เปิดตำนาน "บุ๊กโกะ" เส้นทางชีวิต Plastic Family ครอบครัวศัลยกรรม

เปิดตำนาน "บุ๊กโกะ" เส้นทางชีวิต Plastic Family ครอบครัวศัลยกรรม

เปิดตำนาน "บุ๊กโกะ" เส้นทางชีวิต Plastic Family ครอบครัวศัลยกรรม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นอกจากจะเป็นพิธีกรแถวหน้าของวงการบันเทิงแล้ว บุ๊กโกะ-ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ดีเจบุ๊กโกะ ก็ยังมีอีกหนึ่งบทนาทในชีวิตที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยไปกว่ากันนั่นก็คือ บทบาทการเป็นนักธุรกกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจการทำศัลยกรรมภายใต้ชื่อ Bookko Agency ที่เจ้าตัวสามารถยืดอกพูดอย่างภาคภูมิใจได้ว่า นี่คือการเปลี่ยนความชอบ ให้กลายเป็นเงิน อย่างแท้จริง

และไม่ใช่แค่นั้นเพราะ ดีเจบุ๊กโกะ ยังได้เปลี่ยนชีวิตของ คุณแม่แมว ภาวนา รวมถึงน้องสาวอีก 2 คน  โบรัน มนต์สินี และ เบลเยี่ยม ภาวินี ด้วยการมอบความสวยจากมือหมอให้ทุกคนแบบพร้อมหน้าพร้อมตา จนก่อให้เกิดตำนานบทใหม่ของวงการ ที่ถูกนิยามว่า Plastic Family หรือ ครอบครัวพลาสติก

จุดเริ่มต้นของการทำศัลยกรรม ?
บุ๊กโกะ - "ตอนเด็กๆ บุ๊กโกะมีโอกาสได้ดูรายการศัลยกรรม และก็รู้สึกว่าตัวเองมีความใฝ่ฝันอยากจะทำศัลยกรรมทั้งหน้า ซึ่งครั้งแรกที่บุ๊กโกะทำศัลยกรรม บุ๊กโกะจำได้เลยว่าเริ่มต้นจากเงินหลักพันบาท และมันก็สวยในราคาหลักพันนั่นแหละค่ะ จากนั้นบุ๊กโกะจึงค่อยๆ ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ศึกษาวิธีการเลือกคุณหมอ ศึกษาจากรีวิว จนกระทั่งวันหนึ่งบุ๊กโกะได้มีโอกาสไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี ซึ่งถือว่าเป็นคนแรกๆ เลยมั้งคะที่บอกว่าตัวเองบินไปทำศัลยกรรมที่นั่น และบุ๊กโกะเองก็ไม่ได้ปกปิดด้วย จากนั้นเหมือนว่าการทำศัลยกรรมมันตอบโจทย์ชีวิต และก็ทำให้มีคนเข้ามาถามเข้ามาขอข้อมูลจากบุ๊กโกะมากขึ้น จนมันกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดธุรกิจ Bookko Agency ซึ่งมันก็เริ่มมาจากสิ่งที่บุ๊กโกะชื่นชอบและรู้จริง"

รู้สึกยังไงบ้างที่ตอนนี้การบินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีเป็นที่ชื่นชอบในหมู่คนไทย ?
บุ๊กโกะ - "ถือว่าดีนะคะที่คนหันมาทำศัลยกรรมที่เกาหลีกันเยอะ และตัวบุ๊กโกะเองก็รู้สึกดีใจ เพราะการทำศัลยกรรมถ้าเราศึกษามาดี บุ๊กโกะไม่ได้บอกว่าหมอเกาหลีเก่งที่สุดนะคะ แต่บุ๊กโกะกำลังจะบอกว่า มันก็เหมือนกับการทานอาหาร อาหารไทย อาหารฝรั่ง หรืออาหารเกาหลี ซึ่งบุ๊กโกะเป็นคนที่ชอบทานอาหารเกาหลี ดังนั้นบุ๊กโกะจึงชอบรสมือหมอค่ะ"

Plastic Family ครอบครัวพลาสติก

ด้วยความที่ตอนนี้มีเอเจนซี่เปิดใหม่เยอะแยะมากมาย เราจะทำให้คนเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าถ้าไปกับเราแล้วมันเวิร์ก ?
บุ๊กโกะ - "คนมักจะบอกว่า 'ก็คุณเป็นดารา คุณทำมันก็ต้องออกมาสวยสิ' นั่นแหละค่ะมันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้บุ๊กโกะต้องเรียกทีมงานทุกคนให้มานั่งประชุมร่วมกันเพื่อหาวิธีที่ทำให้คนรู้สึกไว้ใจเรา ซึ่งมันก็สรุปได้ด้วยการเอาคุณแม่ของบุ๊กโกะไปทำศัลยกรรมเองเลย และถือว่าเป็นครั้งแรกและคนแรกเลยนะคะที่เอาคุณแม่ในวัย 65 ปี ไปทำหน้าที่เกาหลี หลังจากนั้น หลังจากที่คุณแม่ทำเสร็จก็คือว่าเปรี้ยง! มากค่ะ กระแสตอบรับในกลุ่มผู้สูงอายุเยอะมาก บุ๊กโกะภูมิใจนะ ภูมิใจที่การตัดสินใจครั้งนั้นทำให้ธุรกิจของครอบครัวเราเติบโต"

การทำศัลยกรรมครั้งนั้นของคุณแม่ เปิดตลาดความสวยให้สาวๆ รุ่นเดียวกันทั่วทั้งประเทศ ?
คุณแม่ - "แม่รู้สึกดีใจนะคะที่ผู้หญิงในวัยเราลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง หรือทำให้ตัวเองสวยขึ้น คือแม่มองว่าสำหรับผู้หญิงแล้วการที่เราตื่นขึ้นมาส่องกระจกและเห็นว่าเราสวย เราก็จะรู้สึกภูมิใจ ขนาดเพื่อนๆ แม่ยังทักเลยว่าแม่ดูดีขึ้น"

คุณแม่ - "แต่ถามว่าก่อนที่จะตัดสินใจทำศัลยกรรมแม่กลัวไหมเพราะอายุแม่ก็เยอะแล้ว เอ่อ...ก็กลัวมากค่ะ (หัวเราะ) กลัวมากค่ะ แต่วันที่แม่ไปทำลูกๆ ไปให้กำลังใจแม่กันเยอะ เขาบอกแม่ว่า 'แม่ไม่ต้องกลัว แม่สู้ๆ' ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ค่ะ มันไม่มีอะไรน่ากลัวเลย มีแค่อาการน่าบวมนิดหน่อยเท่านั้นเอง (ยิ้ม)"

นอกจากคุณแม่จะทำศัลยกรรมแล้ว เบลเยี่ยม ก็เป็นอีกคนหนึ่งด้วย ?
เบลเยี่ยม - "ใช่ค่ะ มันก็ทำให้เรารู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นในทุกๆ วัน ทุกๆ ปี คือแบบพี่เราขนาดนี้ แม่เราขนาดนี้ ถ้าเราจะไม่ดูแลตัวเองเลยมันก็คงไม่ได้ (หัวเราะ) ถือว่าเป็นการทำให้ตัวเองดูดีขึ้นและมั่นใจในตัวเองมากขึ้น อีกอย่างขั้นตอนการทำมันก็ไม่ได้น่ากลัวเลยด้วย เพราะเรามีทีมงานดูแลทุกอย่างในทุกๆ ขั้นตอน คือเข้ามาในห้องผ่าตัดด้วยกันเลย"

Plastic Family ครอบครัวพลาสติก

และล่าสุด โบรัน ก็เป็นอีกคนในครอบครัวที่ทำศัลยกรรมเช่นกัน ?
บุ๊กโกะ - "จริงๆ โบรันเขาทำมาแล้ว 4 ปีนะคะ แต่เพิ่งจะมีโอกาสได้เปิดตัว เพราะติดสถานการณ์โควิด ก็คือก่อนหน้านี้โบรันเขามีน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างเยอะมาก เยอะถึง 130 กิโลกรัม ดังนั้นพอเจอโควิดปุ๊บ จากที่ตอนแรกเราจะเปิดตัวแค่การทำหน้าของโบรัน เราก็เลยเปลี่ยนแผนใหม่โดยให้โบรันลดน้ำหนักไปด้วย และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์ Bookko Agency สวยสั่งได้"

โบรัน - "มันก็คือโปรเจกต์การเปลี่ยนหน้าและเปลี่ยนร่างของผู้หญิงอ้วนๆ คนหนึ่งที่เมื่อก่อนเราหนัก 130 กว่ากิโลกรัม แต่ตอนนี้ลดลงมาได้จนเหลือแค่ 68 กิโลกรัม ซึ่งระยะเวลาที่ลด ก็คือเราค่อยๆ ลดกันมาเรื่อยๆ ตลอด 4 ปี จนกระทั่งล่าสุดนี่แหละค่ะที่ประเทศเกาหลีเปิด เราถึงได้บินไปทำหน้าเพิ่ม ไปเก็บในส่วนที่คุณหมอเขาจะต้องเก็บให้ และก็ตัดหนังหน้าท้องเพื่อให้หุ่นกระชับ"

บุ๊กโกะ - "ทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องใช้เวลา และจากวันนั้นจนถึงวันนี้มันก็เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้ว ดังนั้นทุกอย่างที่ทำคือโบรันทำหมด ออกกำลังกาย ทำ IF ดูแลร่างกาย และพอเขาน้ำหนักลดลง มันก็จะมีบางส่วนที่ห้อย ซึ่งอันนั้นเขาก็ต้องตัดทิ้ง มันคือการตัดหนังหน้าท้องนะคะ ไม่ใช่การตัดกระเพาะ ออกกำลังกายแล้วหนังเหี่ยวต้องทำ Tummy Tuck หรือทำการตัดหนังส่วนเกินออก ซึ่งโบรันทำทุกอย่างจริงๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาใช้ระยะเวลายาวนานมาก"

จุดเริ่มต้นของคำว่า Plastic Family ?
บุ๊กโกะ - "ก็คือมีคนบอกว่า 'บ้านนี้ศัลยกรรมทั้งบ้าน Plastic Family ซึ่งพอเราได้ยินประโยคนี้ปุ๊บ สิ่งแรกที่เรารู้สึกเลยก็คือ เราไม่ได้โกรธ แต่เราขอบคุณ (หัวเราะ) คือเรากำลังหาคำนิยามของครอบครัวเราอยู่เหมือนกัน และพอมีคนบอกว่า Plastic Family ปุ๊บ แค่นั้นเลยค่ะ เราก็ขอบคุณเขา และก็เอาคำนี้มาใช้นิยามครอบครัวเราเลย จริงๆ อยากหาคนๆ นั้นให้เจอด้วยซ้ำ จะได้ให้รางวัลเขาสักหน่อย เพราะคำๆ นี้ มันคือคำที่พูดแล้วนึกถึงบ้านเราจริงๆ มันคือวิกฤตที่เป็นโอกาส"

บุ๊กโกะ - "บุ๊กโกะมองว่าหลายๆ อย่างบนโลกโซเชียลฯ ถ้าเราสามารถปรับตัวให้เข้ากับมันได้ หรือเอาคำที่คนอื่นเขาตั้งใจจะใช้บูลลี่เรา หยิบเอามันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ บุ๊กโกะก็คิดว่ามันได้นะ และบ้านฉันก็คือ Plastic Family จริงๆ เราคือครอบครัวพลาสติก เราทำศัลยกรรมจริง เรายืดอกรับว่าเราทำจริง ซึ่งคำนี้มันปังจังเลย"

แต่หลายคนที่ไม่คุ้นชินก็อาจจะไม่สบายใจหากถูกมองหรือถูกเรียกว่าเป็นพลาสติก ?
โบรัน - "เดี๋ยวนี้โลกมันเปิดแล้วนะคะ ถ้าทำเราก็บอกไปเลยค่ะว่าทำ ทำแล้วมันดูดีขึ้น มั่นใจในตัวเองมากขึ้น เราก็ไม่จำเป็นต้องบิดบัง"

บุ๊กโกะ - "บุ๊กโกะเชื่อนะว่าเวลาที่เราเจอดราม่าในโซเชียลฯ หรือมีคนมาว่าเรา มีคนมาดราม่าใส่เรา มีคนมาบูลลี่เราหรืออะไรก็แล้วแต่ นั่นแปลว่าเขาสนใจเราอยู่ ถ้าวันหนึ่งบุ๊กโกะเดินไปไหนมาไหนแล้วคนรู้สึกกับบุ๊กโกะแบบ นั่นใครอ่ะ? คนนี้ใครอ่ะ? บุ๊กโกะคิดว่ามันเจ็บกว่าอีกนะ แต่ทุกวันนี้เวลาบุ๊กโกะได้ออกไปเจอกับ คุณแม่ คุณย่า คุณป้า คุณยาย หรือแม้แต่เด็กน้อยๆ ในตลาด และเขาเรียก บุ๊กโกะ บุ๊กโกะ อันนั้นคือแบบดีใจจังเลย (ยิ้ม) คือเขาก็ยังรู้จักเรา แค่อย่าเยอะเกินไปก็พอ"

บุ๊กโกะ - "เยอะเกินไปในที่นี้หมายถึงการด่าเราแบบไม่ลืมหูลืมตา ด่าเหมือนรู้ชีวิตเราดี๊ดี แต่สุดท้ายเราก็ปล่อยวางนะ คือโอเคตอนแรกก็คิดเหมือนกันแหละว่าจะฟ้อง แต่พอได้เข้าไปดูโปรไฟล์คนพวกนั้นแล้วเราก็แบบ ปล่อยวางเถอะ เสียเวลาทำมาหากิน อย่าเสียเวลาเลย ปล่อยเขาไปเถอะ เพราะเวลาทำมาหากินของเราน่าจะสำคัญกว่า"

Plastic Family ครอบครัวพลาสติก

การเดินทางเข้าประเทศเกาหลีในช่วงหลังมานี้เคยมีปัญหาบ้างไหม เพราะเรามักได้ยินข่าวบ่อยๆ ทั้งเรื่องของ ผีน้อย หรือเรื่องของโควิด ?
เบลเยี่ยม - "ถ้าสำหรับ Bookko Agency ไม่ยากเลยค่ะ เพราะลูกค้าทุกคนจะมีใบรับรองแพทย์ว่าคุณเข้ามาทำศัลยกรรม มีทั้งชื่อคุณหมอ มีทั้งชื่อเอเจนซี่ คล้ายกับว่าเป็นการการันตี และอย่างที่ทราบเกาหลีเขาเคร่งมากจริงๆ ดังนั้นขั้นตอนทำเอกสารบริษัทเราจะเป็นผู้จัดทำให้ทั้งหมด คือเราจะไม่ปล่อยให้ลูกค้าต้องอยู่คนเดียวเลย ยกเว้นก็แต่ตอนที่เขานอน ทั้งเราทั้งลูกค้าไม่ต้องกังวลเลยค่ะ"

บุ๊กโกะเป็นอีกคนในวงการที่ขยันมาก งานบันเทิงก็ทำ ความชอบเรื่องศัลยกรรมก็เปลี่ยนมาเป็นธุรกิจ แถมยังมีธุรกิจลูกชิ้นปลา... ด้วย อะไรคือแรงผลักดันของเรา ?
บุ๊กโกะ - "เราเคยจนมาก่อนค่ะ เป็นตุ๊ดต้องอดทน เพราะความจนมันน่ากลัว เราจะไม่ปล่อยให้ความจนเข้ามาครอบงำเราอีกแน่นอน แต่ถามว่าอะไรคือแรงผลักดัน เอ่อ...จริงๆ ทุกอย่างบุ๊กโกะเลือกจากสิ่งที่บุ๊กโกะชอบค่ะ บุ๊กโกะเป็นคนที่อยากสวย อยากศัลยกรรม และพอบุ๊กโกะทำได้ปุ๊บ บุ๊กโกะก็หยิบมันมาต่อยอดเป็นอาชีพ ส่วนธุรกิจลูกชิ้นปลา แน่นอนค่ะว่ามันเกิดขึ้นเพราะบุ๊กโกะเป็นคนชอบกิน และในช่วงโควิดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจลูกชิ้นปลามันสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและลูกน้องบุ๊กโกะเป็นอย่างมาก เราอยู่กันได้แบบสบายๆ ไม่ต้องปลดใครออกเลยค่ะ"

ลูกๆ หาเงินกันเก่งมาก ในฐานะคุณแม่เราภูมิใจมากขนาดไหน ?
คุณแม่ - "ภูมิใจมากค่ะ ใช้เงินอย่างเดียว (หัวเราะ) อยากไปเที่ยวนั่น อยากไปเที่ยวนี่ หรือเวลาที่ไปต่างจังหวัดแล้วเงินไม่พอ ก็นี่แหละค่ะจะโทรหาบุ๊กโกะโอนเงินให้แม่หน่อย ตังแม่หมดแล้วไม่มีเติมน้ำมันรถ (หัวเราะ)"

บุ๊กโกะ - "ต้องเล่าแบบนี้ค่ะ คือคุณแม่ท่านลำบากมาเยอะแล้ว และคุณพ่อก็เสียไปตั้งแต่ตอนที่บุ๊กโกะเพิ่งอยู่แค่ ม.6 ส่วนน้องๆ ก็ยังเด็กกันทุกคนเลย ฉะนั้นในเมื่อตอนนี้เราโตแล้ว เรามีกำลังแล้ว เราก็อยากให้เขาได้พักผ่อนบ้าง ให้เขาได้ไปท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ ใช้ชีวิตบั้นปลายให้มีความสุขไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรทั้งนั้น แต่ก็จะมีบ้างเหมือนกันบางมุมที่ท่านดื้อ ซึ่งวิธีแก้ของบุ๊กโกะก็คือ ถ้าดื้อปุ๊บ เงินหมด บุ๊กโกะก็จะไม่ให้เงิน จบเลยแค่นั้น"

Plastic Family ครอบครัวพลาสติก

การดูแลแม่ดูแลครอบครัวเป็นความฝันอย่างหนึ่งของเราเลยไหม ?
บุ๊กโกะ - "นั่นคือเป้าหมายตั้งแต่แรกในชีวิตของบุ๊กโกะเลยค่ะ บุ๊กโกะอยากดูแลครอบครัวตัวเองให้ได้ และอย่างบางคนที่มักจะบอกว่า บุ๊กโกะใช้เงินซื้อนู่นนั่นนี่เยอะ จริงๆ ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ บุ๊กโกะทำงาน บุ๊กโกะเก็บเงิน บุ๊กโกะรู้ค่ะว่าความจนมันเป็นยังไง"

ประเทศเกาหลี เปลี่ยนชีวิตบุ๊กโกะยังไงบ้าง เหมือนหลายๆ อย่างในชีวิตเราจะมีความผูกพันกับที่นั่นเยอะ ?
บุ๊กโกะ - "ตอนที่บุ๊กโกะทำอะไรไปบุ๊กโกะก็ไม่รู้ตัวหรอก แต่พอเราทำมันแล้ว และเราอินกับสิ่งที่เราทำ ทุกอย่างมันก็จะออกมาเองจากใจ คือเอาจริงๆ นะอะไรก็แล้วแต่ที่เราทำ ถ้ามันเป็นการฝืนเราทำได้ไม่นานหรอก แต่ถ้ามันเป็นความรักและความชอบเราจะต่อยอดได้"

สุดท้ายในยุคที่ตลาดการทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีมีเยอะแยะมากมายให้เลือก ทำไมต้องเลือก Bookko Agency ?
บุ๊กโกะ - "เราจะไม่เปรียบเทียบกับที่อื่น แต่ที่เราสู้ เราสู้กับตัวเอง เพราะถ้าเรายังย่ำอยู่กับที่เราก็จะอยู่แค่ตรงนี้และไม่ได้ไปไหน ทุกวันนี้เราพยายามหาคอนเทนต์ ทำให้ทุกคนได้เห็นไลฟ์สไตล์ของเรา เห็นไลฟ์สไตล์ของครอบครัวเรา และต่อยอดให้เราได้พัฒนา นี่แหละคือสิ่งที่เรารู้สึกว่าถ้ามันมีการต่อยอดจากธุรกิจเดิมมันจะไปต่อได้เท่านั้นเอง"

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ ของ เปิดตำนาน "บุ๊กโกะ" เส้นทางชีวิต Plastic Family ครอบครัวศัลยกรรม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook