''แอร์โชว์'' ช่วยช้างกลับบ้าน

ปิดโครงการ 2 ตัวสุดท้าย

ตระหนักดีถึงปัญหาช้างไทยที่กำลังสูญพันธุ์ และต้องการความช่วยเหลือ ผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย แอร์โรว์ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ แอร์โรว์ ช่วยช้างกลับบ้าน ร่วมปล่อยช้าง 8 ตัวเข้าสู่ป่า ภายใต้โครงการ คืนช้างสู่ป่าเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ของมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ เพื่อปล่อยช้างคืนสู่ธรรมชาติ จำนวน 81 ตัว ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ผ่านมาแอร์โรว์ได้ปล่อยช้างไปแล้ว 6 ตัวด้วยกัน ล่าสุดกับการส่งช้างกลับบ้าน 2 ตัวสุดท้าย ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง จ.ลำปาง นำโดย ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ไอ.ซี.ซี.ฯ และ สมพล ชัยสิริโรจน์ ผอ. ผลิตภัณฑ์แอร์โรว์

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรม ชาติ กล่าวว่า แอร์โรว์เข้าร่วมกับโครงการในการคืนช้างสู่ธรรมชาติ ซึ่งเป็นไปด้วยดีและทำสำเร็จอย่างรวดเร็วภายในเวลา 2 ปี ช้าง 2 ตัวสุดท้ายคือ พังตุ๊กตา อายุ 27 ปี และ พังนำโชค อายุ 59 ปี ถูกปล่อยในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นเดือนเฉลิมพระเกียรติพอดี นับเป็นเรื่องดี และยิ่งเป็นตัวเลขมงคลมากขึ้นเมื่อการปล่อยช้างครั้งนี้ไม่ได้ปล่อยแค่ 2 ตัว แต่เป็น 3 ตัว เนื่องจากพังตุ๊กตานั้นเป็นช้างแม่รับ (แม่บุญธรรม) ที่ช่วยดูแลลูกช้างอีกตัวคือ พังดวงดาว อายุ 2 ปี 3 เดือน ซึ่งพังดวงดาวติดแม่มาก เมื่อต้องปล่อยแม่จึงจำเป็นต้องปล่อยลูกคู่กันไปด้วย เมื่อนับรวมแล้วจึงเป็น 9 ตัว ได้เลข 9 เป็นเลขมงคล สำหรับการปล่อยช้างของโครงการคืนช้างสู่ธรรมชาติ 81 ตัวนั้นถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าจะหยุดอยู่เพียงเท่านี้ ยังคงมีต่อไปเรื่อย ๆ แต่อาจเปลี่ยนชื่อใหม่แทน

ความฝันของเราไม่ว่าปล่อยช้างกลับบ้านที่ไหน อยากเห็นช้างตั้งท้องและออกลูก เมื่อถึงวันนั้นถือว่าจุดหมายของเราสำเร็จ ในปีหน้าอาจเปลี่ยนนโยบายใหม่เก็บช้างให้อยู่กับเรานาน ๆ เพื่อสืบพันธุ์ ทุกวันนี้ช้างที่ปล่อยส่วนใหญ่มีแต่ตัวผู้ เพราะตัวเมียตามศูนย์ต่าง ๆ เก็บไว้สืบพันธุ์

ผอ.ผลิตภัณฑ์แอร์โรว์ นายสมพล ชัยสิริโรจน์ กล่าวว่า แอร์โรว์ทำงานเกี่ยวกับช้างมาหลายปี ตั้งแต่โครงการอย่าทำช้างเจ็บ ช่วยเหลือค่ายา ค่าอาหารสำหรับช้าง กระทั่งนายบุญเกียรติ โชควัฒนา แนะนำว่าควรทำอะไรที่ยั่งยืนในการช่วยช้าง เมื่อทราบว่ามีโครงการคืนช้างสู่ธรรมชาติของมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ จึงไม่รีรอในการเข้าร่วมและรับดูแลช้าง 8 ตัวในการนำกลับสู่ป่า หลังจบโครงการคงไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ในปีหน้าคงปล่อยช้างต่อไป รวมถึงอาจทำโครงการอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ยั่งยืนกว่านี้ด้วย เช่น การปลูกป่าให้เป็นอาหารช้าง หรือการผสมพันธุ์เทียมช้าง เป็นต้น

ด้าน น.ส.บุญญาภาณิ์ เบญจรงคกุล ที่เดินทางร่วมปล่อยช้างกลับบ้านครั้งแรก เผยว่า ดีใจมาก ปกติเคยแต่เห็นในทีวี เป็นโครงการที่ดีน่ามีต่อไปเรื่อย ๆ ที่ผ่านมาเวลาเห็นช้างเดินตามท้องถนนได้แต่สงสารคิดว่าเขาคงทรมานที่ต้องมาเดินในเมือง แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรดี แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าจะสามารถช่วยเหลือเขาได้อย่างไร.