ผอ.รพ.นครพนม ยันต้องรออีก 3 ปี หากรองบรัฐ ชงขอโตโน่ 50 ล้าน ตั้งศูนย์โรคหัวใจ

ผอ.รพ.นครพนม ยันต้องรออีก 3 ปี หากรองบรัฐ ชงขอโตโน่ 50 ล้าน ตั้งศูนย์โรคหัวใจ

ผอ.รพ.นครพนม ยันต้องรออีก 3 ปี หากรองบรัฐ ชงขอโตโน่ 50 ล้าน ตั้งศูนย์โรคหัวใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผอ.รพ.นครพนม ยันต้องรออีก 3 ปี หากรองบรัฐ ชงขอโตโน่ 50 ล้าน ตั้งศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

(30 พ.ย.65) นายแพทย์ ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณี ดาราหนุ่ม โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ พร้อมคณะ รวมถึงมูลนิธิเทใจดอทคอม ได้ลงพื้นที่ ระหว่างวันที่ 28-29 พฤศจิกายน 2565 เพื่อหารือ แนวทางการจัดสรรงบประมาณ ที่ได้รับบริจาคในกิจกรรมว่ายน้ำข้ามโขง หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ โดยมีผู้สนับสนุนบริจาคร่วมโครงการ กว่า 87 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์จะช่วยเหลือสนับสนุนโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลคำม่วน สปป.ลาว

โดยในส่วนของโรงพยาบาลนครพนม ยอมรับว่ามีงบประมาณเพียงพอตามแผนพัฒนา แต่ความจำเป็นเร่งด่วนหากมีงบประมาณจากภาคเอกชนมาสนับสนุนช่วยเหลือ ที่จะเกิดประโยชน์กับ ชาว จ.นครพนม รวมถึง ชาวลาว และจังหวัดใกล้เคียง คือ การผลักดันให้มีการจัดตั้งศูนย์รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ที่โรงพยาบาลนครพนม หลังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข จำนวนเงินกว่า 370 ล้านบาท ในการดำเนินก่อสร้างตึก 12 ชั้น เป็นศูนย์รักษาโรคหัวใจครบวงจร แต่ตามแผนพัฒนา จะต้องรอไปอีก 3-4 ปี ในการขอรับงบสนับสนุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ จึงจะสามารถเปิดให้การรักษาได้ จึงได้เสนอของบประมาณจากมูลนิธิเทใจดอทคอม ที่ดูแลงบบริจาคของโครงการของโตโน่

เบื้องต้นมีการพิจารณาความจำเป็นเร่งด่วนขอรับการสนับสนุน เครื่องมือแพทย์ ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจ และหลอดเลือด ครบวงจร เป็นงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท ให้ทางส่วนเกี่ยวข้องพิจารณา จะได้เปิดบริการได้เร็วขึ้นภายในปีหน้า นายแพทย์ ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน จ.นครพนม เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาในพื้นที่ ปีละกว่าล้านคน สิ่งจำเป็นนอกจากการดูแลอำนวยความสะดวก คือ การบริการด้านการรักษาพยาบาล จะต้องมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะปัจจุบันโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดฉับพลัน มีสถิติผู้ป่วยมากขึ้น เฉลี่ยปีละกว่า 200 ราย และ จ.นครพนม มีอัตราการเสียชีวิต สูงประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย จึงต้องมีการวางระบบรองรับการรักษา ไม่ต้องส่งต่อไปพื้นที่ต่างจังหวัด ลดการสูญเสีย

อย่างไรก็ตาม หากมีการเปิดศูนย์รักษาโรคหัวใจ ไม่เพียงเกิดประโยชน์แก่ชาวไทย ยังเกิดประโยชน์กับทางฝั่งลาว เนื่องจากทั้งโรงพยาบาลนครพนม กับโรงพยาบาลคำม่วน มีการลงนามความร่วมมือการรักษาผู้ป่วยร่วมกัน จะส่งผลดีต่อการเพิ่มศักยภาพการรักษามากขึ้น ในอนาคต สอดคล้องยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ของ จ.นครพนม ด้าน ดร.คำหล้า ราชวงศ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ ดาราหนุ่ม โตโน่ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนา สนับสนุน ส่งเสริมการดูแลรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลคำม่วน เดิมมีอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์เพียงพอ แต่ยอมรับบางอย่าง มีการใช้งานหลายปี เกิดการชำรุดเสียหาย และบางส่วนไม่เพียงพอกับการรับบริการ โดยได้เสนอให้มีการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ รวม 25 รายการ 

ส่วนเครื่องมือแพทย์ที่สำคัญที่มีความต้องการสูง คือ เครื่องเอ็กซเรย์ เครื่องอัลตร้าซาวด์ ถือเป็นสิ่งสำคัญในพื้นฐานการตรวจรักษา หากได้รับการสนับสนุน จะส่งผลดีกับทางโรงพยาบาลคำม่วนมากขึ้น สิ่งสำคัญยอมรับว่า โรงพยาบาลคำม่วน กับโรงพยาบาลนครพนม มีการลงนามความร่วมมือ ด้านการรักษาผู้ป่วย มีการส่งต่อผู้ป่วยมารักษาที่ฝั่งโรงพยาบาลนครพนมมาตลอด ยิ่งหากโรงพยาบาลนครพนม ได้รรับการสนับสนุน ในการพัฒนาการรักษาเกี่ยวกับโรคหัวใจหลอดเลือด จะเป็นผลดีต่อทางประชาชนฝั่งลาว ที่จะสามารถมาตรวจรักษาได้อีกด้วย รวมถึงส่งผู้ป่วยฉุกเฉินมารับบริการเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook