ผู้ว่าฯระนองสั่งสอบออก'นส.3ก.' 60แปลงบนเขา

ผู้ว่าฯระนองสั่งสอบออก'นส.3ก.' 60แปลงบนเขา

ผู้ว่าฯระนองสั่งสอบออก'นส.3ก.' 60แปลงบนเขา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันชาติ สั่งสอบออก นส.3 ก. 60แปลงบนยอดเขา ระบุขึ้นฮ.บินดูกับตา อ.เมือง อ.กระบุรี อ.ละอุ่น น่าห่วงถูกบุกรุกกว่า 3หมื่นไร่ คาดโทษจนท.รัฐ

นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกเขตพื้นที่ป่าใน จ.ระนอง พบว่าใน 2 อำเภอ คือ อ.ละอุ่น และ อ.กระบุรี อยู่ในสภาพน่าเป็นห่วง มีกลุ่มคนต่างถิ่นเข้ามายึดครอง แผ้วถางผืนป่าอุดมสมบูรณ์เสียหายหลายหมื่นไร่

"ทางจังหวัดได้กำหนด 3 แผนงานสำคัญในการหยุดยั้งการบุกรุกป่าคือการตรวจสอบ จับกุม ยึดคืน และฟื้นฟู ซึ่งตามกฏหมายผู้ที่เข้าไปครอบครองพื้นที่ป่าก่อนปี 2541 จะได้รับการยกเว้นตามมติคณะรัฐมนตรี แต่หากพบว่ามีการเข้าครอบครองหลังปี 2541 จะต้องถูกยึดคืนและดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่ได้ยึดคืนแล้วทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะเข้าไปฟื้นฟู"

นายวันชาติ กล่าวอีกว่า นอกจากปัญหาการบุกรุกผืนป่าที่น่าเป็นห่วงแล้ว ผลการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดินยังพบมี นส. 3 ก.ที่น่าจะมีปัญหาจำนวน 60 แปลง เนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ในเขต อ.สุขสำราญ ซึ่งระบุพื้นที่ครอบครองตั้งอยู่บนภูเขา มีความชันเกิน 45 องศา ซึ่งบางแปลงอยู่บนยอดเขาก็มี

ขณะนี้ตนกำลังสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ สำนักงานที่ดินจังหวัด เข้าไปตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังว่า มีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากพบไม่ถูกต้อง ก็จะสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์เหล่านั้นทันที พร้อมกับดำเนินคดีกับ จนท.ที่เกี่ยวข้องและลงโทษทางวินัยต่อไป

"ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดระนอง ซึ่งได้ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการดแลรักษาผืนป่า รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำเฮลิคอปเตอร์ ชนิด เบล 212 ขึ้นบินตรวจสภาพพื้นที่ป่าไม้ในเขต 5 อำเภอในจังหวัดระนอง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 4 และพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ในการรักษาผืนที่ให้คงอยู่ต่อไป ซึ่งกองทัพภาคที่ 4 มีหน้าที่ให้การสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งยุทโธปกรณ์ เครื่องมือ และ กำลังพล เพื่อเฝ้าระวัง และรักษาผืนป่าให้คงอยู่ต่อไป"

นายวันชาติ กล่าวอีกว่า การขึ้นไปบินสำรวจสภาพพื้นที่ป่าไม้ในเขตพื้นที่ระนอง ซึ่งอดีตเคยถูกระบุเป็นจังหวัดที่มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ แต่จากข้อมูลที่ได้รับและเห็นด้วยตาครั้งล่าสุด สภาพผืนป่าของระนองถูกบบุกรุกแผ้วถางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.กระบุรี และ อ.ละอุ่น อยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วง ถูกบุกรุกกว่า 30,000 ไร่

"ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือแนวรอยต่อระหว่าง อำเภอท่าแซะ ชุมพร กับอำเภอละอุ่น ระนอง อยู่ในขั้นวิกฤติ ภูเขาหลายลูกถูกชาวบ้านและนายทุนบุกรุกตัดไม้ใหญ่ ซึ่งคาดว่าต่อไปอาจจะส่งผลต่อสภาพน้ำ เนื่องจากเขตดังกล่าวเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ"

นายวันชาติ กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือแนวการบุกรุกกำลังคืบคลานเข้าสู่สภาพพื้นที่ป่าสมบูรณ์บริเวณเขาห้วยเสียด ซึ่งได้รับรายงานว่า เป็นแหล่งป่าสมบูรณ์ 100% แห่งเดียวในเขตพื้นที่จ.ระนอง ที่ยังมีป่าที่คงสภาพความสมบูรณ์

นายวันชาติ กล่าวต่อว่า แนวทางต่อไปหลังจากได้ทราบข้อมูลแล้วคือ การหาทางหยุดยั้งไม่ให้มีการบุกรุกเพิ่ม โดยตนจะนำข้อมูลทั้งหมดมาร่วมประชุมสรุปกับหน่วยงานที่รับผิดชอบใน จ.ระนอง ซึ่งมีอยู่มากถึง 23 หน่วยงานว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

โดยเป้าหมายคือต้องยังยั้งการบุกรุกใหม่ให้ได้ รวมถึงการร่วมปฏิบัติการณ์ในภาคพื้นดินเพื่อทำการตรวจยึด โดยเฉพาะผู้ที่เข้าครอบครองหลังปี พ.ศ. 2541 จะต้องถูกยึดคืนและถูกดำเนินคดีทั้งหมด เนื่องจากผืนป่าส่วนใหญ่ที่มีการบุกรุกจะอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ

"ทราบว่ากลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการบุกรุก แผ้วถาง หรือ ครอบครองส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนายทุน กลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ รวมถึงเหล่าบรรดานักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งหากมีข้อมูลที่ชัด ก็จะถูกดำเนินคดีโดยไม่มีการละเว้นอย่างแน่นอน เพราะการรักษาพื้นที่ป่าเป็นนโยบายสำคัญที่สุดที่ตนมอบหมายให้ จนท.ผู้เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติครั้นเมื่อมารับตำแหน่ง" นายวันชาติ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook