มาร์คโต้แม้วยื่นเงื่อนไขกลับ

มาร์คโต้แม้วยื่นเงื่อนไขกลับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ถ้าทำได้พร้อมยุบสภา พท.ตอกย้ำโคตรโกง

มาร์คเมินต่อรองแม้วพร้อมยื่น 3 เงื่อนไขยั่วน้ำลายยุบสภาปี 53 ส่วน บัวแก้ว ตั้ง กก.สอบแผนลับรั่วไหลแล้ว เด็ก กษิต ไม่ฟันธง ขรก. เซ็งลี้เอกสาร ด้าน แม้ว สวดยับ กต. ตกต่ำสุด ๆ ลั่นประจานหนังสือลับออนไลน์ทั่วโลก ตุ๊ดตู่ กั๊กเอกสารชุดสอง ยันสั่งปิดคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ภายใน ธ.ค. 52 ท้ารัฐนาวาทำสัญญาสงบศึก เพื่อแม้ว ตอกย้ำรัฐนาวาสอบตก ชี้โคตรโกง อภิ สิทธิ์ชน ไม่ติดตะราง เก่งเพาะศัตรู-กู้เงินเก่ง ฝ่าย สาทิตย์ โอ่ 23 ธ.ค. ฟุ้งตัวเลข ศก. ดีขึ้นแน่ มาร์ค-เทือก ประสานเสียงไม่แทรกแซงคดีเงินบริจาค ฟาก เจ๊สด อ้าง กกต. มีมาตรฐานเดียว พ้อองค์กรอิสระเป็นแพะรับบาป

* มาร์คย้ำยุบสภา 3 เงื่อนไข

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมเจรจากับรัฐบาลโดยยื่น 3 เงื่อนไข คือ 1.นำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ 2.ยุบ สภา และ 3.จัดการเลือกตั้งใหม่ โดยนายอภิสิทธิ์หัวเราะก่อนตอบคำถามดังกล่าวว่า ให้มารับผิดชอบตามกฎหมายก่อน แปลกใจว่าเงื่อนไขที่ยื่นมาอยู่บนฐานเหตุผลอะไร ปี 2549 พ.ต.ท.ทักษิณ ลงทุนนั่งประชุมกับพรรคเล็กทั้งหมดเพื่อรื้อรัฐธรรมนูญปี 2540 ตอนนี้มาบอกว่าจะเอารัฐธรรมนูญปี 2540 เพื่อสถานะตัวเองไม่ใช่เรื่องระบบ

นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องยุบสภาไม่ได้เป็นปัญหา ตนบอกแล้วว่าให้เศรษฐกิจแข็งแรงขึ้น มาตกลงกำหนดกติกาการเลือกตั้งให้ชัดเจน จะได้ไม่มีใครมาบ่นว่าทุจริตแล้วถูกยุบพรรค และต้องหยุดการเคลื่อนไหวที่ใช้ความรุนแรง ทำอย่างนี้ได้สักพักก็ยุบสภาเลือกตั้งได้

* ศก.ฟื้น-ร่วมแก้รธน.-เลิกม็อบ

ต่อข้อถามว่า จากการประเมิน 3 เงื่อนไขที่จะนำไปสู่การยุบสภาได้ต้องใช้เวลานานเพียงใด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าเศรษฐกิจในปี 2553 ก็พร้อม ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญขึ้นอยู่กับฝ่ายค้าน ถ้าเข้ามาร่วมคิดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 6-7 เดือน และในช่วงเวลานี้ถ้าฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง แสดงให้เห็นว่าจะไม่ใช้ความรุนแรงหรือขัดขวาง ตนก็ยินดีไม่มีปัญหากับการยุบสภา

ส่วนกรณี พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ญาติผู้พี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาขู่ทำนองว่าถ้ารัฐบาลยังดื้อต่อไปสถาน การณ์อาจไปถึงจุดไคลแมกซ์นั้น นายกฯ กล่าวว่า คนที่รับผิดชอบต่อบ้านเมืองถ้าไปกลัวคำขู่ บ้านเมืองเดินไม่ได้ การที่รัฐบาลหยิบเอาเรื่องการยุบสภาโดยมี 3 เงื่อนไขเป็นตัวตั้ง มีอะไรบ้างที่เสียหายต่อบ้านเมือง คำตอบคือไม่มีเลย แล้วทำไมถึงไม่เข้ามาพูดคุยกัน แต่ถ้าเป็นการเรียกร้อง เพื่อตัวบุคคลมันไม่จบ

* เมินเสียงขู่เล่นแรงทวงอำนาจ

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าที่ผ่านมาเป็นฝ่ายถูกกระทำและไม่ได้รับความยุติธรรม นายอภิสิทธิ์ ย้อนว่า ทำไมเวลาต่อสู้คดีแล้วชนะบอกว่าระบบใช้ได้ แต่พอต่อสู้ในระบบแล้วแพ้บอกว่าระบบใช้ไม่ได้ เป็นการเอาตามใจตัวเองเป็นหลัก เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้หลายเรื่องดูจะไม่ยุติ ยังมีการเคลื่อนไหวเป็นขบวนการมากขึ้นจะแก้ปัญหาอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่ามากขึ้นหรือน้อยลง เพียงแต่อยากให้สังคมมองเห็นว่าข้อเรียกร้องต่าง ๆ ในขณะนี้เป็นข้อเรียกร้องเพื่อใคร และการเริ่มใช้วิธีการข่มขู่ พูดถึงความรุนแรง มันเป็นสิ่งที่บ้านเมืองควรจะยอมรับหรือไม่

* ปัดให้คะแนนรัฐบาลครบ 1 ปี

นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธที่จะให้คะแนนรัฐบาลในการทำงานครบรอบ 1 ปี โดยยอมรับว่า มีบางเรื่องพอใจ บางเรื่องต้องปรับปรุง และบางเรื่องต้องทบทวน ทั้งนี้จะชี้แจงวันที่ 23 ธ.ค. นี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า โพลต้องการให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และความสมานฉันท์ในบ้านเมือง นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่จะต้องทำให้เกิดความมั่นใจมากกว่านี้ คือ ปัญหาการทุจริต และการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้

นายกฯ กล่าวต่อว่า พยายามร่วมมือกับองค์กรอิสระในเรื่องข้อมูลต่าง ๆ และกำลังดำเนินการตรวจสอบเรื่องใหญ่ เช่น โครงการในกระทรวงสาธารณสุข นอกจากนี้ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมาได้มอบหมายให้ นายสาทิตย์ วงศ์ หนองเตย รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี นำผลการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตของสำนักนายกฯ มาวิเคราะห์ เพื่อจะได้อุดช่องโหว่และแก้ไขจุดอ่อนเหล่านั้นให้ได้

* เย้ยแม้วร่อนเร่ ตปท. ดีแล้ว

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเงื่อนไขของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ข้อเรียกร้องใด ๆ ก็ตามที่แสดงให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เหนือกฎหมาย ไม่ต้องถูกดำเนินคดี ไม่ต้องติดคุก ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์แม้จะทำผิดกฎหมาย อย่างนี้รับไม่ได้แน่ เพราะจะทำให้ประเทศไม่มีบรรทัดฐานและผิดหลักการปกครองของบ้านเมือง ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนเดียวที่อยู่เหนือกฎหมายก็อยู่ต่างประเทศดีแล้ว

ส่วนที่มีกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 100 คนลาออกเพื่อกดดันรัฐบาลนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และบอกความจริงกับประชาชน ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์พอจะคาดการณ์ได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องทำด้วยวิธีการต่าง ๆ นานาเป้าหมาย คือ ต้องการโค่นล้มรัฐบาล ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองในประเทศไทย

* เร่งเร้าแดงเดือดคดีใกล้งวด

นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาเปิดเผยเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศที่อาจมีการปลุกกระแสด้วยการบิดเบือนข้อมูลถึงขั้นทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ และทำลายกัมพูชาว่า ไม่ทราบว่าเป็นเอกสารจริงหรือปลอม แต่เชื่อว่าเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศนำเสนอเป็นการวิเคราะห์เหตุการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเสนอแนวทางปฏิบัติ ไม่มีเรื่องการทำร้ายหรือสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ

น่าเสียดายที่นายจตุพรเอาเรื่องภายในประเทศไปตีแผ่ให้เป็นประโยชน์กับกัมพูชา นายจตุพรเท่ากับทำร้ายประเทศไทย รองนายกฯ ระบุ ส่วนที่กลุ่มเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 10 ม.ค. 2553 นั้น หากชุมนุมผิดกฎหมายต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้เชื่อว่าจะมีการกระทำในลักษณะเร่งเร้าให้ทุกอย่างจบลงในเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการ เพราะทุกอย่างกำลังใกล้งวดเข้ามา

* บัวแก้วตั้งก.ก.สอบเอกสารรั่ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชวนนท์ อินทร โกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ กรณีกระทรวงการต่างประเทศจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีเอกสารลับทางราชการรั่วไหลว่า นายธีรกุล นิยม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กำลังดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวอยู่ คาดว่าภายในวันนี้คงเรียบร้อย

เลขานุการ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้จะสอบสวนว่าเอกสารดังกล่าวรั่วไหลในส่วนของกระทรวงฯ หรือไม่ และพิจารณาว่าจุดใดอาจมีความเสี่ยงต่อการที่เอกสารอาจมีการรั่วไหลเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต นอกจากนี้กำลังตรวจสอบว่าเอกสารดังกล่าวถูกส่งไปให้หน่วยงานใดอีกบ้าง อย่างไรก็ตาม การสอบสวนดังกล่าวต้องทำโดยเร็วที่สุดและทำอย่างระมัดระวัง ถ้าพบว่ามีข้าราชการคนใดเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะดำเนินการ ตามระเบียบขั้นตอนทางราชการ

* ไม่ฟันธงคนในขายความลับ

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจมีการขายข้อมูล นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่อยากมองถึงขนาดนั้น ตอนนี้ต้องรอให้คณะกรรมการที่ถูกตั้งขึ้นมาสอบสวนเสียก่อนว่ารั่วไหลไปอย่างไร ที่ไหน เมื่อใด ส่วนความ เสียหายเกิดกับประชาชนคนไทยทุกคน เพราะ หนังสือเรื่องยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาของชาติถือเป็นความลับของชาติ ไม่สามารถเปิดเผยให้ประเทศคู่เจรจาหรือประเทศที่กำลังปรับความสัมพันธ์ให้ทราบได้ ถ้าเรื่องนี้ถูกนำออกไปสู่สาธารณชนหรือต่างประเทศ จะทำให้การแก้ปัญหาของประเทศทำได้ยากลำบากมากขึ้น

ผมและรัฐบาลไม่ได้กังวลต่อเนื้อหาในจดหมายว่าเป็นการดำเนินการละเมิดกฎหมายหรือทธิส่วนบุคคล เพราะมันไม่มี แต่เป็นห่วงว่าต่อไปนี้ประเทศไทยจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่คอยเอาความลับของชาติไปขายให้กับต่างชาติแล้วสร้างความขัดแย้งสร้างปัญหากับประเทศชาติมากขึ้น เลขานุการของนาย กษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ระบุ

* บิ๊กจิ๋วหนุนเจรจาสมานฉันท์

ด้าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธาน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมเจรจากับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกฯ เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมืองว่า การเจรจาเพื่อความปรองดองมีการพูดกันมานานแล้ว เมื่อถามว่า จะเข้าไปช่วยเป็นตัวกลางในการเจรจาหรือไม่ พล.อ.ชวลิต เปิดเผยว่า ช่วยอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะตน แต่คนไทยทุกคนมีหน้าที่สร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้น

ประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแส ข่าวนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด จะฟ้องร้องนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่า ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนางสิมารักษ์ 2-3 นาที เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างจบแล้ว ทั้งนี้ขอให้เรื่องนี้ยุติเพียงแค่นี้ อย่านำมาพูดกันอีกเลย

* ตู่รอเปิดก๊อกสอง 23 ธ.ค.นี้

ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่ม นปช. แถลงว่า วันที่ 23 ธ.ค. จะเปิดเผยเอกสารลับของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนที่สอง จำนวน 9 หน้า ซึ่งเป็นตารางปฏิบัติการอย่างเป็นขั้นตอน เพื่อให้ตรงกับวันที่รัฐบาลจะแถลงผลงานครบรอบ 1 ปี เนื่องจากเอกสารลับนี้เป็นผลงานของรัฐบาลเช่นกัน และไม่ห่วงว่าจะถูกดำเนินคดี เพราะ เอกสารนี้คือสิ่งที่จะทำความเลวร้ายให้ประเทศเพื่อนบ้านและมุ่งหมายเอาชีวิต พ.ต.ท. ทักษิณ และยังแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยมีการระบุให้เร่งรัดคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่าต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 2552

ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า เอกสาร ลับดังกล่าวไม่ได้เป็นความลับของชาติ และไม่ใช่ปัญหาของชาติ แต่เป็นปัญหาของนายอภิสิทธิ์ นายกษิต และกลุ่มอำมาตย์ที่ต้องการกำจัด พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น

* ประจานทั่วโลกผ่านทวิตเตอร์

นายจตุพร กล่าวอีกว่า หากประเทศเพื่อนบ้านได้เห็นรายละเอียดของเอกสารลับนี้ คงไม่มีใครอยากคบประเทศไทยตราบเท่าที่นายอภิสิทธิ์ยังเป็นนายกฯ เพราะทุกอย่างคิดในมิติเห็นแก่ตัว แทรกแซงประเทศเพื่อนบ้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แปลเอกสารลับส่วนแรก จำนวน 3 แผ่นเป็นภาษาอังกฤษ และจะเผยแพร่ผ่านเว็บบล็อกทวิตเตอร์ส่วนตัวในวันที่ 22 ธ.ค. จากนั้นหลังวันที่ 23 ธ.ค. จะลงฉบับ 9 หน้า เอาให้รู้กันไปทั่วโลกเลยว่าไม่ใช่การขายชาติ แต่เป็นการเอาความเลวของคนในชาตินี้ออกมาให้คนอื่นได้รู้ว่า คนประเทศนี้ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด

ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทวิตข้อความผ่านเว็บไซต์ ทวิตเตอร์ว่า เห็นหนังสือลับ กต. (กระ ทรวงการต่างประเทศ) ที่นายกษิต (นาย กษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ) มีถึงนายอภิสิทธิ์ แล้วในฐานะเป็นสมาชิกสราญรมย์คนหนึ่งรู้สึกได้ว่า กต. ที่ทุกคนภาคภูมิใจอยากมาอยู่ ต้องตกต่ำลงสุด ๆ นอกจากนี้ยังระบุว่า จะโหลดใส่เว็บผมให้อ่าน ให้จุใจจะได้รู้ว่าคนบ้ามีอำนาจมีจริง

* เสื้อแดงท้าทำสัญญายุติศึก

ต่อข้อถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ บรรลุเงื่อนไขการเจรจา 3 ข้อ กลุ่มคนเสื้อแดงจะยุติการเคลื่อนไหวหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ขอให้เปิดแถลงข่าวทำสัญญากันไปเลยทั้งกลุ่มเสื้อแดง กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และเสื้อน้ำเงิน ว่าจะเอาผลเลือกตั้ง เอาเสียงประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศมาตัดสิน ใครแพ้หยุด ใครชนะได้ทำงาน เดิมพันแผ่นดินกันไปเลย ผลออกมาอย่างไรทุกฝ่ายต้องยอมรับ แต่ที่สำคัญอย่าใช้วิธีสกปรก ขึ้นอยู่กับนายอภิสิทธิ์กล้าหรือไม่ ถ้ากล้าวันพรุ่งนี้พวกตนก็พร้อมทำสัญญา อย่างไรก็ดีสัปดาห์หน้ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินทางไปเยี่ยมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามสมควรด้วย

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขอเรียกร้องให้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศต้องมีศักดิ์ศรีในเรื่องนี้ โดยแสดงจุดยืนไม่รับคำสั่งของนายกษิต ที่ไม่มีคุณธรรมและจริยธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน นอกจากนี้พรรคจะดำเนินคดีอาญาพร้อมทั้งเข้าชื่อเพื่อยื่นถอดถอนนายกษิตต่อไป

* เพื่อแม้วซัดรัฐบาลสอบตก

ขณะเดียวกัน ที่พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่านค้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กรุงเทพฯ ในฐานะหัวหน้าสำนักงานปราบโกง ร่วมแถลง 1 ปีแห่งความล้มเหลวรัฐบาลอภิสิทธิ์ เศรษฐกิจย่อยยับ สังคมแตกแยก ทุจริตคอร์รัปชั่นเฟื่องฟู พร้อมทำแผ่นพับ 3 แสนแผ่นแจกจ่ายให้กับประชา ชนทั่วไป

นายปลอดประสพ กล่าวว่า รัฐบาลสอบตก โดยคะแนนด้านเศรษฐกิจได้เกรดซี หรือเกือบตก เพราะวันนี้เงินในกระเป๋าประชาชนลดลง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล้มเหลว ส่วนการแก้ปัญหาความแตกแยกในสังคม นโยบายด้านความมั่นคง รัฐบาล ได้เกรดดี หรือคาบเส้น สำหรับปัญหาคอร์รัปชั่นพบว่ามีความเฟื่องฟู กฎเหล็ก 9 ข้อ ตอนนี้น่าจะเหลือเพียง 2-3 ข้อเท่านั้น ดังนั้นจึงถือว่าได้เกรดเอฟ หรือสอบตก และขอชื่นชมรัฐบาลชุดนี้ใน 4 เรื่อง คือ 1.พูดเก่งจนบางครั้งพูดเกินความจริง 2.กู้เก่ง 3.เพาะศัตรูเก่ง และ 4.หาเหาใส่หัวเก่ง

* ชี้โคตรโกงอภิสิทธิ์ชนไม่ติดคุก

นายปานปรีย์ กล่าวว่า การก่อหนี้ของภาครัฐอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง เนื่องจาก นโยบายสร้างรายได้ยังไม่ชัดเจน ใส่เงินเท่าใดหายไปหมดเหมือนรูปแบบของการพนัน ตัวเลขหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัวถึง 5.3 แสนล้านบาท ส่วนการแก้หนี้นอกระบบ หนี้จริงหนี้ปลอมมั่วกันไปหมด เรื่องมาบตาพุดชัดเจนว่ารัฐบาลบริหารจัดการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังประเมินว่าความเสียหายเกิดขึ้นกว่า 2.3 แสนล้านบาท ทำให้จีดีพีลดลง 0.5% ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม ประเมินว่าเสียหายถึง 6 แสนล้านบาท และสำคัญคือปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า รัฐบาลนี้มีการทุจริตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เช่น โครง การชุมชนพอเพียง โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน โครงการต้นกล้าอาชีพ โครง การแจกข้าวหอมมะลิปลอมปน โครงการจัดซื้อครุภัณฑ์กระทรวงสาธารณสุข เท่าที่พิจารณาความเสียหายทั้งหมดเชื่อว่ามีเงินตกหล่นข้างทางถึง 6.3 หมื่นล้านบาท แต่รูปแบบการทุจริตของระบอบอภิสิทธิ์ เป็นทุจริต ที่เรียกว่าอภิสิทธิ์ชน คือ คนโกงไม่ต้องติดคุก

* สาทิตย์โต้ทันควันข้อมูลเก่า

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต. สำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องดีที่พรรคเพื่อไทยกลับมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านด้วยการตรวจสอบการทำงานรัฐบาล แต่ข้อมูลที่นำมาแถลงเป็นข้อมูลเก่า ขาดการวิเคราะห์อย่างละเอียด ดังนั้นวันที่ 23 ธ.ค. นายอภิสิทธิ์จะแถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 1 ปีให้เห็นชัดเจนว่ามีรูปธรรมในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร ทั้งตัวเลขการลงทุน คนว่างงาน ส่วนเนื้อหาจะแบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ 1.สถานการณ์ก่อนหน้าที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาบริหารประเทศเทียบสถานการณ์หลังเข้ามาบริหารประเทศว่าตัวเลขใดดีขึ้นบ้าง และ 2.ชี้แจงว่ารัฐบาลมีนโยบายสำคัญใดที่ต้องเดินหน้าต่อ และมีปัจจัยเสี่ยงในปี 2553 ในเรื่องใด

ส่วนการแก้ปัญหาความสมานฉันท์คนในชาตินั้น รมต.สำนักนายกฯ กล่าวว่า ไม่ถือว่ารัฐบาลล้มเหลว เพราะรัฐบาลสามารถ ประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านวิกฤติเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาได้ และการชุมนุมลดความรุนแรงลง อย่างไรก็ตามยอมรับว่าในปี 2553 การชุมนุมของคนเสื้อแดงจะยังเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อประเทศ

* สุรเกียรติ์เหน็บ กต. ล้ำเส้น

ที่ราชนาวีสโมสร นายสุรเกียรติ์ เสถียร ไทย อดีต รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ ถึงการทำหน้าที่ของนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ว่า ไม่ขอวิจารณ์ตัวบุคคลต่ยอมรับว่าเป็นห่วงค่อนข้างมากในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา และอยากจะเห็นความสัมพันธ์กลับไปเป็นเหมือนเดิมให้มากที่สุด ส่วนเอกสารลับที่นายจตุพรนำมาเปิดเผยนั้น ตนยินดีที่นายกฯ มีจุดยืนชัดเจน ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเพียงการวิเคราะห์ของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่นโยบายของนายกฯ ทั้งนี้จากการที่เป็น รมว.การต่างประเทศมา 4 ปี ข้าราชการกระ ทรวงการต่างประเทศ จะจำกัดบทบาทเฉพาะการวิเคราะห์นโยบายต่างประเทศเท่านั้น จะไม่วิเคราะห์การเมืองในประเทศ เพราะเป็นบทบาทของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.)

เมื่อถามว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกฯ เห็นควรเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้ง นายสุรเกียรติ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เพราะไม่มีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้ หากจะมีบุคคลที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองพูดคุยกัน เพื่อยุติปัญหาของบ้านเมืองถือเป็นสิ่งที่ดีของบ้านเมือง

* คมช.เชื่อพรรคร่วมไม่ปึ้ก

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอเจรจาภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่เร็วที่สุด ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลให้อยู่นานที่สุด จึงขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดจะเพลี่ยงพล้ำก่อนกัน เวลานี้รัฐบาลอยู่ในช่วงเสียเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในพรรคและพรรคร่วม รวมทั้งการบริหารงานก็อยู่ระหว่างการ จับตาของประชาชน เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ยุบสภาแต่จะประคองความสัมพันธ์ระหว่างพรรค ร่วมให้เป็นไปอย่างยาวนาน เพราะหากรัฐบาลยุบสภาในช่วงนี้ ไม่แน่ใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้เปรียบในการเลือกตั้งหรือไม่

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตรองประธาน คมช. กล่าวว่า ข้อเสนอเรื่องการ ยุบสภาและเลือกตั ้งใหม่มีความเป็นไปได้ ส่วนข้อเสนอให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ทำได้ 2 วิธี คือ 1.ปฏิวัติ หรือ 2.แก้ในสภา แต่ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ว่าทำไมต้องนำของเก่ากลับมาใช้และของเดิมดีกว่าปัจจุบันอย่างไร

* เจ๊สดแจง ก.ม.คดีเงินบริจาค

ส่วนความคืบหน้ากรณี กกต. มีมติให้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ตัดสินใจว่าจะส่งสำนวนคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ไปให้อัยการสูงสุดพิจารณายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรคประ ชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นางสดศรี สัตยธรรม กกต. กล่าวถึงโพลสำรวจเชื่อว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวไม่มีความโปร่งใสว่า กรณีนี้ความจริงยังไม่ได้มีการตัดสินชี้ขาด เป็นเพียงที่ประชุม กกต. มีมติให้เป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองตามมาตรา 95 พ.ร.บ. พรรคการเมืองที่ต้องทำความเห็นเสนอต่อที่ประชุม กกต. ก่อน หากนายทะเบียนพรรคการเมืองมีความเห็นให้ยุบพรรคก็จะต้องเสนอเรื่องเพื่อขอความเห็นจากที่ประชุม กกต. อีกครั้ง แต่หากนายทะเบียนให้ยกคำร้องก็ไม่จำเป็นนำเรื่องเข้าที่ประชุม กกต.

* โอ่กกต.ไม่ได้ใช้2มาตรฐาน

เรื่องนี้อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนว่าจะมองภาพลักษณ์ของ กกต. อย่างไร แต่อย่ามองว่า กกต. ดำเนินการเข้าฝ่ายใดหรือพรรคใด เพราะเราทำตามหน้าที่และโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งไม่ได้ดำเนินการพลิกแพลงกฎหมายเพื่อช่วยใคร กกต.ผู้นี้ ระบุและว่า ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นถอดถอน กกต.เพราะเห็นว่าใช้ 2 มาตรฐาน นั้น ขอยืนยันว่า กกต. ทำตามกฎหมาย และไม่หนักใจกับกระแสกดดันไม่ว่าเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง อีกทั้ง กกต. เป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเมือง และการเมืองตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ดังนั้นผู้ที่รับบาป คือ องค์กรอิสระ

นางสดศรี กล่าวด้วยว่า กกต. ไม่ได้มีความพยายามจะยืดเวลาการพิจารณาคดีนี้ แต่ต้องการให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง เชื่อว่านายทะเบียนพรรคการเมืองจะเสนอความเห็นได้ภายในสัปดาห์นี้ เพราะพยานหลักฐานทุกอย่างมีเพียงพอแล้ว

* มาร์ค-เทือกยันไม่แทรกแซง

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลแทรกแซงการพิจารณาคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทว่า ตนไม่ได้แทรกแซงอะไรทั้งนั้น เป็นเรื่องของ กกต.จะเป็นผู้วินิจฉัยและชี้แจงเรื่องนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลนี้เคารพกฎหมาย

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง ในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งแม้ว่าในช่วงนั้นจะไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของตัว ไม่ใช่เรื่องของพรรค

* สมัครซ่อมส.ส.ปราจีนฯคึกคัก

วันเดียวกัน ที่ จ.ปราจีนบุรี บรรยา กาศวันแรกของการรับสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 1 แทนนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ อดีต ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีผู้สมัคร 2 ราย คือ นายอำนาจ วิลาวัลย์ จากพรรคภูมิใจไทย หลานชายนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย และ พล.อ.สิทธิ์ สิทธิมงคล จากพรรคเพื่อไทย อดีตนายทหารฝ่าย เสธ. ประจำ รมว.กลาโหม สมัย พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ท่ามกลางกองเชียร์ของทั้งสองฝ่ายมาสร้างสีสัน ทั้งนี้ กกต. ปราจีนบุรี จะเปิดรับสมัครไปจนถึงวันที่ 25 ธ.ค. นี้ และกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 2-3 ม.ค. ส่วนวันเลือกตั้งจริงวันที่ 10 ม.ค. 2553

* ป๋าให้โอวาทแทนคุณแผ่นดิน

ค่ำวันเดียวกัน ที่โรงแรมดุสิตธานี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธีมอบทุนและประมูลจัดหาทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประจำปี 2552 โดยมีนักศึกษาเข้ารับทุนจำนวน 52 คน พล.อ.เปรม ให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ให้ทุกคนทำตัวเป็นคนดีของบิดามารดา เป็นคนดีของชาติบ้านเมือง ต้องคิดตรึกตรองว่าทำอย่างไรถึงจะเป็นคนให้ที่ดี และรู้จักการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook