กกต.ศธ.ตามเช็กบิลพวกขี้แพ้ชวนตี

แจ้งข้อมูลเท็จร้องเรียนเลือกตั้ง เสนอต้นสังกัดเอาผิดทางวินัย

รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานคณะกรรมการติดตาม ดูแลการสรรหาและการเลือกตั้งคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ กระทรวงศึกษาธิการ หรือ กกต. ศธ. เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้งดังกล่าวมีการร้องเรียนเรื่องการทุจริตเข้ามาโดยตลอดซึ่งก็ไม่ได้เกินความคาดหมาย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหาก นายจุรินทร์ ลักษณ วิศิษฏ์ รมว. ศึกษาธิการ ไม่ได้แต่งตั้ง กกต. ศธ. ขึ้นมาทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตซึ่งเป็นการปรามไว้ก่อน การร้องเรียนและปัญหาการทุจริตในการเลือกตั้งผู้แทน ก.ค.ศ. อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ และ อ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการ คงจะวุ่นวายมานี้

รศ.ดร.สุขุม กล่าวต่อไปว่า จริงแล้วทุกคนคงคาดหวังว่าการเลือกตั้งในวงการครูซึ่งเป็นผู้สอนในเรื่องประชาธิปไตยควรปราศจากข้อครหาทุจริต ซื้อสิทธิขายเสียง แต่คงต้องยอมรับว่าเมื่ออยู่ในคนหมู่มากคงควบคุมกันยาก ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ก็พบว่า มีการกลั่นแกล้ง ร้องเรียนโดยไม่มีมูลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับเลือกแต่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งตนจะได้รวบรวมข้อมูลและนำเสนอผู้บริหารต้นสังกัดรับทราบเพื่อดำเนินการเอาผิดทางวินัยต่อไป

ข้าราชการครูไม่เหมือนประชาชน หรือ ส.ส. เพราะมีเรื่องของวินัยกำกับอยู่ หากทำตัวเป็นพวกขี้แพ้ชวนตี ร้องเรียนเท็จเพื่อกลั่นแกล้งกัน จะทำให้กระบวนการแต่งตั้งล่าช้าตามไปด้วย เพราะบางรายร้องเรียนว่ามีการขายเสียง โดยมีหลักฐานการโอน-รับเงินมาให้ตรวจสอบ ก็ต้องเสียเวลาในการไปตรวจสอบหลักฐานเหล่านี้ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับพบว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งต่อไปคงต้องมีการเอาจริงเอาจังกับครูกลุ่มนี้เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างบ้าง รศ.ดร.สุขุม กล่าว

ประธาน กกต.ศธ.กล่าวอีกว่า เมื่อ กระบวนการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว กกต.ศธ.จะรวบรวมปัญหาการทุจริต และข้อร้องเรียน ต่าง ๆ จัดทำเป็นคู่มือสำหรับการสรรหาและการเลือกตั้ง โดยมีกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นประกอบด้วยเพื่อเป็นบรรทัดฐานสำหรับการสรรหาและการเลือกตั้งครั้งต่อ ๆ ไป.