พ่ออดีตสามีแทงครูสาว ทุกข์ใจ ลูกชายสร้างแต่ความเดือดร้อน เจอหน้าจะกระทืบซ้ำ

พ่ออดีตสามีแทงครูสาว ทุกข์ใจ ลูกชายสร้างแต่ความเดือดร้อน เจอหน้าจะกระทืบซ้ำ

พ่ออดีตสามีแทงครูสาว ทุกข์ใจ ลูกชายสร้างแต่ความเดือดร้อน เจอหน้าจะกระทืบซ้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่ออดีตสามีที่ก่อเหตุแทงครูสาว ทุกข์ใจ ลูกชายสร้างแต่ความเดือดร้อน สงสารลูกสะใภ้กับหลาน เจอหน้าจะกระทืบซ้ำ 

(24 มิ.ย.65) จากกรณี ครูกุ๊ก อายุ 29 ปี ครูสาวที่ถูกสามีคือ นายวรพงษ์ หรือ โบ้ อายุ 26 ปี บุกเข้าไปตามง้อขอคืนดี ก่อนใช้มีดแทงครูกุ๊กหลายแห่ง รวม 8 แผล จนเสียชีวิตภายในห้องพักครูชั้น 2 ของอาคารเรียน ต่อหน้าเพื่อนครูหลายคนอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะกระโดดหนีลงมาจากชั้น 2 ของอาคารเรียน จนขาหักและไม่สามารถหลบหนีไปได้ และถูกรวบตัวก่อนนำส่ง รพ.อำเภอปราสาท และส่งต่อรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุรินทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าดูป้องกันการหลบหนีอย่างใกล้ชิด

บรรยากาศงานบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเป็นไปอย่างเศร้าสลด ลูก 2 คนของผู้ตายและผู้ก่อเหตุ มีเด็กหญิงวัย 3 ขวบ และเด็กชายวัย 1 ขวบครึ่ง ที่ไร้เดียงสา ยังคงวิ่งเล่นกับเพื่อนและหยอกล้อกับปู่ย่าเป็นปกติ โดยไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิตแล้ว และในวันนี้ (25 มิ.ย.) ก็จะมีการฌาปนกิจศพ ที่วัดตะเคียน ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท เวลา 12.30 น. ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหานายวรพงษ์ เบื้องต้น ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และจะมีการดำเนินการยืนฝากขังที่ศาลจังหวัดสุรินทร์ โดยขณะนี้ผู้ต้องหายังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.สุรินทร์ เพื่อรอการผ่าตัด ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูอย่างเข้มงวด

ด้าน นายบุญศรี อายุ 73 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ และเป็นปู่ของเด็กทั้ง 2 คน เผยด้วยความคับแค้นใจที่มีต่อลูกชายว่า พอโตขึ้นมาอายุ 12-13 ปี เที่ยวอย่างเดียว เล่นแต่เกม ตนเคยไปไล่ตีที่โต๊ะสนุ๊กมาแล้ว เป็นคนกะล่อนปลิ้นปล้อนโกหกตั้งแต่เล็กมา แม่ยายเป็นคนธรรมะธรรมโม ไปอยู่ที่บ้านได้ 4-3 วันก็หาเรื่องทะเลาะกัน ทะเลาะกันตั้งแต่ยังไม่มีลูกแล้ว ทะเลาะทุกเรื่องอะไรก็เป็นเรื่องไปหมด เอาแต่ใจตัวเอง ตัวเองถูกอยู่คนเดียว ตัวลูกสะใภ้เองก็เพิ่งทำงานที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ประมาณปีกว่าเอง ส่วนตัวลูกชายตนนั้นไม่ได้ทำงาน โกหกตอแหลไปเรื่อย ขอแต่เงินเมียถ้าไม่ได้ก็เป็นเรื่อง พอให้เงินเมียไป 4-5 ร้อยบาท แป๊บเดียวก็ขอเงินคืน

เสียใจมากที่สุดที่มันทำแบบนี้ ถ้าเขาให้เยี่ยมที่โรงบาลจะขอเข้าดูจะไปเยี่ยมแล้วจะกระทืบมันซ้ำเลย มันทำบาปอย่างใหญ่หลวงจริงๆ ถ้าตบตีก็ยังพอว่า นี่เอาจนชีวิตเขาหาไม่ แล้วลูกทั้ง 2 คน จะอยู่ได้อย่างไร ให้ไปทำงานก็มีแต่เรื่อง เดี๋ยวก็เงินหายๆ ถ้าอยู่บริษัทใหญ่ๆ ติดคุกไปนานแล้ว ทำงานไม่ทนอ้างโน่นอ้างนี่ เขาให้เข้าเจ็ดโมงครึ่งตัวเองไปแปดโมงกว่า ยังไม่เคยเห็นจะให้เงินพ่อแม่เลยสักห้าร้อยหรือร้อยหนึ่งไม่มี เอาไปลงขวดเหล้ากับเพื่อนหมด เสร็จแล้วก็หาแต่เรื่องเมีย พอเมียไม่เปิดประตูให้ก็จะพังบ้าน ทะเลาะกันตีกันต่อหน้าลูก มันไม่สนใจลูกเลย

ก่อนเกิดเรื่องมันบอกว่าจะต้องแก้แค้นมันให้ได้ ต้องเอามันให้ได้ ตนก็พูดไปว่าจะเอาเรื่องอะไรกับมันนักหนา ตอนนั้นแค่ตบตีกันมันก็พอได้แล้ว มันก็บอกว่าจะเอาถึงชีวิตมันเลย และตนยังบอกอีกว่าอย่าทำดูลูกเอ็งสิ พอแล้วอย่าทำ มันก็บอกว่าลูกก็ลูกไป มันไม่สนใจหรอก ดูสิมันเป็นคนประเภทไหนไม่สงสารลูก ขนาดบอกให้เงินลูกบ้าง มันยังว่าเงินที่ให้ไปซื้อของอะไรก็มีแต่มัน ตนเลยบอกให้พอได้แล้วหยุดพูด พูดมามีแต่โกหกทั้งหมด (พูดพร้อมกับถุยปากไปด้วย) โกหกตลอด ทรัพย์สินหามาได้ก็ทำลายทุบทิ้งทั้งหมด มีโทรศัพท์กี่เครื่องก็ทุบทิ้งหมด 3-4 เครื่อง ตนเป็นซื้อให้ จนหมดเนื้อหมดตัวกับลูกชายคนนี้ โทรศัพท์เครื่องหมื่นกว่าบาทที่แม่เขาซื้อให้ลูกสาวเขาใช้ก็โดนทุบพังหมด ตนก็เลยช่วยเงินไปสองพันให้ลูกสะใภ้ไปซื้อใหม่ พอใช้ได้ไม่นานก็โดนทุบอีก ตนก็เลยไปซื้อให้ใหม่สี่พันกว่าบาทได้ใช้ถึงวันนี้

แล้วที่แย่สุดๆ ตอนที่ลูกชายคนเล็กของมันกำลังจะคลอดมันยังไปนั่งกินเหล้ากับเพื่อนมันอีก ไม่สนใจเมีย พอตนไปหาลูกสะใภ้ที่โรงพยาบาล ลูกสะใภ้มันร้องเลย บอกพ่อหนูให้ไปเบิกเงิน เงินก็หายไปอีก จากเงินทั้งหมดสามพันกว่าบาท เอามาให้หนูแค่ 800 บาท จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าโรงพยาบาลเจ็ดพันกว่าบาท น่าละอายจริงๆ เอาทุกอย่างเลย 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook