ตกนรกทั้งชีวิต เด็กสาววัย 16 ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนนาน 8 ปี จนท้อง แม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ

ตกนรกทั้งชีวิต เด็กสาววัย 16 ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนนาน 8 ปี จนท้อง แม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ

ตกนรกทั้งชีวิต เด็กสาววัย 16 ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนนาน 8 ปี จนท้อง แม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หดหู่ เด็กสาววัย 16 ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนนาน 8 ปี จนท้อง แม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ คลอดเด็กออกมาก็ต้องเลี้ยงแบบอนาถา

นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี พิเชษฐ์ แก้วจินดา ยุติธรรมจังหวัดนครพนม นางสาวสุพรรณนี ศรีสุพรรณ พนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พ.ต.ท.ธราพงษ์ ภูมิถินเหว่อ สารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ว่าที่ร้อยตรี ศิริพงศ์ ไชยพันธุ์ นายก อบต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ นางศิวาพร เสนจันทร์ฒิชัยไชย ผู้ใหญ่บ้านขามเตี้ยใหญ่ ต.นาขมิ้น พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนหมู่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบให้การช่วยเหลือ น้องตุ้ม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เหยื่อพ่อเลี้ยงหื่น ถูกบังคับข่มขืนใจ มาตั้งแต่อายุ ประมาณ 8 ขวบ โดยมีแม่แท้ๆ เป็นคนรู้เห็นเป็นใจปกป้องช่วยเหลือให้เป็นเหยื่อกามพ่อเลี้ยง เนื่องจากทั้ง 2 สามีภรรยา ตกเป็นทาสยาบ้า

จนกระทั่งในที่สุดเมื่อเดือน กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ความแตก เนื่องจาก น้องตุ้มที่ถูกข่มขืนมานาน 8 ปี ตั้งครรภ์ พร้อมคลอดลูกสาวออกมา ปัจจุบันมีอายุได้ประมาณ 2 เดือน ทางญาติสุดทน จึงประสานตำรวจ และหน่วยงานยุติธรรม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภายหลังเมื่อเดือน กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ทางด้าน พ.ต.ท.ธราพงษ์ ภูมิถินเหว่อ สารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ ได้ลงพื้นที่นำทีมสอบสวนดำเนินคดี เอาผิดกับพ่อเลี้ยง คือ นายอินทร์ปอน อายุ 51 ปี  ในข้อหาหนัก รวม 3 ข้อหา ทั้งฐานความผิดเสพยาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า รวมถึง ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ยังดำเนินคดี กับแม่ คือ นางสุพันนี พันสิติ อายุ 47 ปี ในข้อหาเสพยาบ้า และมียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ทั้ง 2 สามีภรรยา อยู่ระหว่างส่งฝากขังที่เรือนจำกลางนครพนม รอการพิจารณาตัดสินของศาลจังหวัดนครพนม

โดยในครั้งนี้ ทางด้าน นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ รวมถึงการช่วยเหลือ ในการดำเนินคดีทางกฎหมาย ที่สำคัญ ปัจจุบัน น้องตุ้ม อายุ 16 ปี ต้องอาศัยอยู่ในบ้านไม้ยกสูง สภาพเก่าทรุดโทรม ฝาผนังสังกะสี รวมถึงไม้เก่าตามสภาพ นอกจากนี้ ห้องน้ำยังไม่มิดชิด ทำขึ้นพอได้ใช้งาน ไม่มีไฟฟ้าใช้ รวมถึงไม่มีระบบประปา ต้องใช้น้ำในลำห้วยใกล้บ้าน อีกทั้งต้องดูแลลูก อายุประมาณ 2 เดือน โดยลำพัง ไม่มีค่าใช้จ่าย ต้องเอาน้ำเปล่าให้ลูกกินประทังชีวิต มีเพียงญาติพี่น้อง และชาวบ้าน ที่คอยดูแลช่วยเหลือตามสภาพ หลังจากทางพ่อเลี้ยงกับแม่ ติดคุก และต้องหยุดการศึกษาต่อ เพราะต้องดูแลลูก และมีปัญหาด้านสภาพจิตใจ

เบื้องต้นทางด้าน หน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ได้ตั้งกองทุน เปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือ กับผู้ใจบุญสามารถสอบถามรายละเอียด และบริจาคช่วยเหลือได้ที่ บัญชี ธนาคารออมสิน สาขาโพนสวรรค์ เลขที่บัญชี 020-3995-3237-1 ชื่อบัญชีบริจาค กองทุนเพื่อช่วยเหลือน้องตุ้ม ตำบลนาขมิ้น สอบถามได้ที่โทร. 063-531-9726 นางศิวาพร เสนจันทร์ฒิชัยไชย ผู้ใหญ่บ้านขามเตี้ยใหญ่

ด้าน นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังรับทราบข่าวจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้นำชุมชนท้องถิ่น หน่วยงานตำรวจ จึงประสานลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัว น้องที่ตกเป็นเหยื่อกามของพ่อเลี้ยงมานานนับ 10 ปี โดยมีแม่แท้ๆ เป็นคนปกป้อง รู้เห็นเป็นใจบังคับให้ลูกสาว ถูกขืนใจ จนกระทั้งตั้งครรภ์ คลอดลูกออกมา และยังบังคับให้เสพยาบ้า โชคดีเด็กไม่ยอม ทางญาติพี่น้องรวมถึงผู้นำชุมชน จึงได้ประสานตำรวจ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และถูกจับกุมดำเนินคดี ทั้งพ่อเลี้ยง และแม่แท้ๆ เพราะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเสพยาบ้า

โดยสอบถามทราบว่า เดิมเด็กที่ถูกกระทำมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นหญิงทั้งหมด ผู้เสียหายเป็นคนกลาง ส่วนคนโตไปทำงานมีครอบครัว เหลือผู้เสียหาย และน้องคนสุดท้อง ไปอยู่กับแม่ และพ่อเลี้ยง ที่บ้านอีกหลัง โดยไม่มีใครดูแล จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จนญาติพี่น้องรู้พฤติกรรมของ พ่อเลี้ยง แต่ลูกสาวตั้งครรภ์ ได้ประมาณ 5 -6 เดือน จึงประสานขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง จนคลอดบุตรและนำไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัว พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การช่วยเหลือ รวมถึงหน่วยงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ยุติธรรมจังหวัด ดูแลทุกด้าน และมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น

สำคัญที่สุดคือ ที่พักอาศัย สภาพความเป็นอยู่ จะต้องได้รับความร่วมแรงร่วมใจทั้งภาครัฐเอกชน จึงประสานตั้งกองทุนรับบริจาคช่วยเหลือ เพื่อนำเงินมาปรับปรุงบ้านพักอาศัย ดูแลเด็กทารก ที่เกิดได้ประมาณ 2 เดือน ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมถึงอนาคตของน้องสาวคนเล็ก ที่กำลังศึกษาอยู่ ซึ่งปัญหาลักษณะนี้ถือว่า สังคมต้องช่วยเหลือกัน และสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม โดยมีหน่วยงานยุติธรรมคอยดูแลช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ทุกจังหวัด ส่วนกรณีดังกล่าวจะได้ประสานตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ดูแลเรื่องการดำเนินคดีผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด และดูแลคุณภาพชีวิตน้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อสภาพจิตใจในอนาคต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook