โธ่ชีวิต! ลูกแทงพ่อตาย ญาติเคราะห์ซ้ำโดนหลอกโอนเงินค่าเอาศพออก(มีคลิป)

โธ่ชีวิต! ลูกแทงพ่อตาย ญาติเคราะห์ซ้ำโดนหลอกโอนเงินค่าเอาศพออก(มีคลิป)

โธ่ชีวิต! ลูกแทงพ่อตาย ญาติเคราะห์ซ้ำโดนหลอกโอนเงินค่าเอาศพออก(มีคลิป)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีนายเขมา อายุ 75 ปี ถูกนายชัชวาล หรือปู  อายุ 28 ปี ลูกชายแท้ๆของตัวเอง ใช้มีดแทงและฟัน จนเสียชีวิต

แล้วนำศพใส่รถเข็นพ่วงรถจักรยานยนต์ไปทิ้งข้างทาง บนถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม เมื่อเวลาประมาณ 02.14 น.วันที่ 29 มิ.ย. จนกระทั่งเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บ้านพักที่เกิดเหตุ เหตุดังกล่าวสร้างความเศร้าสลดให้กับญาติผู้ตายและชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะนางศิริกัญญา อายุ 48 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ยังทำใจไม่ได้ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นน้องชายและเป็นลูกชายแท้ๆของพ่อ บรรยากาศทั่วไปชาวบ้านกำลังช่วยกันเตรียมสถานที่เพื่อรอรับศพของนายเขมา ซึ่งได้ส่งไปชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์

หลังจากก่อนหน้านี้โรงพยาบาลประโคนชัยได้ชันสูตรไปแล้วเบื้องต้น แต่เกิดปัญหาเนื่องจากญาติยังหาเงินอีกจำนวน 10,000 บาทที่จะต้องจ่ายให้เป็นค่ารับศพออกจากโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ไม่ได้ จึงได้จับกลุ่มหาแนวทางที่จะโอนเงินจำนวนดังกล่าวให้โรงพยาบาลบุรีรัมย์

จากนั้นผู้สื่อข่าวซึ่งยังอยู่บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อรอเก็บภาพระหว่างศพเดินทางมาถึง เห็นความวุ่นวายของญาติผู้เสียชีวิต จึงเข้าไปสอบถามถึงที่มาที่ไป

จนมาทราบจากนางศิริกัญญา ลูกสาวผู้เสียชีวิตว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้หญิงโทรศัพท์เข้ามาบอกว่า จะต้องจ่ายค่าชันสูตรศพให้กับโรงพยาบาลประโคนชัยจำนวน 3,500 บาท จึงโอนไปทันที ไม่กี่นาที ผู้หญิงคนเดิมโทรศัพท์มาอีกว่า ต้องจ่ายค่าชันสูตรศพให้กับโรงพยาบาลบุรีรัมย์อีก 4,500 บาท ตนก็โอนไปอีก

ทั้งสองครั้งโอนเข้าบัญชีชื่อ น.ส.นิรุบล อีกไม่ถึง 10 นาที หญิงคนเดิม โทรมาอีกครั้ง คราวนี้จะต้องจ่ายค่าเอาศพออกจากโรงพยาบาลอีก 10,000 บาท ถึงตอนนี้ตนไม่มีเงิน จึงมาปรึกษากับครอบครัวว่าจะหาเงินจากไหน จนกระทั่งนักข่าวทราบ

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อหญิงสาวคนดังกล่าว ถามถึงที่มาที่ไป ว่าเงินที่โอนไป 2 ครั้งรวมเป็นเงิน 8,000 บาท โรงพยาบาลเป็นคนเรียกรับเงินหรือไม่ ตอนแรกพูดคุยบ่ายเบี่ยงประเด็น และจะไม่พยายามคุยด้วย

สุดท้ายยอมรับว่าเป็นคนเรียกเงินเอง และขอร้องไม่ให้เอาเรื่องนี้ไปแจ้งโรงพยาบาล เพราะกลัวจะตกงาน โดยจะโอนเงินทั้งหมดคืนให้ทันที ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีก

เบื้องต้นทราบว่าหญิงสาวคนดังกล่าว ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลประโคนชัย แผนกเวศกิจฉุกเฉิน ได้รับรายงานว่าวันพรุ่งนี้ โรงพยาบาลจะมีการประชุมด่วนเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะคาดว่าไม่ใช่เป็นครั้งแรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook