แก๊งหลอกซื้อหมูอาละวาด ตจว.

แก๊งหลอกซื้อหมูอาละวาด ตจว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
โกงตาชั่ง-ราคาสูงเกินจริง

น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้รับการร้องเรียนจากผู้เลี้ยงสุกร ต.คาลาแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่า ได้ถูกแก๊งมิจฉาชีพ ที่มาในคราบพ่อค้ารถเร่หลอกซื้อสุกรมีชีวิต (หมูเป็น) จากชาวบ้าน โดยให้ราคาสูงกว่าราคาท้องตลาด แต่แอบโกงตราชั่งด้วยการดัดแปลงเครื่องชั่งที่ไม่ได้มาตรฐาน มาหลอกชั่งซื้อสุกรให้ได้น้ำหนักต่ำกว่าความเป็นจริง ส่งผลให้เกษตรกรสูญเสียรายได้จากการซื้อขายสุกรกว่าครึ่งของราคาที่ขายได้จริง

วิธีการที่แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวใช้หลอกลวงชาวบ้านนั้น จะใช้วิธีมาดูลาดเลาและติดต่อขอซื้อสุกรกับกลุ่มชาวบ้านก่อน หลังจากนั้นจะมาเป็นกลุ่มประมาณ 15-20 คน โดยขอซื้อสุกรมีชีวิตในราคาสูงกว่าท้องตลาด เพื่อจูงใจให้ชาวบ้านขายให้ และจะมาซื้อช่วงใกล้ค่ำจะได้โกงน้ำหนักได้ง่าย ซึ่งรถยนต์ที่นำมาซื้อจะเป็นรถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก 2 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และจะให้กลุ่มคนที่มารับซื้อสร้างความสับสนวุ่นวายในขณะทำการชั่งน้ำหนักสุกร

สำหรับรื่องชั่งที่ใช้ชั่งสุกร เป็นเครื่องชั่งแบบแท่น เป็นเครื่องชั่งประจำหมู่บ้านที่ได้รับการตรวจรับรองความเที่ยงตรง จากกรมฯ แต่กรงที่ใช้จับสุกรที่จะนำขึ้นชั่งน้ำหนักได้ดัดแปลงเพิ่มเติม โดยการทำกลอนไว้ด้านข้างของกรง สามารถเลื่อนขึ้นลงได้เพื่อใช้เป็นตัวค้ำยันพื้น และพื้นที่ตั้งเครื่องชั่งจะเป็นพื้นที่แข็งทำให้ขาตั้งกดพื้นแล้วไม่ยุบตัว เมื่อผู้ซื้อยกกรงสุกรขึ้นชั่งบนแท่นชั่งก็จะ เลื่อนกลอนลงมาเพื่อให้กลอนดังกล่าวเป็นขาตั้งค้ำยันกรงที่ใช้ใส่สุกร ทำให้เวลาชั่งน้ำหนัก น้ำหนักจะตกลงบนขาตั้งที่ติดข้างกรง และน้ำหนักที่บนตราชั่งจะน้อยลงกว่าความเป็นจริง

น.ส.ชุติมากล่าวต่อว่า กลุ่มมิจฉาชีพจะทำการชั่งเอง โดยไม่ยอมให้ผู้ขายจับกรง หรือเข้าใกล้กรงที่ใส่สุกรโดยเด็ดขาด ทำให้ผู้ขายไม่สามารถเห็นกลไกของกรงที่ผู้ซื้อนำมาใช้ในการซื้อขายได้ แต่ผู้ซื้อจะอนุญาตให้ผู้ขายเข้าใกล้เครื่องชั่งได้ไม่เกิน 3 คน และจะชั่งครั้งละ 2 ตัว หากผู้ขายรายใดมีสุกรเพียง 1 ตัวก็จะไม่รับซื้อ

นอกจากนี้ระหว่างมีกาื้อขาย แก๊งต้มตุ๋นจะพยายามพูดจาให้ชาวบ้านสับสน รวมถึงยังขู่ว่าห้ามจับกรง เพราะหากสุกรขาหัก หรือตายจะไม่ยอมซื้อ เมื่อกลุ่มผู้ซื้อชั่งน้ำหนักเสร็จจะจ่ายเงินรวมเป็นก้อนครั้งเดียว เพื่อให้ผู้ขายไปแบ่งกันเอง แล้วกลุ่มมิจฉาชีพจะรีบหนีไปทันทีทำให้ไม่สามารถตรวจสอบและติดตามกลุ่มมิจฉาชีพได้

รายงานข่าวจากวงการผู้เลี้ยงสุกรแจ้งว่าแนวโน้มราคาเนื้อหมูขายปลีกในปีหน้ามีโอกาสขยับขึ้นอีก กก.ละ 5-10 บาท จากปัจจุบันราคาที่ 110-115 บาท อาจขึ้นเป็น 115-120 บาท ในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากต้นทุนการเลี้ยงหมูปรับตัวสูงขึ้น โดยในเดือน ธ.ค. ราคากากถั่วเหลืองขยับขึ้นจากเดือนพ.ย. จากกก.ละ 16 บาท เป็น 17 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 7 บาท เป็น 8 บาท มันสำปะหลัง 5 บาท เป็น 5.50-5.60 บาท และปลายข้าว 9 บาท เป็น 12 บาท หรือเฉลี่ยปรับขึ้นแล้ว 10-20%.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook