ดาบตำรวจสารภาพ บุกชิงทองกลางห้างเพราะมีหนี้สิ้น และประชดชีวิต

ดาบตำรวจสารภาพ บุกชิงทองกลางห้างเพราะมีหนี้สิ้น และประชดชีวิต

ดาบตำรวจสารภาพ บุกชิงทองกลางห้างเพราะมีหนี้สิ้น และประชดชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดาบตำรวจสารภาพ บุกชิงทองเพราต้องการประชดชีวิต และมีหนี้สินจำนวนมาก 

กรณีเมื่อวันที่ 30 ก.ย.65 เวลาประมาณ 13.30 น. มีคนร้ายใช้อาวุธปืน จี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ภายในห้างเทสโก้โลตัส สาขาเลย ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 2 เส้น สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง จำนวน 6 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท จำนวน 9 เส้น สร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 6 เส้น รวมเป็นทองคำหนัก 52 บาท มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท ก่อนขับรถยนต์ยี่ห้อ MG สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป

ภายหลัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ควบคุมสั่งการพื้นที่เร่งรัดจับกุมผู้ก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ

จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิด ไล่ตามเส้นทางหลบหนีของคนร้าย จนสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ ดาบตำรวจ สมภพ อายุ 39 ปี สังกัด สภ.เอราวัณ ภ.จว.เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเลยเพื่อขอหมายจับ และสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ พร้อมของกลางทองรูปพรรณ จํานวนทั้งหมด 23 เส้น ตะขอทอง จํานวน 7 ชิ้น (รวมน้ําหนักประมาณ 52 บาท)  อาวุธปืนยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ รุ่น P 320 ขนาด 9 มม. จํานวน 1 กระบอก พร้อม ด้วยซองกระสุน 1 ซอง และเครื่องกระสุน จํานวน 15 นัด  รถยนต์ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

จากการสอบถาม ด.ต.สมภพฯ ให้การว่า สาเหตุที่ตนก่อเหตุ เนื่องจากตนมีหนี้สินติดตัวเป็นจำนวนมาก ประกอบกับก่อนเกิดเหตุ มีปากเสียงกับภรรยา ทำให้เกิดความเครียด และต้องการประชดชีวิต จึงได้ตัดสินใจก่อเหตุชิงทองจากร้านทองในห้างตอนช่วงกลางวัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่คนร้ายใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองในช่วงกลางวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาไม่นานในการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุในคดีนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อเหตุชิงทรัพย์เสียเอง โดยจะได้สั่งการให้ทุกพื้นที่มีมาตรการในการป้องกันเหตุอุกฉกรรจ์ในลักษณะนี้ รวมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาคอยสอดส่องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด คอยให้คำแนะนำกรณีที่มีปัญหาในการทำงานหรือปัญหาส่วนตัว เพื่อให้มีขวัญและกำลังใจที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ และคอยรักษาความสงบสุขให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook