการหลังจากที่ อสส.มอบหมายให้มีพนักงานสอบสวนร่วมระหว่างอัยการและตำรวจ จากนั้นจึงจะลงลึกในรายละเอียดต่างๆได้มากขึ้น ตนเข้าใจว่าคำสั่งที่ อสส.จะมอบหมายนั้นคงจะออกมาในวันนี้ ( 14 ธ.ค.) เพราะได้มีการทำเรื่องเสนอขึ้นไปแล้ว และเชื่อว่าหลังจากที่ทั้งอัยการและตำรวจได้ทำงานร่วมกัน ก็จะได้รายละเอียด ข้อมูล ที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ คงจะสามารถเริ่มทำงานได้

ต่อข้อถามว่าในที่ประชุมวันนี้ได้พูดถึงเรื่องค่านำจับอาวุธในครั้งนี้หรือ ไม่ นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้คงเป็นประเด็นหลัง ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีองค์กรสากล หรือเจ้าหน้าที่จากสหประชาชาติ แสดงท่าทีขอเข้าร่วมในการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ นายศิริศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มี เรื่องระหว่างประเทศนั้นตนคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศคงจะเป็นผู้ประสานงาน ขณะนี้เรื่องที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นในบ้านเรา เราก็ต้องดำเนินการก่อน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook