ชายคลั่งถือมีดไล่แทงคนในชุมชนลำสาลี เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 1 ราย ตร.ล้อมจับระทึก

ชายคลั่งถือมีดไล่แทงคนในชุมชนลำสาลี เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 1 ราย ตร.ล้อมจับระทึก

ชายคลั่งถือมีดไล่แทงคนในชุมชนลำสาลี เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 1 ราย ตร.ล้อมจับระทึก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจ สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่ง อาละวาดไล่แทงผู้อื่น มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย บริเวณชุมชนลำสาลีพัฒนา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ตำรวจได้เข้าปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหาตามหลักยุทธวิธี จนสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ เป็นชายอายุ 20 ปี

ผู้ต้องหายังไม่สามารถให้การได้ มีอาการเครียด ทราบว่าเป็นคนไม่มีงานทำ มาอาศัยอยู่กับพ่อที่ขับวิน จยย.รับจ้างอยู่แถวย่านบางกะปิ ได้เพียง 2 เดือน ก่อนหน้านี้เคยรักษาตัวที่ รพ.อ่างทอง เบื้องต้นตำรวจตรวจสารเสพติดแล้วแต่ไม่พบ อยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม

ผู้บาดเจ็บเป็นชาย อายุ 45 ปี คนเจ็บ เปิดเผยว่า อยู่ดีๆ ก็ถูกคนร้ายนำมีดไล่มาแทง โดยที่ไม่รู้จักกันกับผู้ก่อเหตุมาก่อน ขณะนี้ส่งรักษาตัวที่รพ.ราชวิถี ส่วนผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 69 ปี

ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ชายผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านเรียกกันว่า “เบคแฮม” รู้ว่ามีอาการติดยา ติดใบกระท่อม และกัญชา เมื่อเช้าที่ผ่านมา เขาเปิดเพลงเสียงดัง เอาที่นอนมาขวางกลางถนน ปิดกั้นไม่ให้คนผ่านไปผ่านมา แต่คนในชุมชนก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะชายคนนี้ก็เป็นอย่างนี้อยู่ตลอด

จนกระทั่ง ผู้เสียชีวิตจะต้องผ่านทางนี้ จึงได้เข็นจักรยานผ่าน แต่ชายผู้ก่อเหตุได้เอามีดแทง ผู้เสียชีวิตวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แต่ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตอนก่อเหตุได้มีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาช่วย แล้วถูกแทงได้รับบาดเจ็บไปอีก 1 คน

ชาวบ้านบอกอีกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนเงียบๆ เคยไปรักษาที่โรงพยาบาล เกี่ยวกับอาการทางประสาท เมื่อออกมาก็ติดใบกระท่อม กัญชา และยาบ้า ตอนเกิดเหตุคาดว่าน่าจะเสพยาไปทำให้คลุ้มคลั่งจึงก่อเหตุขึ้น

ด้านภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตจะเดินออกไปเพื่อซื้อกับข้าวเป็นประจำทุกวัน ปกติแล้วจะออกไปในช่วงเย็น แต่วันนี้ข้าวสารที่บ้านหมด จึงเดินออกไปตอนเช้า มาทราบข่าวว่าสามีถูกแทง เพราะเพื่อนลูกชายที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุโทรมาบอกลูกชาย ส่วนตัวเองไม่ได้ออกไปดู เพราะเดินไม่ไหว ทราบว่าสามีโดนแทงแต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต ก่อนหน้านี้เห็นในข่าวทุกวัน ไม่คิดว่าจะเจอกับครอบครัวตัวเอง ปกติไม่เคยมีปัญหากับใคร ผู้เสียชีวิตอายุจะ 70 ปี อยู่แล้ว และอยู่ที่นี่มานานแล้วเป็นเสาหลักของครอบครัว ยังหากินได้ ทำขนมออกไปขาย มีรายได้สัปดาห์ละพันกว่าบาท คนในชุมชนก็รู้จักรักใคร่กันเป็นอย่างดี

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เก็บรวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook