ศิวรักษ์รับอิสรภาพกลับถึงไทยขอบวชชำระกรรม!

ศิวรักษ์รับอิสรภาพกลับถึงไทยขอบวชชำระกรรม!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พ้อตกเป็นเหยื่อไม่ได้จัดฉากเผยฮุนเซนอยากฟื้นสัมพันธ์

ศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ได้รับอิสรภาพถึงแผ่นดินไทยพร้อมครอบครัว-เพื่อไทย ลั่นตกเป็นเหยื่อการเมือง ปัดไม่มีใครจัดฉากเข้าคุก เรียกร้อง คำรบ ปาลวัฒน์วิไชย โผล่แจงความจริง ยันถูกจับเพราะเพื่อนคนนี้ เตรียมบวชล้างกรรมที่เมืองโคราช ยังไม่คิดกลับไปทำงานเขมร ส่วน แม้ว ถล่ม บัวแก้ว หลอกใช้เด็กเป็นเครื่องมือตามไล่ล่า เด็กจิ๋ว แย้ม ฮุนเซน หวังช่วยฟื้นสัมพันธ์ 2 ชาติ ด้าน มาร์ค ป้อง กษิต-คำรบ เต็มตัว อ้างทำเพื่อประเทศชาติ พูดหน้าตาเฉยขอให้เรื่องมันจบ แต่ยังมึนตึ๊บหาวิธีแก้เผ็ด ฮุนเซน ไม่ได้ หลังปฏิเสธไม่ส่ง แม้ว ให้ไทย ส่วน เด็กกษิต สวนทันควัน อ้าง คำรบ ได้รับผลกระทบไม่แพ้วิศวกรไทย ระบุรัฐนาวาไม่เคยกล่าวหาจัดฉาก ขณะที่ ปชป. ดาหน้าตอกย้ำละครโรงใหญ่ ฝ่าย เทือก เสียงอ่อยฟื้นสัมพันธ์เพื่อนบ้านยาก ส่วน เนวิน ฮึ่มสั่ง ภท. แก้มือเลือกตั้งซ่อม 2 จังหวัด เลิกใช้ทัพใหญ่ปูพรมหาเสียง ฟาก ปชป. อ้างมารยาทฮั้วภูมิใจไทย ด้าน ตุ๊ดตู่ ปูดบิ๊กสีเขียวเดินเกมใต้ดินปิดคดียึดทรัพย์ แม้ว หลังปีใหม่

* ศิวรักษ์ได้รับอิสรภาพแล้ว

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. สำนักข่าวเอเอฟ พีรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ว่า นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยวัย 31 ปี พนักงานบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด หรือแคทส์ ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำเพรยซอแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีขบวนรถ มารับหลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษจากสมเด็จพระนโรดมสีหมุนี กษัตริย์แห่งกัมพูชาเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้นายศิวรักษ์ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ซีทีเอ็น ของกัมพูชาว่า ผมมีความสุขมาก จะเดินทาง กลับเมืองไทยวันนี้ (14 ธ.ค.) และคิดว่าจะกลับมากัมพูชาอีก

เอเอฟพีรายงานด้วยว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ได้ไปพบกับนาย ศิวรักษ์ที่เรือนจำ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่อดีตนายกฯ กล่าวถึงนายศิวรักษ์ว่าเป็นเหยื่อทางการเมืองของรัฐบาลไทย ในระหว่างหารือกับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

* ทำพิธีอภัยโทษที่บ้านฮุนเซน

เอเอฟพีรายงานอีกว่า หลังจากได้รับการปล่อยตัวแล้ว นายศิวรักษ์ได้เดินทางมาร่วมพิธี ณ บ้านพักของสมเด็จฮุนเซน เพื่อรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษ โดยนายกฯ กัมพูชา กล่าวในพิธีด้วยว่า จากนี้ต่อไปนายศิวรักษ์ได้รับอิสรภาพและสามารถดำเนินกิจการใด ๆ ต่อไปได้ ในพิธีนี้ยังมีนางสิมารักษ์ ณ นคร พนม มารดานายศิวรักษ์ และสมาชิกพรรคเพื่อไทยร่วมอยู่ในพิธีด้วย

นายเอง โสพัลเลธ ผู้ช่วยของสมเด็จฮุนเซน เปิดเผยว่า นายศิวรักษ์ได้รับอิสรภาพก็เพราะนายกฯ กัมพูชาเป็นห่วงในด้านความรักระหว่างแม่กับลูก และยังเป็นเพราะการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือของ ฯพณฯ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ขณะที่ในวันเดียวกันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงมีภารกิจพบหารือกับสมเด็จฮุนเซนในฐานะที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาด้วย

* แม้วทวิตซัดมาร์ค-กษิต

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวิตข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า ผมมาถึงกัมพูชาเรียบร้อยแล้วเมื่อเย็นวานนี้ (13 ธ.ค.) ด้วยความทุลักทุเล จากการหาทางสกัดกั้นทุกวิถีทางของอภิสิทธิ์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ) และกษิต (นายกษิต ภิรมย์ รมว. การต่างประเทศ) โดยขอความร่วมมือกับต่างประเทศ จากพฤติกรรมพบว่าไม่ใช่การทำหน้าที่ของนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ แต่เป็นการไล่ล่าและชำระแค้นทางการเมืองมากกว่า ผมจึงขอร้องว่าไม่มีประโยชน์ ไปทำงานรับใช้ประชาชนและประเทศงานในหน้าที่ยังบกพร่องอยู่มาก ท่านทำอะไรไปผมก็รู้หมด ทุกประเทศบอกว่าอึดอัด ผมเป็นมาเกือบ6 ปี พอมีพวกบ้าง จะทำอะไรขอให้ทำในกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ บนพื้นฐานของการให้ความเคารพในอธิปไตยแห่งดินแดน และมีมารยาทตามประเพณีทางการทูต พวกเขาจะได้ไม่ดูถูกและว่า

* แฉกต.หลอกใช้วิศวกรไทย

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีนาย ศิวรักษ์ ได้รับการพระราชทานอภัยโทษว่า ได้ไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ พบแม่เขาด้วยได้ซักถามพบว่าเป็นพฤติกรรมเดิม ๆ ของ กต. (กระทรวงการต่างประเทศ) ที่คอยติด ตามผม เด็กถูก กต. คำรบใช้ (นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทยในกัมพูชา) เป็นความแฟร์ของท่านฮุนเซนที่ขอพระราชทานอภัยโทษให้ เพราะนายคำรบมีเอกสิทธิ์ทางการทูตดำเนินคดีไม่ได้ เด็กเป็นเพียงเครื่องมือที่ถูกไหว้วานแบบไทย ๆ นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือถึงสมาชิกว่า ผม อยู่กัมพูชาครับ ดีใจได้มาใกล้บ้าน ลูกทั้ง 3 คนมาอยู่ด้วย คิดถึงพี่น้องไทย

* อ้างฮุนเซนหวังฟื้นสัมพันธ์

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และคนสนิท พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ และประธานพรรค เพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากประเทศกัมพูชาภายหลังร่วมพิธีรับมอบตัวนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ที่บ้านพักของสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ว่า พิธีดังกล่าวบรรยากาศเป็นไปด้วยดี และ พล.อ.ชวลิต ยังได้โทรศัพท์ขอบคุณสมเด็จฮุนเซน ที่ให้การช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ซึ่ง พล.อ.ชวลิต คงจะเดินทางไปกัมพูชาในเวลาที่เหมาะสมเพื่อหาโอกาสขอบคุณอีกครั้งหนึ่งด้วยตัวเอง

ทั้งนี้สมเด็จฮุนเซนตั้งข้อสังเกตไว้ 3 ประการ คือ 1.อยากให้การรับมอบตัวนายศิวรักษ์ครั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีในความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา 2.สมเด็จฮุนเซน บอกว่าการที่นายศิวรักษ์ ถูกดำเนินคดีในครั้งนี้ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องทำ มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แม้ทราบว่านายศิวรักษ์ไม่ได้ตั้งใจและทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าผู้อื่นจะมาหาประโยชน์จากข้อมูลนี้ได้

* แนะน้องเต๋าแทนคุณมารดา

คนสนิท พล.อ.ชวลิต กล่าวต่อว่า 3.สมเด็จฮุนเซนระบุว่าการพระราชทาน อภัยโทษครั้งนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ ครั้งที่สอง นับตั้งแต่มีการพระราชทานอภัยโทษมา ครั้งแรกสมเด็จฮุนเซน ขอพระราชทานอภัยโทษให้กับสมเด็จกรมพระนโรดมรณฤทธิ์ เนื่องจากสมเด็จฮุนเซน ต้องการให้เกิดความปรองดองในชาติ เพราะขณะนั้นประชาชนชาวกัมพูชาแตกแยกออกเป็นหลายฝ่าย ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เหมือนกับสมเด็จฮุนเซนต้องการสื่อนัยอื่นหรือไม่ เพราะขณะนี้ประเทศไทยก็มีปัญหาเหมือนกัมพูชาในอดีต

นายชวลิต กล่าวว่า สมเด็จฮุนเซน ยังสอนนายศิวรักษ์ โดยแทนตัวเองว่า อา กับนายศิวรักษ์ว่า อาขอให้หลานนึกถึงพระคุณของแม่ และขอให้ตอบแทนบุญคุณเท่าที่จะทำได้ เพราะแม่เป็นทุกข์เป็นร้อนหาทางทุกอย่างที่จะช่วยเหลือลูก ซึ่งสมเด็จฮุนเซนได้ติดตามข่าวมาตลอด และทำให้คิดถึงสมัยสงครามที่ออกรบถึง 105 ครั้ง ซึ่งแม่ของสม เด็จฮุนเซนได้จุดธูปขอพรทุกครั้งให้ปลอดภัย

* เพื่อไทยทยอยบินไปหานาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันเดียวกัน ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางส่วน อาทิ นายสมคิด บาลไธสง นายเชิดพงศ์ ราชป้องขันธ์ นายยุทธพงษ์ แสงศรี ส.ส.หนองคาย นายชัยวัฒน์ กุลศักดิ์วิมล ส.ส.สัดส่วน และนายนิรมิต สุจารี ส.ส.ร้อยเอ็ด ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ

ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า เป็นการไปเยี่ยมเยียนผู้ใหญ่ที่พวกตนเคารพตามปกติ ไม่มีอะไรพิเศษ และคาดว่าจะมี ส.ส.พรรคเพื่อไทยทยอยเดินทางไปเยี่ยมอีกหลายคณะ เนื่องจากทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะพักที่กัมพูชาอีกประมาณ 3-4 วัน เพื่อทำหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาและสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา

* มาร์คชี้อยากให้เรื่องมันจบ

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความยินดีกับนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัทแคทส์ที่ได้รับอิสรภาพ คิดว่าเจ้าตัวคงไม่อยากเป็นเงื่อนไขของปัญหาอะไรเพิ่มเติม เพราะที่ผ่านมามีความเสียหายเดือดร้อนในระดับหนึ่งก็อยากจะให้เรื่องมันจบ แต่ถ้าคิดว่ายังมีอะไรที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถมาพูดคุยกับรัฐบาลได้

ส่วนกรณีนายศิวรักษ์ เรียกร้องให้เปิดเผยผู้อยู่เบื้องหลังการออกคำสั่งให้หาข้อมูลตารางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายกฯ กล่าวว่า ตอนที่นายศิวรักษ์ให้การไม่ได้เป็นเช่นนั้น อีกทั้งยังมีข้อเท็จจริงชัดเจนว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องเอาข้อมูลตารางการบินมาจากตรงนั้น เพราะเรามีอยู่แล้ว ส่วนการพูดคุยสอบถามไม่มีอะไรที่เป็นความลับ แม้กระทั่งคำพิพากษาศาล ไม่ได้พูดถึงเรื่องความลับ แต่เกรงว่าจะไปกระทบต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น จึงไม่ควรนำเรื่องนี้ไปขยายผลให้เกิดปัญหามันน่าจะจบลงได้แล้ว

* ป้องคำรบ-กษิตไม่ได้สั่งการ

เมื่อถามว่า เหตุที่นายศิวรักษ์เปลี่ยนคำพูดเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปพบเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมาหรือไม่ นายกฯ ยิ้มก่อนตอบว่า อยากให้สังคมคิดเอง มันมีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อถามว่าจำเป็นต้องให้นายคำรบปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยในกัมพูชา ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนที่เกี่ยวข้องพร้อมชี้แจงอยู่แล้ว เพราะมีเอกสารหลักฐานและข้อเท็จจริงต่าง ๆ เชื่อว่าแต่ละคนสามารถยืนยันบทบาทหน้าที่ได้ และตนเชื่อว่าคนที่ทำทุกอย่างตามครรลองเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ คงไม่เสียกำลังใจ แต่จะต้องทำหน้าที่ของตนต่อไป

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าข้าราชการคงไม่ทำเรื่องนี้ ถ้าไม่มีคนระดับสูง เช่น รัฐมนตรีสั่งการอยู่เบื้องหลัง นายอภิสิทธิ์ ย้อนถามว่า ข้าราชการทำอะไร ต้องเริ่มจากตรงนั้นก่อน เพราะจากการที่ทั้งสองคนเคยพูดกันในโอกาสต่าง ๆ ก็ไม่มีการไปยุ่งอะไรในเรื่องความลับและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถยืนยันได้ว่ามีข้อมูลอะไรในช่วงไหนอย่างไรก็คงจะมีการชี้แจง

* ดักคอแม้ว-เพื่อไทยซ้ำแผล

ส่วนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เขียนข้อความผ่านทวิตเตอร์กล่าวหากระทรวงการ ต่างประเทศใช้เด็กเป็นเครื่องมือนั้น นายกฯ กล่าวว่า เป็นความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ขอถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ใครบ้าง ในเรื่องนี้ อยากบอกคนที่กำลังจะนำเรื่องนี้ไปขยายผลว่าทำไปเพื่ออะไร ต้องการให้ ประเทศเพื่อนบ้านมีปัญหากันเพราะอะไร ในเมื่อคนไทยได้รับอิสรภาพมาแล้ว และ ข้อเท็จจริงต่าง ๆ รัฐบาลพร้อมจะยืนยัน สำหรับกรณีฝ่ายค้านเตรียมหยิบยกเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถือเป็นสิทธิฝ่ายค้าน ซึ่งตนและรัฐบาลพร้อมจะชี้แจง

นายกฯ กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการประสานงานกับทางการกัมพูชาเพื่อขอให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนหลังเดินทางไปยังกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า กัมพูชาแถลงล่วงหน้าแล้วว่าไม่ส่งตัวให้ จึงถือเป็นดุลพินิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการอย่างไร ท่าทีดังกล่าวเป็นการตอกย้ำว่าปัญหาพื้นฐานเดิมยังไม่ได้รับการแก้ไข ดังนั้นระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา จะยังอยู่อย่างนี้

* กร้าวใส่ฮุนเซนแก้ปมปัญหา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ อยู่ที่ความตั้งใจ ถ้ากัมพูชาจะรับฟังว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจในเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นต้นมาก็ไปแก้ตรงนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า สมเด็จฮุนเซน ต้องการให้ไทยส่งเอกอัครราชทูตกลับไปประจำที่กัมพูชา นายกฯ กล่าวว่า มีการส่งสัญญาณ และรัฐบาลได้ตอบไปชัดเจนว่าปัญหาไม่ได้เริ่มต้นตรงนี้ แต่เริ่มต้นจากความจำเป็นที่เราต้องแสดงออก ดังนั้นถ้าไปแก้ปัญหาที่ต้นเหตุเรื่องก็จบ เมื่อถามต่อว่า หมายความว่าถ้ากัมพูชายกเลิกการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาปัญหาก็จะจบใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ คือ การละเมิดกระบวนการยุติธรรมไทย ละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ไม่ใช่เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าต้องการให้กัมพูชาส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาให้ไทยใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้ทุกประเทศปฏิบัติตามพันธสัญญาและหลักสากล

* เทือกปัดเช่าเครื่องบินไล่จับ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการติดตามไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยว่า รัฐบาลไม่ได้ไปไล่ล่า แต่เราทำตามกฎหมาย ไม่เคยเช่าเหมาลำเครื่องบินพาตำรวจไปไล่จับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เมื่อรัฐบาลมีหน้าที่และ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนที่แสดงบทบาทไม่หยุดหย่อน เดี๋ยวไปโผล่ตรงนั้นตรงนี้ ก่อกวนมาเรื่อย โฟนอินมาบ้าง ทวิตเตอร์มาบ้างอย่างนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการและเป็นการดำเนินการไปตามกรอบของกฎหมาย

เมื่อถามว่าเหตุใดรัฐบาลไม่ทำหนังสือแจ้งทางการกัมพูชาเพื่อขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เดินทางเข้ากัมพูชาครั้งล่าสุด รองนายกฯ กล่าวว่าเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อถามย้ำว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ได้ทำหน้่อย่างเต็มที่แล้วหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า นายกษิตทำงานอย่างเต็มที่แล้ว แต่ในเมื่อกติกา สนธิสัญญาข้อตกลงระหว่างประเทศไม่เปิดช่อง เราก็ทำได้เท่าที่จำกัด ส่วนที่มองว่านายกษิตไม่ออก มาพูดอะไรบ้างเลยนั้น ตนคิดว่าพูดน้อย ๆ ก็ดีแล้ว

* อ้างรู้ตารางการบินตลอดเวลา

นายสุเทพ กล่าวว่า กรณีของนายศิวรักษ์ มีการเขียนบทเอาไว้ก่อนแล้ว กำหนดผู้แสดงไว้เสร็จ เนื้อเรื่องจะต้องดำเนินอย่างไร เริ่มต้นอย่างไร จุดเน้นอยู่ที่ไหน จุดจบเป็นอย่างไร ฝ่ายที่เตรียมตัวไปรับตัวนายศิวรักษ์ ได้เตรียมการไว้ก่อนที่จะทราบว่าได้รับการอภัยโทษด้วยซ้ำไป พ.ต.ท.ทักษิณ ลงทุนบินอ้อมลงไปที่ช่องแคบมะละกาเพื่อมากัมพูชา ตนรู้ตารางบิน เวลาบิน ไม่ใช่ความลับอะไร ตอนแรกกำหนดว่าจะบินไปถึงสนามบินโปเชียงตงเวลา 15.00 น. แต่เมื่อต้องใช้เส้นทางอ้อมเลยไปถึง 17.00 น. ไม่มีนายศิวรักษ์ส่งข้อมูลหรือไฟลต์แพลนให้ เราก็รู้ สื่อมวลชนก็รู้ แต่ตนไม่อยากพูดจาอะไรเพื่อไปขยายความมากเกินไป เพราะโพลก็ดูเหมือนว่าประชาชนเข้าใจดี

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าไปในเรือนจำเพรยซอพูดคุยกับนายศิวรักษ์และจะนำข้อมูลมามอบให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่น่าแปลกใจอะไร น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ได้เอาเรื่องนี้มาฉายหนังตัวอย่างก่อนปิดสมัยประชุมไว้แล้ว

* เสียงอ่อยไทย-เขมรยากคืนดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการทบทวนความสัมพันธ์กับกัมพูชาหรือไม่ หลังจากกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือในการส่งตัว พ.ต.ท. ทักษิณ นายสุเทพ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ชวลิต พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้นำกัมพูชา มีผลให้เกิดความวุ่นวายปั่นป่วนมาจนถึงทุกวันนี้ แต่เราต้องแยกประเด็นให้ชัดเจนเป็นเรื่อง ๆ ไป เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาจะสามารถฟื้นกลับคืนมาได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราคงต้องหาทางแก้ไขให้ความสัมพันธ์กับ ประเทศเพื่อนบ้านกลับคืนมาสู่ระดับปกติหรือมีข้อขัดแย้งน้อยที่สุด

รองนายกฯ ยอมรับว่า ยังกลุ้มใจว่าจะสานต่อความสัมพันธ์อย่างไร เพราะรู้สึกว่ากัมพูชาเทน้ำหนักผิดข้าง ต้องค่อย ๆ ให้เขาได้คิด เมื่อถามย้ำว่า หากกัมพูชา ไม่มีปฏิกริยาใด ๆ เกี่ยวกับกรณี พ.ต.ท. ทักษิณ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาจะไม่คืบหน้าใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นต้นเหตุของหลาย ๆ เรื่องอยู่เหมือนกัน หนักอยู่

* ไม่ขวางศิวรักษ์ตั้งป้อมถล่ม

ขณะที่ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์ สุต เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ ให้ สัมภาษณ์ก่อนที่นายศิวรักษ์จะได้รับการปล่อยตัวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งรองอธิบดีกรมการกงสุลเดินทางไปประเทศกัมพูชา เพื่อประสานและรออำนวยความสะดวกให้กับนายศิวรักษ์ หากมีการร้องขอมาจากมารดาของนายศิวรักษ์

เราจะพาคุณศิวรักษ์กับแม่กลับประเทศวันนี้ เข้าใจว่าเย็นนี้คงจะกลับ จะรอดูว่าจะให้กระทรวงฯ อำนวยความสะดวกเรื่องเอกสาร และการเดินทางอะไรบ้าง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมอยู่ที่ประเทศกัมพูชาทั้งหมดแล้ว หลังจากที่มารดานายศิวรักษ์รับบุตรชายมาแล้วก็คงจะได้คุยกันว่าจะให้ช่วยเหลืออะไรบ้าง

ต่อข้อถามว่า การเตรียมแถลงข่าวหลังเดินทางกลับมาถึงไทยจะส่งผลกระทบต่อกระทรวงฯ หรือไม่ เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่ ถ้าพูดเรื่องข้อเท็จจริงทุกอย่างเรายินดีอยู่แล้ว เพราะตั้งแต่วันแรกที่เรื่องนี้เกิดขึ้น กระทรวงฯ เข้าไปช่วยเหลือมาตลอด ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ก็เปิดเผย ไม่มีอะไรปิดบัง

* พร้อมแจงฝ่ายค้านซักฟอก

ส่วนที่มีการพาดพิงถึงนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ว่านายศิวรักษ์ได้ส่งตารางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปให้นั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร นายคำรบได้พูดข้อเท็จจริงออกมา หมดแล้ว และนายศิวรักษ์ได้ให้การซึ่งไม่ได้แตกต่างกัน ตนคิดว่าเรื่องนี้สังคมเข้าใจ หมดแล้ว ส่วนเรื่องการส่งตารางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่าไม่มี นายศิวรักษ์ไม่เคยพูด และไม่มีการส่งเอกสาร มีเพียงการสอบถามข้อมูลปกติโดยทั่วไป ไม่มีการส่งข้อมูลอะไรที่เป็นความลับ

เมื่อถามว่า กระทรวงฯ จะเปิดโอกาสให้นายศิวรักษ์มาชี้แจงหรือไม่ เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ต้องแล้วแต่ความต้องการของนายศิวรักษ์ ส่วนเรื่องที่ ฝ่ายค้านจะนำข้อมูลที่เกิดขึ้นมาใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ไม่มีปัญหา ขอให้เป็นข้อเท็จจริง เพราะสาธารณชนจะได้รับทราบว่าเกิดอะไรขึ้น กระทรวงการต่างประเทศยินดีที่จะชี้แจง

* ปชป.ตอกย้ำละครฉากใหญ่

ที่รัฐสภา นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีที่นายศิวรักษ์ ได้รับการปล่อยตัว ทั้งนี้อยากให้ทุกฝ่ายจับตาและให้สังคมร่วมตรวจสอบว่าคดีของนายศิวรักษ์ เป็นการจัดฉากหรือไม่ ส่วนที่มีการเสนอข่าวว่าตนเปรียบเทียบการขอพระราชทานอภัยโทษของนายศิวรักษ์กับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ว่ามีความคล้ายคลึงกันนั้นไม่เป็นความจริงและขอยืนยันว่า กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถ นำมาเปรียบเทียบได้

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อ ว่า พรรคได้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีของนายศิวรักษ์ แต่ไม่เคยพูดถึงความสัมพันธ์กับครอบครัวของนายศิวรักษ์ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความรู้จักเป็นการส่วนตัวกับบิดานายศิวรักษ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติและกรณีที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ริเริ่มการพูดถึงเรื่องการขอพระราชทานอภัย โทษก่อน รวมทั้งการประสานงานเพื่อเปลี่ยนตัวทนายความและไม่ขอประกันตัวก่อนที่จะมีพิจารณาโทษถึง 2 วัน และการที่พ.ต.ท. ทักษิณ ได้สอบสวนนายศิวรักษ์ ด้วยตัวเองถือว่าขัดกับหลักสากล ฝ่ายการเมืองเตรียมใช้เป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาหรือหวังผลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่

* มาร์คเดินหน้าฟ้องจตุพร

วันเดียวกัน ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐานในคดีหมายเลขดำที่ อ.404/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นโจทก์ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่น กรณีนายจตุพรแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 52 กล่าวหาโจทก์กระทำการมิบังควร ตีตนเสมอพระเจ้าแผ่นดิน โดยนายจตุพร ได้แถลงและยื่นคำให้การปฏิเสธต่อศาล จากนั้นทนายโจทก์แถลงขอนำสืบพยานรวม 3 ปาก ใช้เวลา 2 นัด ส่วนทนายจำเลยขอนำสืบพยาน 17 ปาก ใช้เวลา 4 นัด ศาลจึงนัดสืบพยานโจทก์ วันที่ 2 และ 9 มิ.ย. 53 และนัดสืบพยานจำเลยวันที่ 30 มิ.ย., 23, 28 และ 29 ก.ค. 53 โดยฝ่ายจำเลยเตรียมนำ ข้าราชการ รวมทั้งอดีตปลัดกระทรวงฯ และอดีตนายกฯ เบิกความถึงวิธีการปฏิบัติโดยสมควรในการเข้าเฝ้าฯ

ขณะเดียวกัน ศาลได้นัดพร้อมคู่ความในคดีหมายเลขดำที่ อ.1962/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เป็นโจทก์ฟ้องนายจตุพรเป็นจำเลย ฐานหมิ่นประมาทกรณีเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 52 นายจตุพร กล่าวปราศรัยบนเวที นปช. ที่วัดไผ่ล้อม แขวงสีกัน เขตดอนเมือง ใส่ความรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลภายใต้ทรราช และโจทก์เป็นคนสั่งทหารให้ไปยิงประชาชนในช่วงสงกรานต์เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือด และข้อความอื่น ๆ คดีนี้ทนายโจทก์ขอนำสืบพยาน 5 ปาก ใช้เวลา 3 นัด ส่วนทนายจำเลยขอนำสืบพยาน 127 ปาก ใช้เวลา 15 นัด ศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 29-30 พ.ย. และ 1 ธ.ค. 53 และสืบพยานจำเลยวันที่ 9, 14, 15, 16 และ 22 ธ.ค. 53 และวันที่ 17-20 ม.ค. 54

* เสี่ยจิ้นพ้อ2ฝ่ายสมานฉันท์

อีกเรื่องหนึ่ง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะส่ง พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร อดีตหัวหน้าพรรค รวมใจไทยชาติพัฒนา ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ปราจีนบุรี ว่า เรื่องนี้เป็นการแข่งขันทางการเมือง พรรคเพื่อไทยก็ต้องส่งคนที่มีศักยภาพลงมาแข่ง และในฐานะที่ พล.อ.เชษฐา เป็นคู่แข่งมีศักยภาพ ทำให้พรรคภูมิใจไทยต้องเตรียมตัวเต็มที่ ส่วนกลยุทธ์การแข่งขันต้องขอปิดไว้เป็นความลับ และขณะนี้กำลังจัดตารางเพื่อลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียงด้วย

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าหาก พล.อ.เชษฐา ได้รับเลือกตั้งอาจได้รับเลือก เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รมว.มหาดไทย กล่าวว่า รู้จักกับ พล.อ.เชษฐามาก่อน ในวงการการเมืองก็เห็นว่ามีความเหมาะสม ส่วน พล.อ.เชษฐา เมื่อเป็นหัวหน้าฝ่ายค้านแล้วจะทำให้การแก้ไขปัญหาทางการเมืองดีขึ้นหรือไม่นั้น ตนอยากให้ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน คิดถึงประเทศไทยเป็นที่ตั้ง คิดถึงพระเจ้าอยู่หัว เป็นจุดรวมใจของคนไทยทั้งชาติ

* เลือกซ่อมมหาสารคามเข้ม

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาด ไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.มหาสารคาม ว่า พรรคตั้งใจจะลงส่งนางคมคาย อุดรพิมพ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส่วนจะได้หรือไม่อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน ซึ่งการเลือกตั้งซ่อมแข่งกับพรรคเพื่อไทยครั้งนี้คาดว่าจะเข้มข้น และไม่กังวลว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินมาหาเสียงกับประชาชนเหมือนการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร ขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่ารัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยจะลงพื้นที่ช่วยปราศรัยหาเสียงหรือไม่ เพราะนายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ส.ส.มหาสารคาม พรรคภูมิใจไทย เป็นผู้วางยุทธศาสตร์ในการหาเสียง แต่พรรคมั่นใจว่าจะได้ ส.ส. ในเขตนี้

* เนวินคำราม2เขตแพ้ไม่ได้

นายสุริยะ จึงร่วมพัฒนา เลขานุการ มท.2 เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ว่าจะขอให้แกนนำพรรคและ ส.ส. ทุกคนไปช่วยนางคมคาย อุดรพิมพ์ ผู้สมัครของพรรคหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.มหาสารคาม ซึ่งพรรคมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้

แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ในระหว่างการหารือแกนนำและ ส.ส.ของพรรค นายเนวินได้วิเคราะห์การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.มหาสารคาม เขต 1 และ ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 1 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะสั่งให้แกนนำพรรคเพื่อไทยระดมกำลังกันเต็มที่เพื่อเอาชนะการเลือกตั้งให้ได้ เห็นได้จากข่าวที่จะส่ง พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต ผบ.ทบ. ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ปราจีนบุรี เพราะหากพรรคเพื่อไทยสามารถชนะทั้งสองพื้นที่เหมือนที่ จ.สกลนคร และ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะนำมาอ้างว่ากระแสทักษิณ ฟีเวอร์อยู่และประชาชนไม่พอใจผลงานรัฐบาลเลยเทคะแนนเสียงให้เพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้าน

* เลิกขนทัพใหญ่ช่วยหาเสียง

นายเนวินได้วิเคราะห์ว่า หากพรรครัฐบาลแพ้การเลือกตั้งทั้งที่มหาสารคามและปราจีนบุรีจะมีผลกระทบกับรัฐบาลไม่ใช่น้อย จึงต้องการให้ทุกคนลงไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงให้เต็มที่ ทั้งนี้ยุทธศาสตร์การหาเสียงของพรรคจะเป็นการสรุปบทเรียนการแพ้เลือกตั้งที่ จ.สกลนคร มาใช้ที่ จ.มหาสารคาม เบื้องต้นนายเนวินแจ้งว่าจะไม่ใช้แผนการหาเสียงเหมือนที่ จ.สกลนคร ที่ใช้การยกทัพใหญ่ เพราะทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความรู้สึกว่าพรรคภูมิใจไทยใช้อำนาจรัฐลงไปหาเสียง ทำให้ประชาชนเห็นใจพรรคเพื่อไทย อีกทั้งสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียนในเรื่องการ ทุจริตเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งทั้งสองเขตอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมีการจัดงานเลี้ยง แหล่งข่าว ระบุ

ข่าวแจ้งว่า วันที่ 16 ธ.ค.นี้ แกนนำ และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยบางส่วนจะเดินทางไปที่ จ.มหาสารคาม เพื่อร่วมงานวันเกิดของนายยิ่งยศ อุดรพิมพ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มหาสารคาม สามีของนางคมคาย ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือถึงยุทธ ศาสตร์ในการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมด้วย

* ระดมกำลัง2พันอารักขามท.1

อีกด้านหนึ่ง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อหามาตร การป้องกันกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมาต่อต้านนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่มีกำหนดเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก และงานกาชาดประจำปี 52 อย่างเป็นทางการใน เย็นวันเดียวกันนี้ โดยมีการสั่งระดมอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ทั่วทั้งจังหวัดรวม 1,300 นาย มารวมตัวกันภายในสนามกีฬากลางประจำจังหวัด นอกจากนี้ บก.ภ.จว. พระนครศรีอยุธยา ยังได้ประสานขอกำลังตำรวจปราบจลาจล 5 กองร้อยจากจังหวัดใกล้เคียง ตำรวจสันติบาลทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตลอดจนตำรวจน้ำรวมกว่า 1,000 นาย มารักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด ทั้งนี้ตลอดเวลาที่นายชวรัตน์มาร่วมงานไม่เกิดเหตุรุนแรงแต่อย่างใด

* เสื้อแดงบี้สรยุทธเป็นกลาง

เช้าวันเดียวกัน นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เดินทางไปเป็นประธานพิธีปกป้องสถาบันของชาติเพื่อความสมานฉันท์ พร้อมกับแจกผ้าห่มให้ประชาชนที่บริเวณสวนสาธารณะ ต.โนนสูง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยขณะที่นายบุญจงปฏิบัติภารกิจได้มีกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางมาเปิดเวทีโจมตีอยู่ด้านนอก แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดไม่ห้บุกเข้าไปในบริเวณงานได้

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ ว่า นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และทีมงานได้มาจัดรายการ เรื่องเล่าเช้านี้สัญจร ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกาแล สำนักงานวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ถนนสุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง โดยขณะกำลังออกอากาศได้มีกลุ่มเสื้อแดง รักเชียงใหม่ 51 กว่า 60 คน นำโดยนางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม และนายภูมิใจ ไชยยา หรือดีเจต้อม มาชุมนุมด่าทอนายสรยุทธว่าอ่านข่าวไม่เป็นกลาง ภายหลังจบรายการนายสรยุทธได้มาพูดคุยกับแกนนำเสื้อแดงโดยระบุว่าทุกวันนี้สื่อเลือกข้าง แต่ยืนยันว่ารายการของตนนำเสนอข่าวเป็นไปตามกระแส ด่าทั้งสีเหลือง-สีแดง แต่พยายามรักษาความเป็นกลางเอาไว้ตลอดไป จากนั้นกลุ่มเสื้อแดงจึงสลายตัวไป

* ตรวจเยี่ยมพระมหามณฑป

วันเดียวกัน เวลา 16.30 น. นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ เพื่อตรวจเยี่ยมความเรียบร้อยการก่อสร้างพระมหามณฑป ที่เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยพระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามฯ และพระเทพภาวนาวิกรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสนำเยี่ยมชมโครงการในส่วนจัดการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์การก่อสร้างพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรและศูนย์ประวัติศาสตร์ชาวจีนเยาวราช ทั้งนี้ทางวัดมอบพระพุทธรูปทองคำจำลอง 2 องค์ พระพรหม 1 องค์ พร้อมสวดชยันโตและประพรมน้ำมนต์เพื่อเป็นสิริมงคลให้กับนายกฯ ด้วย และในช่วงค่ำวันเดียวกันนายกฯ และ ครม. เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ณ ศาลาบัณณรศภาค วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

* ศิวรักษ์ครวญตกเป็นเหยื่อ

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ สวมเสื้อสีชมพู โดยมีแจ๊กเกตสีดำทับพร้อมนางสิมารักษ์ ณ นครพนม และนายพงษ์สุรีย์ ชุติพงษ์ น้องชาย รวมทั้งคณะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล ได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินพีจี 0934 ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว อย่างคึกคัก และทันทีที่ออกจากอาคารผู้โดยสาร นางสิมารักษ์ ได้ห

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook