ปองพลเย้ยเอ็กซ์ อยากติดทีมชาติ ไปขอศาล

ปองพลเย้ยเอ็กซ์ อยากติดทีมชาติ ไปขอศาล

ปองพลเย้ยเอ็กซ์ อยากติดทีมชาติ ไปขอศาล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บิ๊กป๊อก-ปองพล อดิเรกสาร ยันตัดขาด เจ้าเอ็กซ์-จักรฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ไม่เอาติดทีมชาติชุดไหนๆ อีกแน่นอน เย้ยหากเจ้าตัวอยากมีโอกาสอีกก็ต้องไปขอความคุ้มครองจากศาลเอาเอง

นายปองพล อดิเรกสาร นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อนาคตของ "เจ้าเอ๊กซ์" จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ในฐานะนักกีฬาทีมชาตินั้นคงจไม่มีอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากสมาคมยืนยันจะไม่ส่งแข่งขันรายการต่าง ๆ อย่างเด็ดขาด ในขณะที่ มหกรรมกีฬาต่าง ๆ อย่างซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ นั้น คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย จะเป็นผู้ส่งแข่งขันซึ่งหาก "เจ้าเอ็กซ์" ต้องการที่จะร่วมแข่งขันให้ได้ ก็คงจะต้องไปยืนขอต่อศาลให้คุ้มครองเหมือนเช่น "เวียงจันทน์เกมส์" ครั้งนี้

"บิ๊กป๊อก" กล่าวอีกว่า หลังจบกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ตนก็จะต้องนำข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดรายงานต่อศาลปกครองให้รับทราบ พฤติกรรมของนักกีฬา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการคุ้มครองจากคำสั่งศาล แต่ในเงื่อนไขของคำสั่งคุ้มครอง มีหลายข้อที่ จักรกฤษณ์ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และยังละเมิดเงื่อนไข ทั้งที่ก่อนหน้านี้จักรกฤษณ์ ได้รับปากเป็นอย่างดีว่า หากได้ติดทีมชาติจะอยู่ในระเบียบวินัย และเงื่อนไขของสมาคม แต่กลับก่อความวุ่นวายเกิดขึ้น

"ผมได้คุยกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานโอลิมปิกไทย ทราบมาว่า นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้ง ที่ 25 ยังได้สอบถามว่า ทำไมทัพนักกีฬาไทยจึงส่งนักกีฬาที่มีปัญหามาแข่งขัน เช่นเดียวกับ กรรมการสหพันธ์กีฬายิงปืนนานาชาติ ผู้ตัดสิน นักกีฬาชาติต่าง ๆ ก็สอบถามถึงเรื่องนี้เช่นกัน ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่เสียชื่อเสียงของประเทศชาติ" นายปองพล กล่าว

สำหรับ กรณี ที่ศาลมีการวินิจฉัยว่า สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานของรัฐ และกรรมการบริหารสมาคมกีฬาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ นั้น สมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย ได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุดแล้ว เพื่อให้ทบทวนอีกครั้ง ตนทำงานกีฬามากว่า 14 ปี เพิ่งจะทราบว่า ตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรืออย่างไร ทั้งที่ สมาคมกีฬาควรจะเป็นนิติบุคคลมากกว่า นอกจากนี้ ตนจะเสนอไปยัง คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาอีกทางหนึ่ง หากเห็นว่าเป็น หน่วยงานของรัฐ ก็ควรจะระบุลงใน พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พ.ศ.2528 เพื่อจะได้รับทราบสถานะและทำงานตามนโยบายให้ชัดเจน เรื่องนี้ไม่แค่เป็นเรื่องของสมาคมยิงปืนแห่งเดียว แต่หมายถึงทุกสมาคมกีฬาที่รับรองโดย กกท.ด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook