ไนกี้ ร่วมกับโครงการ (RED) ชูพลังกีฬาสู้ปัญหาโรคเอดส์

ไนกี้ ร่วมกับโครงการ (RED) ชูพลังกีฬาสู้ปัญหาโรคเอดส์

ไนกี้ ร่วมกับโครงการ (RED) ชูพลังกีฬาสู้ปัญหาโรคเอดส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไนกี้ ร่วมกับโครงการ (RED) ชูพลังกีฬาสู้ปัญหาโรคเอดส์ นักฟุตบอลชั้นนำผนึกกำลังประกาศความร่วมมือโครงการ "Lace Up. Save Lives"

ลอนดอน, สหราชอาณาจักร (30 พฤศจิกายน 2552) –  หนึ่งวันก่อนวันเอดส์โลก  นักเตะระดับแถวหน้าของโลกเข้าร่วมกับโบโน่ นักร้องนำวง ยูทู ในการประกาศความร่วมมือระหว่าง ไนกี้ อิงค์ และ โครงการ (RED)

ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ โจ โคล จากสโมสรเชลซี, อังเดร อาร์ชาวิน จากสโมสรอาร์เซนอล, มาร์โก มาเตรัซซี่ จากสโมสรอินเตอร์มิลาน, ลูคัส นีลล์ จากสโมสรเอฟเวอร์ตัน, พร้อมด้วย คลินท์ เดมป์ซีย์ และ โซล คี-ฮอน จากสโมสรฟูแลม มาพร้อมกัน ณ กรุงลอนดอน ในการร่วมประกาศความร่วมมือระหว่าง ไนกี้ อิงค์ และโครงการ (RED)

ความร่วมมือพิเศษในครั้งนี้เป็นการนำเสนอแนวทางต่อสู้กับโรคเอดส์ในแอฟริกาด้วยวิธีการที่สร้างผลควบคู่กันสองด้าน โดยการจัดกิจกรรมที่ให้ทั้งการศึกษาและมอบเวชภัณฑ์เพื่อใช้ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โครงการนี้จะจุดประกายแก่เยาวชนและใช้พลังแห่งกีฬาเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เข้าถึงแนวคิด (RED) ได้โดยง่าย ด้วยการจัดโครงการให้การศึกษาที่อิงกับฟุตบอลแก่ชุมชนในแอฟริกา

ผู้ร่วมประกาศความร่วมมือครั้งนี้กับโบโน่ ได้แก่ มร. มาร์ค ปาร์เกอร์ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไนกี้ อิงค์  ซูซาน สมิท เอลลิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ (RED) และศาสตราจารย์ มิเชล ดี คาซัทช์ไคน์ ผู้อำนวยการบริหารของกองทุนโลก (Global Fund) เพื่อต่อสู้ปัญหาโรคเอดส์ วัณโรค และมาลาเรีย พร้อมด้วยนักฟุตบอลชื่อดังจากทั่วโลก และ โบโน่ นักร้องนำวงยูทู และผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ (RED) เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทั่วโลกจะต้องยื่นมือเข้าร่วมต่อสู้กับโรคเอดส์ในแอฟริกา

ซูซาน สมิท เอลลิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ (RED) กล่าวว่า “การต่อสู้กับโรคเอดส์ในแอฟริกาจำเป็นต้องพึ่งพาแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ไว้วางใจจากผู้บริโภคในการกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมและลงมือปฏิบัติจริง ไนกี้ถือเป็นพันธมิตรที่ยอดเยี่ยมที่จะเชื่อมโยงกีฬาเข้ากับการให้การศึกษา เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมเพื่อการป้องกันและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเอดส์ เราตื่นเต้นมากกับการร่วมมือในครั้งนี้”

ไนกี้ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในอดีตถึงศักยภาพของแบรนด์ในการสร้างความตระหนักและระดมความร่วมมือจากผู้คนทั่วโลก “ในฐานะแบรนด์ระดับโลกและบริษัทที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไนกี้พร้อมทำหน้าที่นำประเด็นปัญหาสำคัญนี้มาบอกกล่าวให้ผู้คนในวงกว้างได้รับรู้ โดยใช้ฟุตบอลเป็นตัวขับเคลื่อนให้ผู้คนทั่วโลกสามารถมีส่วนร่วมกับโครงการ (RED) ได้ง่ายขึ้นเพื่อร่วมกันต่อสู้กับโรคเอดส์ในแอฟริกา” มร.มาร์ค ปาร์เกอร์ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ไนกี้ อิงค์ กล่าว

 

 

การรณรงค์ของไนกี้ และ RED ใช้แนวคิดง่ายๆ ในการชักชวนให้ผู้คนร่วม "Lace Up. Save Lives" ด้วยการซื้อเชือกผูกรองเท้า ไนกี้ (RED) โดยไนกี้จะนำกำไรทั้งหมดจากการขายเชือกผูกรองเท้า (RED) ทุกๆ คู่มาแบ่งเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน ส่วนหนึ่งบริจาคสมทบทุนให้กับกองทุนโลก (The Global Fund) ที่ทำงานต่อสู้กับปัญหาโรคเอดส์  วัณโรคและมาลาเรีย  ที่เป็นผู้จัดหาเวชภัณฑ์ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์ และอีกส่วนหนึ่งใช้สนับสนุนโครงการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์แก่ชุมชนผ่านกิจกรรมเกี่ยวกับฟุตบอล ความร่วมมือในครั้งนี้จึงมีความพิเศษด้วยรูปแบบโครงการที่ให้ทั้งการรักษาและการศึกษาไปพร้อมๆ กัน

แม้ว่าความพยายามในการลดการติดต่อของโรคเอดส์ในแอฟริกาจะประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยจากรายงานพบว่าการระบาดของโรคได้ลดความรุนแรงลงในประเทศต่างๆ ถึง 14 ประเทศ แต่ปัญหาโรคเอดส์ยังคงเป็นความท้าทายอันยิ่งใหญ่ที่โลกต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ด้วยตัวเลขประมาณการที่ระบุว่า ในแต่ละวันจะมีประชาชนทั้งชาย หญิง และ

เด็กๆ ในภูมิภาคใต้ทะเลทรายซาฮาราในทวีปแอฟริกา (Sub-Saharan Africa) เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ถึง 4,100 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่อายุระหว่าง 15-24 ปีอีกถึง 6,000 คนต่อวัน

"เชือกรองเท้าไนกี้ในโครงการ RED สามารถเรียงร้อยหัวใจของนักกีฬาจากทั่วทุกมุมโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกับผู้คนในแอฟริกาที่ถูกเชื้อเอชไอวีคุกคาม ด้วยวิธีการที่งดงามและสร้างสรรค์ การสวมใส่เชือกรองเท้า RED เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าคุณให้ความใส่ใจแก่ผู้อื่น สิ่งนี้ช่วยให้พวกเราปกป้องและดูแลผู้คนนับล้านที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทุกๆ วัน อีกทั้งยังช่วยเยียวยาผู้ที่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับผลร้ายจากการได้รับเชื้อเอชไอวี" ศาสตราจารย์ มิเชล ดี คาซัทช์ไคน์ ผู้อำนวยการบริหารของกองทุนโลก (Global Fund) กล่าว

"โครงการ RED ได้สร้างสรรค์ความร่วมมืออย่างยั่งยืนกับภาคธุรกิจ ในการให้ทุนช่วยเหลือเพื่อต่อสู้กับโรคเอดส์ในทวีปแอฟริกา การร่วมมือครั้งนี้มิได้เป็นเพียงการระดมทุนเพื่อซื้อเวชภัณฑ์เพื่อให้ผู้ติดเชื้อสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้เท่านั้น แต่ยังช่วยเป็นแรงเสริมสำหรับพวกเราในการแสดงให้ภาคเอกชนทราบว่าการร่วมมือครั้งนี้สัมฤทธิ์ผล เพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติม การที่ไนกี้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการ RED จะยิ่งทำให้แรงตระหนักนี้เข้มแข็งมากขึ้น และช่วยให้เราสามารถเชื่อมโยงไปยังแฟนบอลนับล้านทั่วโลก และดึงดูดพวกเขาให้เข้าร่วมโครงการด้วยความรักและหลงใหลในกีฬา" ดร. เทดรอส แอดฮานอม จียรีเยซุส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย และ ประธานคณะกรรมการกองทุนโลก (The Global Fund) กล่าว

เชือกผูกรองเท้า ไนกี้ (RED) จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป ที่ร้านไนกี้และร้านจำหน่ายเครื่องกีฬาชั้นนำทั่วโลก โดยในประเทศไทยจะวางจำหน่ายในราคาชุดละ 150 บาท ที่ร้านไนกี้ สาขาสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 1, สาขาคริสตัล ปาร์ค, สาขาเซ็นทรัล บางนา  และสาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อ ไนกี้ (RED) ได้ทางเว็บไซต์ nike.com อีกด้วย  ผู้สนใจสามาารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ nikefootball.in.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook