จับแก๊งมาเฟียเกาหลีอุ้มเสี่ยเต็นท์รถรีด 5 ล้าน

191 รวบแก๊งมาเฟียเกาหลีอุ้มเสี่ยเต็นท์รถชาติเดียวกันรีดเงิน 5 ล้าน ใช้ไม้กอล์ฟ-ฆ้อนทุบน่วม แฉ"เสธ.ดำ"หนุนหลัง พันแก๊งมือปืนรับจ้างเกาหลี

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบก.ตปพ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผกก.2 ตปพ. พ.ต.ต.ดวงโชติ สุวรรณจรัส สว.งานสายตรวจ 2 แถลงผลจับกุม นายควาก ยอง ฮัน (KWAK Young Hwon) และนายปาร์ค คิว เทค (Park Qyu Taek) ชาวเกาหลี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 3480,3481/2552 ลงวันที่ 17 ธ.ค.52 ข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น พร้อมของกลาง ไม้กอล์ฟ 3 อัน ฆ้อนตอกตะปู 2 อัน หนังสือเดินทาง และผ้านวมแบบเกาหลี 1 ผืน

พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นายโซ ฮอน วู (Cho Hyun Wo) หรือโทนี่ อายุ 42 ปี ชาวเกาหลี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.วังทองหลาง ว่าถูกผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมสมาชิกในแก๊งอีก 2 คนที่ยังหลบหนี คือนายโซ ซอง โอ๊ค (Seo Sung Ok) และนายโช ซัง วอน (Cho Sang Won) ซึ่งถูกออกหมายจับหมดแล้ว โดยวันเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้ร่วมกันจับตัวนายโทนี่ ไปกักขังไว้ที่บ้านเลขที่ 633/23 หมู่บ้านจันทรดารา ซอยลาดพร้าว 80 แยก 22 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. และทั้งหมดได้ร่วมกันใช้กำลังบังคับขู่เข็ญให้นายโทนี่ นำเงินสดจำนวน 5 ล้านบาทมามอบให้เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ซึ่งกลุ่มคนร้ายอ้างว่าเป็นเงินที่นายโซ ฮอน โช พี่ชายของนายโทนี่ ยืมเงินไปลงทุนทำธุรกิจทัวร์ แต่นายโทนี่ ไม่ทราบว่ามีการยืมเงินจริงหรือไม่ หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายยังให้นายโทนี่ ทำสัญญากู้ยืมเงิน 5 ล้านบาทแทนพี่ชาย

พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า เมื่อนายโทนี่ ไม่ยอมทำสัญญากู้เงินจึงถูกทำร้ายร่างกายด้วยการนำผ้านวมมาพันรอบตัวแล้วใช้ ไม้กอล์ฟและฆ้อนรุมทุบตีตามร่างกายตนได้รับบาดเจ็บ และยังขู้บังคับไม่ให้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปแจ้งความกับตำรวจ จากนั้นได้บีบบังคับให้นายโทนี่ นำรถยนต์ที่อยู่ในเต็นท์รถมือสอง ซึ่งนายโทนี่ เป็นเจ้าของเต้นท์ที่ย่านรัชดา ให้ขายในราคาถูกเพื่อรีบนำเงินมาใช้คืน โดยได้ขายรถไปทั้งหมด 4 คัน หลังจากได้รับเงินจำนวน 680,000 บาท กลุ่มคนร้ายก็ยังไม่ยอมปล่อยนายโทนี่ และยังบังคับให้หาเงินมาให้อีก 2 แสนบาท แต่นายโทนี่ หาเงินมาได้เพียง 1 แสนบาท หลังได้รับเงินก็ยอมปล่อยตัวออกมา และยังขู่ให้นำเงินส่วนที่เหลือมาให้กลุ่มคนร้ายอีกด้วย

"หลังจากนายโทนี่ ถูกปล่อยตัวได้เข้าไปแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง และได้ประสาน 191 ติดตามตัวคนร้ายจนนำไปสู่การออกหมายจับ และ พ.ต.ต.ดวงโชติ ได้นำกำลังไปเฝ้าที่พักของนายปาร์ค ที่ศรีวราห์คอนโด ถ.ทาวน์อินทาวน์ ซึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาชาวไทย ส่วนกำลังอีกชุดได้ไปที่บ้านเลขที่ 1211/65 ศรีวรากาเด้นคอนโด 5 ซอยลาดพร้าว 94 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.เจ้าหน้าที่ซุ่มดูอยู่ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.กระทั่งจับตัวได้ช่วงค่ำวันนี้ ส่วนบ้านที่นายโทนี่ ถูกนำตัวไปกักขังทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้ไปเช่าเปิดเป็นบริษัทจัดทัวร์ แต่เมื่อไปตรวจสอบพบว่าได้ปิดไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์" พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ กล่าว

พ.ต.ต.ดวงโชติ กล่าวว่า หลังได้รับการประสานจาก สน.วังทองหลาง ให้ช่วยคลี่คลายคดีก็ได้ส่งหมายจับไปให้ตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสถานฑูตเกาหลี ก็ได้รับข้อมูลจากสถานฑูตว่า เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมามีชาวเกาหลีที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ร้องทุกข์หลายราย เนื่องจากถูกแก๊งมาเฟียเกาหลีขู่กรรโชกทรัพย์ ส่วนทางตำรวจท่องเที่ยวระบุว่า น้องชายของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม เคยต้องคดีฆ่าคนตายที่เมืองพัทยา เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ต้องหาที่ 4 นายโช ซัง วอน เจ้าหน้าที่ไม่มีข้อมูล ทราบแต่เพียงชื่อ เพราะลักลอบเข้ามาในประเทศไทย และจากการตรวจสอบยังสืบทราบว่า นายโช พัวพันกับแก๊งมือปืนรับจ้างในเกาหลี หลังก่อเหตุจะหลบหนีมาซ่อนตัวในประเทศไทย

รายงานข่าวระบุว่า มีนายทหารนอกราชการชื่อ "เสธ.ด." คอยหนุนหลังแก๊งมาเฟียเกาหลีย่านรัชดา ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสืบสวนขนยายผลเพื่อทลายแก๊งมาเฟียเกาหลี และบุคคลที่ให้การสนับสนุน โดยเชื่อว่าจะทำมาแล้วหลายครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้ง 2 คน ได้ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ยอมให้การกับเจ้าหน้าที่ โดยมีญาติและภรรยาชาวไทยเดินทางมาพบระหว่างทำการแถลงข่าว พร้อมเอะอะโวยวายไม่ให้สื่อบันทึกภาพทำข่าว โดยนำเสื้อแจ๊คเก็ตมาปิดบังใบผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จึงต้องเชิญตัวออกไปด้านนอก แต่ยังส่งเสียงโวยวาย และมีการปะทะคารมกับผู้สื่อข่าวโดยขู่จะฟ้องร้องหากนำรูปไปลงข่าว