แม่เด็ก ป.5 เรียกค่าทำขวัญ 1 หมื่น ปมเด็ก ป.6 อนาจารลูก ไกล่เกลี่ยจบแล้วไม่รู้เป็นข่าวได้ไง

แม่เด็ก ป.5 เรียกค่าทำขวัญ 1 หมื่น ปมเด็ก ป.6 อนาจารลูก ไกล่เกลี่ยจบแล้วไม่รู้เป็นข่าวได้ไง

แม่เด็ก ป.5 เรียกค่าทำขวัญ 1 หมื่น ปมเด็ก ป.6 อนาจารลูก ไกล่เกลี่ยจบแล้วไม่รู้เป็นข่าวได้ไง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่เด็ก ป.5 เผยกรณีเด็กป.6 ขืนใจลูกสาว ไม่ได้พาไปตรวจร่างกายหรือแจ้งความ เพราะไกล่เกลี่ยกับครอบครัวคู่กรณีแล้ว เรียกค่าเสียหายไป 1 หมื่นบาท ไม่รู้เป็นข่าวดังได้ยังไง

(27 มิ.ย.65) จากกรณีเรื่องราว สุดหดหู่ใจ เมื่อเด็กนักเรียนชาย ชั้น ป.6 ก่อเหตุอนาจาร เด็กนักเรียนหญิง ชั้น ป.5 อายุ 11 ปี ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ทางด้านนางบี (นามสมมติ) ผู้อำนวยการโรงเรียน บอกกับเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ปกครองเพราะทางผู้อำนวยการจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเด็กหญิงเอ ก็ทำตาม จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ที่ผ่านมา ผู้ปกครองเด็กบังเอิญได้ยินเด็กหญิงเอกำลังคุยปรึกษากับรุ่นพี่ ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ว่าจะทำยังไงดี ผอ.ไม่ให้บอก ทางผู้ปกครองจึงได้เรียกเด็กหญิงเอมาถาม ว่ามีเรื่องอะไรหรือไม่ จนทราบเรื่อง เด็กหญิงเอจึงได้เล่าให้ผู้ปกครองทราบ

โดยในวันที่เกิดเหตุ นางสาวซี (นามสมมติ) น้าของเด็กหญิงเอ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุเด็กหญิงเอวิ่งร้องไห้ไปบอกครูท่านหนึ่ง และครูท่านนี้ก็พาเด็กหญิงเอไปคุยกับ ผอ. แต่ทางด้าน ผอ. กลับบอกกับเด็กว่า ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ปกครอง เพราะจะทำให้ ทาง ผอ.เสียหายและอีกอย่างก็ไม่ท้องหรอก

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุ ภายในโรงเรียน ต.ยางสาว อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งโรงเรียนดังกล่าว ทราบว่ามีครูผู้สอน จำนวน 2 คน และ ผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่โรงเรียนแห่งนี้มานานกว่า 5 ปีแล้ว โดยในวันนี้ ทางโรงเรียนยังคงเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ แต่ไม่พบตัว ผู้อำนวยการ เนื่องจากทราบว่าเดินทางไป สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต3 และในวันนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมเดินทางขึ้นมาตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวในวันนี้ แต่ยังคงมาไม่ถึง

จากการตรวจสอบ ภายในโรงเรียน ทราบว่าจุดเกิดเหตุ เกิดขึ้นภายในห้องสมุด เมื่อวันอังคาร ที่ 21 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา โดยเด็กชายวัย 12 ปี ป.6 ได้ก่อเหตุอนาจารเด็กหญิง ป.5 อายุ 11 ปี

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเด็กที่ถูกอนาจาร พบกับ นางซี (นามสมมุติ) ผู้ปกครองเด็กหญิง ซึ่งได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร ที่ 21 มิถุนายน 2565 และทั้งสองฝ่าย ก็ได้นัดพูดคุยเจรจากันวันศุกร์ 24 มิถุนายน 2565 สุดท้ายได้ข้อสรุป จ่ายค่าทำขวัญ จำนวน 1 หมื่นบาท เรื่องทุกอย่างก็จบลง เพราะถือว่าทั้งสองฝ่ายเป็นญาติกัน และทางตนก็ไม่ได้พาเด็กไปตรวจร่างกาย และไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด ซึ่งก็ไม่ทราบว่า กลายมาเป็นข่าวดังได้ยังไง

จากการสอบถาม นางซี (นามสมมุติ) ผู้ปกครองเด็กหญิง เล่าว่า ตนเองทราบเรื่องวันศุกร์ ทราบเพราะเด็กโทรหากัน บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าทำไงดี เขาไม่ให้บอกผู้ปกครอง พอเด็กน้อยเล่าให้กันฟัง ยายก็เลยรู้ โดยลูกเล่าให้ฟังว่า มันเปิดกระโปรงหนู แล้วทำมิดีมิร้าย ลูกก็พยายามขัดขืน เรื่องนี้ตนเองเชื่อมั่นว่าลูกถูกกระทำ เบื้องต้นยังไม่ได้พาลูกไปตรวจร่างกาย และยังไม่ได้แจ้งความ เพราะมีการไกล่เกลี่ยกันแล้วกับเด็กผู้ชาย จริงๆแล้วเรื่องนี้จบไปแล้ว แต่มาเป็นข่าวได้ยังไง ตนเองไม่รู้ ว่าเป็นข่าวดังได้ยังไง ตอนนี้ทางโรงเรียนก็ทราบเรื่องแล้ว ซึ่งในการไกล่เกลี่ยนั้น มีการตกลงไม่เอาเรื่องกันแล้ว มีการจ่ายค่าเสียหาย เรียกไป 10,000 บาท ก็จบกัน ทุกอย่างสงบกันแล้ว ไม่ได้ติดใจ และอีกอย่างก็เหมือนเป็นญาติกัน ลูกพี่ลูกน้อง พอมาได้ยินข่าว เป็นข่าวดัง ตนก็รู้เสียใจมาก

ด้าน นักปกครองรายหนึ่ง อายุ 54 ปี เล่าว่า กรณีชาวบ้านไม่พอใจเรื่องนี้ ถึงขนาดพากันขับไล่ ผอ.นั้น ข้อเท็จจริง ยังไม่ได้มีการขับไล่ เพียงแค่มีการพูดคุยให้ตัว ผอ.ย้ายออกจากพื้นที่ ทำเรื่องย้ายก่อน ซึ่งตัว ผอ.ก็ยอมรับผิดอยู่ ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรง มีการโหวตเสียงให้ย้าย และส่วนตัวมองว่านิสัยของ ผอ. ตนเองมองว่าก็ดีอยู่ เพราะมีการพัฒนาโรงเรียน หางบประมาณมาพัฒนา และมีการเข้ากันกับชาวบ้านได้ดี ส่วนที่มีข่าวลือว่า ผอ.เข้ากับชาวบ้านไม่ได้นั้น ตนเองไม่ทราบ

ซึ่งในส่วนเรื่องดราม่ากรณีที่ ผอ.บอกว่า เด็กไม่ท้องหรอกและห้ามเด็กไปแจ้งผู้ปกครองนั้น จากการสอบถามข้อเท็จจริงในพื้นที่เกิดเหตุนั้น ได้มีการยืนยันแล้วว่า ทางตัว ผอ.นั้นไม่เคยมีการพูดกล่าวอ้าง ว่าเด็กไม่ท้องหรอก และห้ามเด็กไปแจ้งผู้ปกครองนั้น ซึ่งในตอนนั้น คือได้มีการพูดคุย พร้อมประสานให้ทางผู้ปกครองของฝ่ายเด็กชายที่ก่อเหตุ ซึ่งทำงานอยู่ กทม. นั้นเดินทางกลับมาพูดคุยกันเสียก่อน เนื่องจากเรื่องยังไม่ชัดเจน จึงได้นัดพูดคุยกันในวันศุกร์ที่ผ่านมา ยืนยันทางตัวท่าน ผอ.นั้น ไม่มีการพูดอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook