หนุ่ม กรรชัย ยังอึ้ง ครูสาวถูกเทงานแต่ง ผู้ชายกลับไปจดทะเบียนกับแฟนเก่า ด้วยเหตุผลนี้

จากกรณีที่ในโลกออนไลน์มีการแชร์โพสต์ของครูสาวคนหนึ่งใน จ.จันทบุรี ที่โพสต์เล่าเรื่องราวความรักพังทลาย หลังแฟนหนุ่มที่เป็นครูต่างโรงเรียน คบหาดูใจกันมาจนตัดสินใจแต่งงานกัน สุดท้ายฝ่ายชายหนี เทงานแต่งกลับไปหาแฟนเก่า กลับไปจดทะเบียนสมรสกัน จนครูสาวต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ขอค่าใช้จ่ายงานแต่งงานที่ตนจ่ายไปคืน

วันนี้ (1 ธ.ค.) ครูน้ำ ครูสาวผู้โพสต์ เดินทางมาพร้อมครอบครัว มาเปิดใจในรายการโหนกระแส กับ หนุ่ม กรรชัย พร้อมครอบครัว ขณะที่ฝ่ายชายก็โฟนอินเข้ามาชี้แจงในมุมของตัวเอง

ครูน้ำ เล่าเหตุการณ์ว่า รู้จักแฟนหนุ่มคนนี้ในงานอบรมงานหนึ่ง เขาเป็นครูคนละโรงเรียน เขาเข้ามาตีสนิท มาจีบอย่างชัดเจน ครูทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันได้ มีหลักฐานแชทว่าเขาส่งไลน์ข้อความหวานๆ มาจีบตลอด เขาบอกว่าเขาไม่มีใคร เพิ่งเลิกกับแฟนไม่นาน สุดท้ายก็ตกลงคบหากัน ตนให้แฟนหนุ่มมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน เพราะทางครอบครัวของครูน้ำก็เห็นว่าเขาเป็นคนดี มาช่วยงานที่บ้าน คอยดูแลทุกอย่าง ตกลงกันว่าจะแต่งงานกัน มีการไปจองหลายสิ่งหลายอย่าง เตรียมตัวสำหรับงานแต่งไว้หมด

ครูน้ำบอกว่า แฟนหนุ่มเป็นคนที่ฐานะไม่ดี แต่ตนไม่เคยรังเกียจ มีเรื่องอะไรก็ช่วยเหลือกัน เขาจะชอบน้อยใจตัวเองตลอดที่ไม่มีเงินทองมากเท่าคนอื่น ทำให้ตอนที่จ่ายเงินค่าใช้จ่ายเรื่องงานแต่งไปหลายอย่าง ครูน้ำไม่ยอมบอกให้ฝ่ายชายรู้ว่าตัวเองจ่ายเงินอะไรไปบ้าง เพราะไม่อยากให้เขาน้อยใจหรือเสียใจ

ระหว่างที่คบหากัน มีผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อมาหาครูน้ำ บอกว่าเป็นแฟนของฝ่ายชาย อยู่กันแบบสามีภรรยา มีการกู้บ้านร่วมกัน และไม่ได้เลิกกันแน่นอน ตอนนั้นครูน้ำตัดสินใจบอกเลิกฝ่ายชายทันที ครูน้ำยังบอกอีกว่า ฝ่ายชายบอกกับแฟนเก่าว่าเขามาอยู่กับครูน้ำ เพราะครูน้ำฐานะดี น่าจะช่วยเหลือเรื่องการเงินของเขาได้ ขอให้แฟนเก่าอดทนรอก่อน แล้วจะกลับไปจัดการเรื่องของคู่เขาในภายหลัง

แต่พอครูน้ำรู้เรื่องนี้ ฝ่ายชายมาง้อสุดกำลัง บอกว่าอย่าไปฟังคนอื่น อย่าไปเชื่อใคร ให้เชื่อเขาคนเดียว ช็อตที่สำคัญที่สุด คือตอนที่มีการโทรประชุมสายกันสามคน มีครูน้ำ ฝ่ายชาย และแฟนเก่าของฝ่ายชาย ผู้ชายบอกเลิกแฟนเก่าให้ครูน้ำได้ยินต่อหน้า ทำให้ครูน้ำเชื่อใจ และกลับมาคืนดีด้วย

ฝ่ายชาย โทรเข้ามาในรายการ ชี้แจงว่า สาเหตุที่ตนตัดสินใจเลิกกับครูน้ำเพราะรู้สึกผิดกับแฟนเก่า ที่ตอนนั้นตนระหองระแหงกัน ก็เลยนอกใจมาคบกับครูน้ำ  ประกอบกับมาทราบหลังจากคบกับครูน้ำว่า ครูน้ำป่วยซึมเศร้า เพิ่งมาเห็นอาการของเขา จนกลัวว่าชีวิตคู่มันจะไปด้วยกันไม่รอด ตนก็ไม่รู้จะรับมือกับการอยู่กับคนป่วยซึมเศร้าอย่างไร จนต้องขอเลื่อนการจดทะเบียนสมรสไปก่อน สุดท้ายตนมาตัดสินใจว่า จะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่าเพราะตนรู้สึกผิดกับเขามากกว่า

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องงานแต่ง ตนก็ต้องบอกว่าตนไม่ได้มีเงินขนาดนั้น แล้วแต่ละอย่างที่ครูน้ำบอกว่าไปจองสิ่งต่างๆ ในงานแต่ง เป็นการจองปากเปล่า ไม่ได้มีการวางเงินมัดจำ แล้ววันนี้จะมาบอกว่ามาขอเก็บค่าใช้จ่ายอะไรอีก เขาอาจจะมีปัญหาเรื่องเงินหรือเปล่าถึงมาพูดตอนนี้ ตนไม่เห็นว่าเขาจะต้องจ่ายอะไรไปเลย แล้วจะมาเรียกร้องเอาเงินจากตนได้ยังไง

ฝ่ายพ่อของผู้เสียหาย บอกว่า เรื่องส่วนตัวของลูก ถ้าไปกันไม่ได้ก็ให้เลิกแล้วกันไป แต่เรื่องค่าเสียหาย ค่าใช้จ่ายในงานแต่งงาน เขาควรต้องมารับผิดชอบ ลูกสาวบอกตนว่าเลิกกันไปแล้วเขาคงต้องอยู่ตัวคนเดียว ไม่อยากให้ไปเรียกเอาเงินอะไรจากเขาเยอะ ก็เลยเรียกแค่ 4 หมื่นบาท แล้วให้เลิกแล้วกันไป แต่ปรากฎว่าพอเลิกกันไปไม่กี่วัน เขาก็ไปจดทะเบียนสมรส มีเมียเป็นตัวเป็นตน แบบนี้มันหยามกันเกินไป ถ้าเป็นครอบครัวอื่นเขาคงเรียกเป็นแสนไปแล้ว

นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่แฟนหนุ่มไปโพสต์โจมตีครูน้ำ บอกว่าไม่อยากจะใช้ชีวิตคู่กับคนที่มีแนวคิดความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ มีสัมพันธ์กันแบบไม่ผูกมัด ซึ่งเรื่องนี้แฟนหนุ่มบอกว่าถ้าตนโพสต์ไม่เหมาะสม ก็ขอโทษด้วย แต่ต้องทำเพื่อรักษาเกียรติของตัวเองกับแฟนเหมือนกัน

ขณะที่ครูน้ำ บอกว่าเรื่องเสียเกียรติมันควรจะเป็นฝ่ายตนมากกว่า ที่ถูกเอาเรื่องไปโพสต์ทำให้เสื่อมเสียขนาดนี้ และถ้าเรื่องมาถึงขั้นนี้ สิ่งที่แฟนหนุ่มทำให้ครอบครัวตนต้องเสียใจ เสื่อมเสียชื่อเสียง ครูน้ำจะไม่เอาแล้ว 4 หมื่น ตนจะเรียกเงินค่าใช้จ่ายคืนทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ แล้วจะเรียกค่าเสียหายที่ทำให้ตนเสียศักดิ์ศรีด้วย

• โซเชียลแห่ให้กำลังใจ "ครูน้ำ" หลังออกโหนกระแส ฝ่ายชายเทงานแต่ง-จดทะเบียนแฟนเก่า