"ชัชชาติ" เดิมพันเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ถ้าแพ้ไม่กลับเพื่อไทย แขวนนวมการเมือง

"ชัชชาติ" เดิมพันเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ถ้าแพ้ไม่กลับเพื่อไทย แขวนนวมการเมือง

"ชัชชาติ" เดิมพันเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ถ้าแพ้ไม่กลับเพื่อไทย แขวนนวมการเมือง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทีมข่าว Sanook News ตาม ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และผู้สมัครผู้ว่า กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงย่านอโศก เต็มไปด้วยแฟนคลับหลากหลายรุ่นเข้ามาขอถ่ายรูป เปลี่ยนพื้นที่ตลาดรวมทรัพย์ให้ดูคึกคักเหมือนงานแฟนมีตติ้ง

เมื่อถามถึงแนวทางการทำงาน หลังจากลงพื้นที่มาเกือบ 2 ปี ชัชชาติ เปิดเผยว่า เรื่องที่ค้างคาใจชาวบ้านมากที่สุดคือ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่มันควรจะทำแล้วมันไม่ทำ เช่น ขยะและถุงขยะที่ทิ้งเรี่ยราด ฟุตบาทที่กระเดิดน้ำกระฉูด น้ำเสีย ฝุ่นและมลพิษ เป็นต้น แต่เรื่องเหล่านี้ไม่มีใครเอาจริงเอาจัง เป็นประเด็นเส้นเลือดฝอยที่ชาวบ้านต้องเจอทุกวัน อย่างไรก็ตาม การทำงานหากได้เป็นผู้ว่า กทม. ก็จะดำเนินการทั้ง 9 ด้าน 9 ดีไปพร้อมๆ กัน ได้แก่ 1. ปลอดภัยดี, 2. สุขภาพดี, 3. สิ่งสิ่งแวดล้อมดี, 4. การเรียนดี, 5. การบริหารจัดการดี, 6. การเดินทางดี, 7. โครงสร้างดี, 8. เศรษฐกิจดี และ 9. สร้างสรรค์ดี

แต่ถ้าหากได้เป็นผู้ว่า กทม. เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเรื่องการบริหารจัดการที่ต้องโปร่งใสไม่ส่วย ไม่เส้น เมื่อถามต่อว่า ตัวละครในการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ตัวไหนที่ชื่นชอบ ชัชชาติ บอกว่าเขาชอบธานอส และถ้าได้อัญมณีเหมือนธานอส สิ่งแรกที่จะดีดนิ้วให้หายไปจาก กทม. คือ ความไม่โปร่งใส ทุจริต เซ่นส่วย การซื้อขายตำแหน่ง ตัวเองได้ยินเรื่องพวกนี้มา ไม่รู้ว่ามีจริงไหม แต่ถ้าดีดเรื่องนี้ออกไปได้คงทำงานได้ง่ายขึ้นเยอะ เมื่อถามว่าไม่เป็นฮัคเหมือนตอนหาเสียงเลือกตั้งเหรอ? ชัชชาติบอกว่าฮัคมันต้องมีอารมณ์โมโห ฉุนเฉียว ถึงจะมีพลัง แต่เราก็ไม่อยากเป็นอย่างนั้น

ตรงกันข้าม หากแพ้การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. จะกลับไปพรรคเพื่อไทยหรือทำงานการเมืองต่อหรือไม่? ชัชชาติตอบคำถามนี้อย่างชัดเจนและทันทีว่า ตอนนี้ตัวเองอายุ 55-56 ปี ใกล้จะ 60 ปีแล้ว ถ้าเลือกตั้งแล้วแพ้ แสดงว่าประชาชนเขาบอกว่าอย่าทำ แล้วจะทำต่อไปทำไม อีกทั้งตัวเองก็ออกมาจากพรรคเพื่อไทยแล้ว การกลับไปทำการเมืองระดับชาติ ยากที่จะไม่สังกัดพรรค และวุ่นวายกว่า

“ถ้าแพ้จะไปอยู่ทำไม แล้วเราก็อายุจะ 60 แล้ว 55-56 แล้ว อย่าไปคิดว่าโลกขาดเราไม่ได้...สิ่งที่เราอยากจะทำ ถ้าประชาชนบอกว่าอย่าทำเลย ก็พอแล้ว มีอย่างอื่นทำอีกเยอะแยะชีวิต...แล้วถ้าการเมืองใหญ่ต้องไปอยู่พรรคอะไร เราออกมาแล้ว เราก็ไม่อยากกลับ แนวคิดเราเป็นอิสระอยู่แล้ว แต่การเมืองใหม่ มันเน้นอิสระไม่ได้ ต้องเข้าพรรค วุ่นวาย” ชัชชาติ กล่าว

 

ถามถึงประเด็นความเป็นอิสระจริงไหม? ทำไมผู้สมัคร ส.ก. ของพรรคเพื่อไทยบางคนใช้สีเขียว CI ของชัชชาติ มาเป็นป้ายหาเสียง ชัชชาติชี้แจงว่า สีนี้ตัวเองไม่ได้จดลิขสิทธิ์ สีเขียวเป็นสีของความหวัง แต่ถ้าเตี๊ยมกันมาก็ต้องใช้สีเดียวกันตั้งแต่ต้น เช่นดียวกับป้ายหาเสียงที่ตัวเองออกแบบมาให้ขนาดเล็ก ก็มีบางคนบางพรรคทำตามบ้าง ก็เป็นธรรมดา ต้องไม่สนใจเรื่องเล็ก ตอนนี้เราต้องสนใจเรื่องใหญ่ “ผมบอกอิสระก็คือิสระ เชื่อผม” ชัชชาติย้ำ

แต่ถ้ามีผู้สมัคร ส.ก. บางคนเขายินดีที่จะสนับสนุน ตัวเองก็ไม่มีปัญหา เพราะเราลงอิสระ เข้าไปก็ต้องเข้าไปคุยกับ ส.ก. ที่เขาเลือกมาอยู่ดี ถ้าเขาเห็นด้วยกับนโยบายของเราก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะเราเข้ามาทำงาน เอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง จะเอาคำว่าอิสระ แล้วมาเล่นตัว เป็นศัตรูกับทุกคน อย่างนี้มันก็ไม่ได้

ทั้งนี้ ชัชชาติยังยืนยันที่จะทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ซึ่งตนเองและทีมงานมีความพร้อม ลงพื้นที่มานานจนเข้าใจปัญหา และมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้นบายที่เสนอมาเป็นจริง โดยไม่ใช้งบประมาณเยอะ

“เราทำงานมานาน 2 ปีครึ่ง เราเข้าใจปัญหา แล้วเรามีความตั้งใจมุ่งมั่นมากๆ เลย เรามีทีมงานที่พร้อมและผมเชื่อว่านโยบายเราไม่ได้ขายฝัน ทำได้จริง ไม่ได้ใช้เงินเยอะ แล้วก็แตะชีวิตของพวกเราทุกคน เชื่อว่าเราพร้อมที่จะเป็นผู้นำของความหวัง พาพวกเราทุกคนทั้งหมดเดินไปด้วยกันเพื่อทำกรุงเทพให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” ชัชชาติ กล่าวปิดท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook