ขยายเวลาประกันข้าวถึง ก.ค.

ขยายเวลาประกันข้าวถึง ก.ค.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เพิ่มราคาประกันตันละพันบาทรัฐซื้อใจชาวนาเพิ่มคะแนนนิยม

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) วันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบให้ต่ออายุโครงการประกันรายได้เกษตรกรรอบสอง ตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ค.53 เดิมสิ้นสุด ธ.ค.52 และเพิ่มเติมเงื่อนไขให้เพิ่มชนิดข้าวประกาศราคาอ้างอิง เช่น ข้าว 10% ข้าว 25% เพิ่มราคาประกันข้าวหอมเปลือก หอมปทุมธานีอีกตันละ 1,000 บาท จาก 10,000 บาท เป็นตันละ 11,000 บาท และเพิ่มสิทธินำข้าวเปลือกเข้าโครงการจากรายละ 25 ตัน เป็น 30 ตัน

นอกจากนี้ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ จัดทำแผนงานและรูปแบบการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล ทั้งรูปแบบเจรจารัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ขายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟต) และ เปิดประมูลระบายข้าวสาร ซึ่งปัจจุบันมีข้าวอยู่ในสต๊อกมากกว่า 6 ล้านตัน

ให้กรมการค้าต่างประเทศ ไปหาวิธีกระตุ้นการส่งออกของภาคเอกชน เช่น อาจมีการมอบรางวัล

ส่วนราคาอ้างอิงข้าวตามโครงการประกัน รายได้เกษตรกร ะหว่างวันที่ 16-31 ธ.ค.52 ปรับขึ้นทุกรายการและส่วนใหญ่ราคาสูงกว่าราคาประกัน ยกเว้น ข้าวหอมมะลิยังต้องจ่ายชดเชยตันละ 405 บาท โดยราคาอ้างอิงข้าว ข้าวเปลือกเจ้า 5% อยู่ที่ตันละ 10,212 บาท จากราคาประกันที่ตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานีตันละ 12,072 บาท จากราคาประกันตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 11,533 บาท จากราคาประกันตันละ 9,500 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 14,895 บาท จากราคาอ้างอิงตันละ 15,300 บาท ข้าวเปลือกหอมจังหวัดตันละ 14,503 บาท จากราคาประกัน 14,300 บาท ส่วนราคาอ้างอิงข้าวเปลือกอายุสั้น (ต่ำกว่า 100วัน) ข้าวเปลือก 10 % ตันละ 10,012 บาท ข้าวเปลือก 25% ตันละ 9,612 บาท

สำหรับกรณีเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากเพลี้ยกระโดดประมาณ 1 ล้านไร่ มีผลต่อต้นทุนเพิ่มขึ้นตันละ 102 บาท เมื่อเทียบกับราคาประกันยังขายได้ราคาสูงกว่าราคาประกัน รัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องจ่ายชดเชยให้กลุ่มเกษตรกร และที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์ราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้นมีสาเหตุจากการประเมินผลผลิตที่คาดเคลื่อนจากต้นฤดูกาลประเมินที่ 24-25 ล้านตัน แต่ผลผิตจริงเหลือ 21-22 ล้านตัน เพราะได้รับความเสียหายจากภัย ธรรมชาติและโรคเพลี้ยระบาด ผู้ซื้อไม่กล้าซื้อข้าวมากเพราะราคาสูง

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ราคาข้าวที่ขยับสูงยังไม่อาจประเมินได้ว่าจะต่อเนื่องนานแค่ไหน ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวเริ่มอ่อนตัวลงมากแล้ว หลังผลประมูลซื้อข้าวของรัฐบาลฟิลิปปินส์ 6 แสนตัน เวียดนามชนะการประมูลทั้งหมดในราคา (ซีไอเอฟ) ตันละ 664.90 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ราคาข้าวไทยเสนอเกินตันละ 700 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งกระทบต่อราคาข้าว 5% ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของไทยลดลงทันที 22 ดอลลาร์สหรัฐส่วนสถานการณ์ต้นปีน่าจะทรงตัว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook