"เอ๋ เชิญยิ้ม" เปิดใจหลังสูญเสียลูกชาย "อาร์ม พีรพล" ยันลูกไม่ได้แข่งรถ

"เอ๋ เชิญยิ้ม" เปิดใจหลังสูญเสียลูกชาย "อาร์ม พีรพล" ยันลูกไม่ได้แข่งรถ

"เอ๋ เชิญยิ้ม" เปิดใจหลังสูญเสียลูกชาย "อาร์ม พีรพล" ยันลูกไม่ได้แข่งรถ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เอ๋ เชิญยิ้ม เปิดใจหลังสูญเสียลูกชาย อาร์ม พีรพล จากอุบัติเหตุควบบิ๊กไบค์เสยท้าย 18 ล้อดับ ยันลูกไม่ได้แข่งรถ

เปิดใจนักแสดงตลกเอ๋เชิญยิ้มหลังลูกชาย อาร์ม พีรพล ประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ชนท้ายรถบรรทุก 18 ล้อเสียชีวิตคาที่พร้อมย้อนเล่าลางสังหรณ์ก่อนวันเกิดเหตุภรรยาเห็นลูกชายเลือดอาบหน้าและงัดหลักฐานยืนยันลูกชายไม่ได้แข่งรถกับเพื่อนแน่นอน ผ่านทางรายการคุยแซ่บ show ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ตอนนี้สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง?

เอ๋ : มันมีเรื่อยๆ คือเพื่อนเขาเยอะแล้วลูกเพจที่เป็น FC เขาในรายการเยอะมากเวลาที่เราดูเฟซบุ๊กมันจะขึ้นฟีดเขามาเยอะมากบางทีเราไม่อยากเห็นคือไม่ดูโทรศัพท์เลยพอเห็นปุ๊บภาพเก่าๆมันจะขึ้นมาในสิ่งที่เราทำอะไรด้วยกันมันขึ้นมาหมดเลยบางทีเหมือนไบโพลาร์พอมีคนเยอะๆเราก็จะลืมคุยยิ้มเพื่อให้มันลืมแต่พอเราอยู่คนเดียวเหตุการณ์นั้นมันคิดย้อนขึ้นมาเมื่อวานอยู่ในงานศพของลูกเห็นคนเยอะๆเราก็มีความสุขนะเห็นคนมางานลูกเราเยอะเราก็ดีใจเราปลื้มว่าเราทำให้ลูกครั้งสุดท้ายให้มันดีที่สุดแต่พอมีคนเอารูปมาให้ดูบอกว่าไปค้นรูปเก่าๆตอนเราเล่นตลกแล้วเห็นเด็กตัวเล็กๆอยู่ข้างหลังนั่งหัวเราะก็ร้องไห้

วันก่อนเกิดเหตุเหมือนเป็นลางบอกเหตุ?

เอ๋ : ผมว่าน่าจะใช่เพราะแฟนผมคนนี้เขาจะเรียกว่าน้าเขาสนิทกันมากวันพุธแฟนผมทำความสะอาดอยู่วันนั้นผมหยุดงานนั่งอยู่หลังบ้านช่วงทุ่มกว่าๆ แฟนหยุดดูดฝุ่นแล้ววิ่งมาหาผม พ่อเห็นอาร์มตรงไหนหน้าประตูเลือดเต็มหน้าเลยตอนนั้นผมไม่ได้คิดว่าเขาเห็นภาพหลอนหรือว่าอะไรผมคิดลูกโดนตีมาเหรอหรือทะเลาะกับใครก็จะวิ่งไปดูลูกอยู่ตรงไหนหายไแแล้วเขาบอกหายไปแล้วเราก็งงคืออะไรเขาบอกว่าก้มดูดฝุ่นแล้วเหมือนมีใครอยู่หน้าประตูก็เลยหันไปมองเห็นลูกอยู่หน้าประตูแล้วเห็นเลือดลงมาเป็นเส้นๆเต็มหน้าเลยผมรีบโทรศัพท์หาลูกเลยเขาถามพ่อมีอะไรโล่งใจเลยลูกไม่เป็นไรนิก็เลยเล่าให้ฟังเมื่อกี้น้าเห็นอย่างนี้ๆขับรถรพวังหน่อยมันอาจจะเป็นลางที่ไม่ดีก็ได้เขาบอกพ่อก่อนที่พ่อจะโทรมา 1 นาทีผมขับรถตกแอ่งน้ำคือวิ่งมาด้วยความเร็วน้ำมันขังถนนคือเวลาเราขับมาเร็วๆพอเหยียบน้ำมันจะปัดถไหลแต่อันนั้นเป็นรถเก๋งพอตั้งลำได้ผมก็โทรไปเลยผมก็เลยอ่อแสดงว่าเคระห์เมื่อกี้มันข้ามไปแล้วพอวันพฤหัสบดีผมก็ไปถ่ายอีกที่หนึ่ง

ทีนี้ทำงานด้วยกันแล้ว?

เอ๋ : ใช่แต่จริงๆแล้วเขาไปถ่ายอีกที่นึงคนละจังหวัดเขาจะไปเมืองกาญจนบุรีแต่ผมอยู่ระแวกใกล้ๆปริมณฑลเสร็จแล้วลูกโทรมาบอกว่าอยากมาถ่ายกับพ่อวันนี้

ปกติ น้องอาร์ม ได้โทรมาแบบนี้ไหม?

เอ๋ : มันก็มีบ้างแต่มันไม่ได้บ่อยเพราะเขาจะเลือกโลเคชั่นที่น่ากลัวของเขาผมก็ถ่ายของผมทีนี้เขาบอกว่าผมอยากถ่ายกับพ่อพ่ออยู่ไหนผมบอกอยู่นี้ส่งโลให้เขาก็มาถ่ายก็มาคุยกัยปกติแต่ผมสังเกตเห็นลูกหน้าดำๆแต่ด้วยความที่ผมชอบคิดหลักวิทยาศาสตร์มาลบความงมงายถ้าผมบอกเชื่อเลยกลายเป็นว่าสังคมบอกงมงายไร้สาระก็เลยมีเหตุและผลอยู่ระหว่างกลางให้คนตัดสินเองมันน่าจะเป็นเพราะมันมืดจะ 4 ทุ่มแล้วแล้วมันเป็นที่มืดก็เป็นไปได้ว่าลูกเราจะหน้าดำก็ไม่คิดมากพอผมถ่ายเสร็จ 5 ทุ่มลูกผมถ่ายต่อตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนยันดี 1

วันนั้นถือเป็นการทำงานด้วยกันครั้งสุดท้าย?

เอ๋ : ครั้งสุดท้ายผมบอกว่าอาร์มพ่อกลับก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปแม่สอดไปถ่ายที่ป่าช้าพม่ากันก็ไปด้วยกันนี่แหละบอกเขาเลิกงานแล้วรีบกลับบ้านนะผมก็ขับออกมาช่วงเวลาผมถึงบ้านผมก็รีบนอนเพราะต้องเดินทางไกลประมาณช่วงตี3 ภรรยาเขาโทรมาเมียผมรับสายเขาลุกเลยพ่ออาร์มรถชนผมเพิ่งตื่นด้วยตกใจมือไม้สั่นแต่คิดว่าแค่รถชนจะแขนขาหักหรือสลบแต่งตัวไปที่เกิดไปที่เกิดเหตุออกจากบ้านมาไม่ถึง 5 นาทีภรรยาโทรมาอีกทีร้องไห้ลั่นเลยเชื่อไหมใจผลหล่นไปเลยผมเดาได้เลยว่าอะไรร้องไห้เหมือนคนที่จะขาดใจแล้วบอกว่าพ่อน้าอาร์มตายแล้วเมียผมร้องไห้โฮเลยผมแขนไม่มีแรงขาขับรถไม่ได้ต้องเบรกอยู่ข้างทางสั่นหัวใจเต้นแรงเหมือนใจจะขาดเหมือนจะช็อกผมเกร็งนั่งบีบตัวเองหูอื้อพูดกับตัวเองใช่เหรอวะลูกผมตายจริงเหรอพอสักพักตั้งสติได้ไปดูลูกกันก็ไปที่สะพานพระราม4 

ทีนี้ทำงานด้วยกันแล้ว?

เอ๋ : ใช่แต่จริงๆแล้วเขาไปถ่ายอีกที่นึงคนละจังหวัดเขาจะไปเมืองกาญจนบุรีแต่ผมอยู่ระแวกใกล้ๆปริมณฑลเสร็จแล้วลูกโทรมาบอกว่าอยากมาถ่ายกับพ่อวันนี้

ปกติน้องอาร์มได้โทรมาแบบนี้ไหม?

เอ๋ : มันก็มีบ้างแต่มันไม่ได้บ่อยเพราะเขาจะเลือกโลเคชั่นที่น่ากลัวของเขาผมก็ถ่ายของผมทีนี้เขาบอกว่าผมอยากถ่ายกับพ่อพ่ออยู่ไหนผมบอกอยู่นี้ส่งโลให้เขาก็มาถ่ายก็มาคุยกัยปกติแต่ผมสังเกตเห็นลูกหน้าดำๆแต่ด้วยความที่ผมชอบคิดหลักวิทยาศาสตร์มาลบความงมงายถ้าผมบอกเชื่อเลยกลายเป็นว่าสังคมบอกงมงายไร้สาระก็เลยมีเหตุและผลอยู่ระหว่างกลางให้คนตัดสินเองมันน่าจะเป็นเพราะมันมืดจะ 4 ทุ่มแล้วแล้วมันเป็นที่มืดก็เป็นไปได้ว่าลูกเราจะหน้าดำก็ไม่คิดมากพอผมถ่ายเสร็จ 5 ทุ่มลูกผมถ่ายต่อตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนยันดี 1

วันนั้นถือเป็นการทำงานด้วยกันครั้งสุดท้าย?

เอ๋ : ครั้งสุดท้ายผมบอกว่าอาร์มพ่อกลับก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปแม่สอดไปถ่ายที่ป่าช้าพม่ากันก็ไปด้วยกันนี่แหละบอกเขาเลิกงานแล้วรีบกลับบ้านนะผมก็ขับออกมาช่วงเวลาผมถึงบ้านผมก็รีบนอนเพราะต้องเดินทางไกลประมาณช่วงตี3 ภรรยาเขาโทรมาเมียผมรับสายเขาลุกเลยพ่ออาร์มรถชนผมเพิ่งตื่นด้วยตกใจมือไม้สั่นแต่คิดว่าแค่รถชนจะแขนขาหักหรือสลบแต่งตัวไปที่เกิดไปที่เกิดเหตุออกจากบ้านมาไม่ถึง 5 นาทีภรรยาโทรมาอีกทีร้องไห้ลั่นเลยเชื่อไหมใจผลหล่นไปเลยผมเดาได้เลยว่าอะไรร้องไห้เหมือนคนที่จะขาดใจแล้วบอกว่าพ่อน้าอาร์มตายแล้วเมียผมร้องไห้โฮเลยผมแขนไม่มีแรงขาขับรถไม่ได้ต้องเบรกอยู่ข้างทางสั่นหัวใจเต้นแรงเหมือนใจจะขาดเหมือนจะช็อกผมเกร็งนั่งบีบตัวเองหูอื้อพูดกับตัวเองใช่เหรอวะลูกผมตายจริงเหรอพอสักพักตั้งสติได้ไปดูลูกกันก็ไปที่สะพานพระราม4 

ตอนที่พี่เรียบเรียงข้อความในเฟซบุ๊กในใจคิดอะไรอยู่?

เอ๋ : ผมจำภาพวันที่เขาเกิดได้ครั้งแรกที่โรงพยาบาลโทรมาบอกว่าลูกคลอดแล้วนะเป็นผู้ชายประมาณช่วงเช้าผมรีบไปขับรถไปผมตั้งชื่อตลอดเลยพ่อชื่อวีรพลแปลว่าผู้กล้าลูกชื่อพีรพลพอคิดได้ปุ๊บผมอยากให้ลูกกล้าเหมือนผมอยากให้ลูกเป็นผู้นำเหมือนผมผมไปถึงที่โรงบาลห้องพักคลอดเด็กนอนเรียงกันเต็มเลยมีกระจกกั้นไว้กันเชื้อโรคเราไปยืนดูกระจกแล้วก็พีรพลพ่อมาหาลูกเขาก็จะแอ๊ะๆร้องมันทำให้เรานึกถึงภาพนั้นซึ่งมันเหมือนกันเลยแต่อันนั้นกระจกใสซึ่งดูสว่างข้างในน่าดูน่ารักแต่ที่ผมดูวันนั้นมันเป็นกระจกที่ทมึนแล้วรถคันนี้มันน่ากลัวซึ่งรถคันนั้นไม่รู้บรรทุกมากี่ร่างกี่ดวงวิญญาณแล้วหนึ่งในนั้นคือลูกผมที่กำลังนอนอยู่มันจึงเป็นความคิดนี้ขึ้นมาแค่ความรู้สึกวันนั้นผมดีใจมากแต่วันนี้ผมดิ่งลึกมาก

พี่เอ๋เคยคุยกับลูกเรื่องขับมอเตอร์ไซค์?

เอ๋ : เขาอยากได้บิ๊กไบค์เขาอยากได้มานานแล้วความฝันเขาเลยแต่เขาต้องมีรถเก๋งก่อนเพื่อขับไปทำมาหากินพอเขาได้รถเก๋งเขาก็พยายามเก็บเงินจนซื้อบิ๊กไบค์ได้เขาไม่บอกผมเลยว่าซื้อเขากลับมาเซอร์ไพรส์ผมกับลูกจะสนิทกันเป็นลูกคนเดียวที่สนิทกับผมที่สุดเขาอวดความภูมิใจผมก็อือ…มึงเก่งสวยๆผมจะให้กำลังใจลูกตลอดแม้กระทั่งลูกอัดเพลงลงติ๊กต๊อกหรืออะไรก็แล้วแต่ลูกผมไม่ติดยาอะไรทั้งสิ้นไม่เกเรทำแต่งานเมื่อก่อนตอนที่เขาไม่มีเพจเป็นตัวเป็นตนหรือยังไม่มีสปอนเซอร์ที่เยอะแบบนี้กลางวันเขาขับคิวมอเตอร์ไซค์กลางคืนเขาร้องเพลงรับจ้างตามงานวัดเขาหาด้วยตัวเอง

วันนั้นพี่เอ๋มีลางสังหรณ์อะไรที่เตือนเขา?

เอ๋ : ผมบอกลูกว่ารถพวกนี้มันขับช้าไม่ได้อยู้แล้วผมไม่เคยเห็นแล้วเครื่องแรงแค่ร้อยกว่าก็เร็วกว่ามอเตอร์ไซค์ธรรมดาหลายเท่าผมบอกขับเล่นได้นะเอาแค่ความสวยงามเอาแค่ความภูมิใจที่เราหาได้ตามที่เราตั้งใจแต่ว่ามันเหมือนขี่โลงนะลูกกำลังจะมีอนาคตนะถ้าคิดถึงครอบครัวคิดถึงอนาคตอยากมีลูกไม่ใช่เหรอเอาแค่ขี่แบบภูมิใจแต่อย่าไปคะนองเขาบอกไม่หรอกครับพ่ออาร์มแค่ซื้อเอาไว้ในสิ่งที่อาร์มอยากได้แค่นั้นเอง

ตอนเกิดพี่เรียกเขาว่าพีรพลแล้วคำสุดท้ายส่งน้องว่าอะไร?

เอ๋ : ก็พีรพลเหมือนคนบ้าเลยเดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวยิ้มอะไรก็ไม่รู้

มันก็จะมีประเด็นน้องอาร์มแข่งความเร็วบนท้องถนนซึ่งมันทำให้พี่เอ๋เสียใจมากพี่อยากเคลียร์อะไรเคลียร์เลย?

เอ๋ : ผมพูดคำเดิมครับลูกผมไม่ได้ขับแข่งกับใคร ปกติลูกกลับจากงานเขาก็ทำนู้นนี่นอนเช้าทุกวัน แต่วันนั้นน้ามาจากเกาหลีแล้วเหมือนเขาจะเอาบิ๊กไบค์ไปอวดเด็กคนนี้เวลาเขาทำอะไรสำเร็จเขาจะอวดให้ภูมิใจในตัวเขาญาติคนนี้ชื่อเทียนเขาบอกพี่เทียนเดี๋ยวไปหานะคิดถึงมากเลยเดี๋ยวจะเอารถไปให้ดูประมาณตี 3 กว่าเขาขับไปกับลูกน้องในทีมเขาซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์อีกคัน แต่มันเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ธรรมดามากๆ มันไม่ได้ขับแข่งกันอยู่แล้วพอขึ้นสะพานพระราม 4 มันระยะทางไกลแต่มันโล่งน้องคนที่ชื่อคิวบอกว่าเห็นอาร์มหันมายิ้มให้แล้วก็ไปเลย เหมือนจะลองความเร็วของรถแล้วก็ไปตึงตรงกลางสะพานไฟลุกท่วมเลยซึ่งคิวก็ขับตามไปพอเห็นปุ๊บ 18 ล้อก็ยังวิ่งไหลไปอยู่ยังไม่ยอมหยุดซึ่งผมไม่รู้เจตนาเขา เขาอาจจะไม่รู้จริงๆ ก็ได้เขาให้ข่าวบอกว่ารถสะเทือนเลยแต่คิดว่ายางระเบิดแล้วเขาจอดเพราะเห็นไฟข้างหลังมันลุกมอเตอร์ไซค์บีบแตรเรียกเจ้าคิวบอกว่าบีบแตรเรียกให้รู้ว่ามีคนชนท้ายอยู่ข้างหลังแต่เขาไม่สนใจแล้วเห็นอาร์มนอนอยู่ในกองเพลิงเขาก็วกกลับ แล้วเขาก็ตะโกนในคลิปจะมีอยู่คลิปหนึ่งที่ชาวบ้านใต้สะพานถ่ายไว้ว่าบนสะพานมีไฟลูกโตแล้วมีเสียงตะโกนร้อง

คนขับรถให้การกับตำรวจว่าเด็กขับรถแข่งมอเตอร์ไซค์กันแสดงว่าที่เขาบีบคือเขาบีบเรียกคุณนั่นแหละ?

เอ๋ : ใช่ครับเขาก็โทรมาหาผมนะ

เห็นว่าจะเข้ามาขอขมาขอดูศพ?

เอ๋ : ยังครับตอนแรกให้ลูกสาวโทรมาเขาบอกจะเข้ามาหาศพน้องอาร์มได้ไหมได้ครับยินดีผมไม่ติดใจบอกคุณพ่อด้วยผมเข้าใจคนทำมาหากินไม่มีใครอยากให้เกิดแต่ผมไม่รู้ไม่เห็นมนเหตุการณ์เป็นยังไงแต่สำหรับผมผมให้อภัยเขาก็บอกว่าขอโทษแทนคุณพ่อด้วยคุณพ่อเข้าใจว่าแข่งกันมาเพราะเสียงบิ๊กไบค์มันดังผมบอกว่าลูกผมไม่ได้แข่งเขาบอกเข้าใจแล้วค่ะขออนุญาตไปกราบศพผมบอกได้สุดท้ายแล้วลูกสาวมาคนเดียวก่อนผมก็ถามแล้วพ่อล่ะเขาบอกว่าคุณพ่อไม่ว่างทำนู้นทำนี่ปวดหัวเครียดมากผมบอกไม่เป็นไรครับไหว้ศพแล้วกันบอกคุณพ่อนะไม่ต้องเครียดไม่ต้องซีเรียส ผมรู้เขาต้องทำมาหากินผมไม่ได้ว่าอะไรทั้งสิ้น แต่ควรจะโทรหาผมบ้างไม่ใช่ให้ลูกโทรมาผมต้องการคนที่กระทำถ้าเป็นผมนะถึงจะผิดจะถูกก็แล้วแต่ แต่ถ้าทำให้คนอื่นสูญเสียผมก็จะโทรไปให้กำลังใจหรือแสดงความรับผิดชอบสักนิดหน่อย ผมจะได้รู้สึกดีบ้างพออีกวันนึงเขาถึงโทรมาหาผมขอโทษไม่ได้มาเพราะเขาปวดหัวตั้งแต่วันนั้นเขาเครียดมากเลยผมบอกไม่เป็นไรครับแค่โทรมาผมก็รู้สึกว่าคุณสนใจกับชีวิตของลูกผมแล้ว

พี่เอ๋กับน้องอาร์มยังมีสิ่งติดค้างกันอยู่ยังรู้สึกว่าทำอะไรให้เขาไม่สำเร็จ?

เอ๋ : ลูกผมชอบร้องเพลงมากเขาได้แต่บเพลงไว้เพลงนึงเขาบอกพ่อต้นปีผมจะปล่อยเพลงนี้พ่อช่วยดันหน่อยนะผมบอกได้ไหนส่งให้ดูหน่อยเขาก็ส่งประมาณนี้แต่งยังไม่จบด้วยนะ

อยากบอกอะไรลูกชายคนนี้?

เอ๋ : พ่อไม่ได้ทำอะไรให้แต่อยากบอกว่ามึงหล่อมากทุกครั้งที่มาบ้านเขาชอบชมว่าเขาหล่อผมหล่อไหมแต่ผมไม่เคยพูดเลยนะเพิ่งพูดตอนที่เขาตายเนี่ยแล้วก็เสียงดีมากพ่อรักมึงแต่ไม่เคยแสดงออกเขาเคยเห็นผมกอดน้องคนเล็กแล้วก็หอมเขาจะมองผมเห็นเขามองแล้วเดินนิ่งๆซึ่งผมไม่รู้เลยว่าลูกต้องการอะไรแต่ถ้าจะให้จับมาหอมมากอด26 แล้วพ่อคงทำไม่ได้แต่พ่อคอยดูและคอยช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อมพ่อทำทุกอย่างแม้กระทั่งวันนี้ที่มึงตายพ่อทำให้มึงทุกอย่างที่พ่อจะทำได้

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์–วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama 

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ "เอ๋ เชิญยิ้ม" เปิดใจหลังสูญเสียลูกชาย "อาร์ม พีรพล" ยันลูกไม่ได้แข่งรถ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook