เปิดกลลวงมิจฉาชีพ เลียนเสียงเพื่อนโทรหลอกยืมเงิน โป๊ะแตก ตัวจริงอยู่หน้าบ้าน

เปิดกลลวงมิจฉาชีพ เลียนเสียงเพื่อนโทรหลอกยืมเงิน โป๊ะแตก ตัวจริงอยู่หน้าบ้าน

เปิดกลลวงมิจฉาชีพ เลียนเสียงเพื่อนโทรหลอกยืมเงิน โป๊ะแตก ตัวจริงอยู่หน้าบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลใหม่มิจฉาชีพ โทรมาให้ทายว่าเสียงใคร ก่อนตีเนียนเป็นเพื่อนหลอกยืมเงิน ยังไม่ทันโอน โป๊ะแตก เจอตัวจริงอยู่หน้าบ้าน 

(7 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากข้าราชการ กศน.จังหวัดนครราชสีมารายหนึ่ง ว่าถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์ตีเนียนเป็นเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน หลอกให้โอนเงินให้ จำนวน 26,000 บาท จนเกือบหลงกลโอนไปให้ โชคดีที่เจอเพื่อนที่ทำงานตัวจริงก่อน จึงจับโป๊ะได้ว่าเป็นมิจฉาชีพ

โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จังหวัดนครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบกับ นางสมสมัย หรือ ครูเก๋ อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กศน.จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเกือบตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในครั้งนี้ ได้เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 4 ก.พ.66 ที่ผ่านมา ได้มีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ โทรศัพท์มาหาสามีของตนเอง โดยเป็นเสียงผู้หญิงรายหนึ่ง พูดทำนองให้ทายว่าจำได้ไหมว่าเสียงใคร สามีของตนเองก็ไม่รู้ จึงยื่นโทรศัพท์มาให้ตน ซึ่งปลายสายบอกว่าเป็นคนไม่ใกล้ไม่ไกล เจอหน้ากันเป็นประจำทุกวัน ทำให้ตนเองทายว่าใช่น้องนาง ที่ทำงานอยู่ฝ่ายการเงินใน กศน.จังหวัดนครราชสีมา ด้วยกันหรือไม่ เพราะเสียงคล้ายมาก ปลายสายจึงบอกว่าใช่ แล้วบอกว่าเขาได้เปลี่ยนเบอร์ใหม่ จึงโทรมาแจ้งให้บันทึกเบอร์นี้ไว้

หลังจากนั้นช่วงสายๆ ของวันอาทิตย์ที่ 5 ก.พ.66 คนที่แอบอ้างชื่อน้องนาง ก็ได้โทรศัพท์มาบอกว่า ออกมาเอาของที่สั่งไว้ แต่นำเงินมาไม่พอ จะขอรบกวนให้ช่วยโอนเงินให้ก่อน 26,000 บาท เดี๋ยวตอนเที่ยงจะโอนให้คืน ซึ่งเมื่อได้ตัวเลขจำนวนเงินตนก็รู้สึกตกใจมาก เพราะเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งตนเองก็ขอเลขบัญชี หลังจากนั้นเขาก็ส่งเลขบัญชีมาทาง SMS เพราะเบอร์ใหม่นี้ไม่ได้แอดไลน์ส่วนตัวกับตนเอง ตนเองจึงได้ปรึกษาสามี เมื่อสามีทราบจึงบอกว่าอย่าโอนไป โดยแกล้งว่าได้โอนเงินจ่ายค่าประกันไปหมดแล้ว เหลือเงินในบัญชีแค่ 5,000 บาท ตนเองจึงโทรไปแจ้งตามที่สามีบอก แต่ปลายสายก็ยังรบเร้าให้ติดต่อคนอื่นที่พอจะโอนเงินให้ได้หน่อย ตนเองจึงได้ให้เบอร์เพื่อนที่ทำงานอีกคนไป

หลังจากนั้นไม่นานก็เดินออกมาข้างนอกบ้าน ซึ่งตนเองพักอยู่บ้านพัก กศน. และก็พบกับน้องนาง ซึ่งก็อยู่บ้านพัก กศน.ตรงข้ามกัน เดินทางออกมาในสภาพเพิ่งตื่นนอน เพราะเป็นวันหยุดราชการ จึงได้ถามว่าได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนอีกคนแล้วหรือยัง น้องนางจึงถามว่าโทรไปหาเรื่องอะไร ตนจึงบอกว่าก็เรื่องยืมเงินไง น้องนางจึงบอกว่าไม่เห็นรู้เรื่อง ทำให้ตนถึงบ้างอ้อ ว่าถูกมิจฉาชีพโทรศัพท์มาหลอกเสียแล้ว โชคดีที่ยังไม่ได้โอนเงินไปให้ ถ้าตอนนั้นมิจฉาชีพบอกว่าให้โอนไปให้ 5,000 บาท ตนก็คงจะโอนไปให้แล้ว เพราะเสียงเหมือนน้องนางมาก จนตนหลงเชื่อไป 100% แล้วว่าเป็นน้องนาง เพื่อนที่ทำงานร่วมกันจริงๆ

หลังจากรู้แล้วว่าเป็นมิจฉาชีพ ตนเองก็โทรศัพท์ไปเบอร์นั้น และถามว่าจะเอาเงินไปทำอะไร ซึ่งปลายสายก็บอกว่าจะนำเงินไปซื้อผ้าม่านไปติดที่บ้าน และส่วนหนึ่งก็จะนำมาขายด้วย ตนเองจึงถามว่าติดที่บ้านหลังไหน ซึ่งคาดว่าปลายสายจะรู้ตัวว่าจับได้แล้ว จึงวางสายไปโดยไม่ตอบอะไรเลย ครั้งนี้ถือว่าตนเองโชคดีมาก และอยากฝากถึงประชาชนทั่วไปว่า ให้ระวังมิจฉาชีพ ทุกวันนี้จะมีวิธีหลอกที่หลากหลาย โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็ขอให้ตรวจเช็กให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน อย่างน้อยให้ถามว่าคนที่โทรมา มีสามี หรือภรรยาชื่ออะไร ทำงานอะไร เป็นต้น เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเหล่านี้ซ้ำอีก ซึ่งกรณีนี้ตนเองไม่ได้แจ้งความไว้ เนื่องจากยังไม่ได้เสียหาย เพราะยังไม่ได้โอนเงินไปให้มิจฉาชีพแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปหาน้องนางตัวจริง ก็ยืนยันว่า ไม่เคยโทรศัพท์ไปยืนเงินใคร หลังจากทราบเรื่องก็ขอฟังเสียงมิจฉาชีพ ซึ่งเสียงก็คล้ายตนเองมาก เพียงแต่สำเนียงการพูดจาจะไม่เหมือนตนเลย อีกทั้งตนเองก็ไม่เคยโทรศัพท์ไปหาสามีของครูเก๋เลย ถ้าจะโทรก็โทรไปหาครูเก๋โดยตรง และทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์อีกด้วย นอกจากนี้ตนเองก็ไม่ได้ขายผ้าม่าน ซึ่งถ้าสอบถามข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่ามีอะไรที่ผิดสังเกตหลายข้อ ดังนั้นก่อนโอนเงินให้ใครควรสอบถามข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อน ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่โชคดีเหมือนครูเก๋ก็เป็นได้

ผู้สื่อข่าวได้นำหมายเลขโทรศัพท์ ไปตรวจสอบในแอปพลิเคชัน Whoscall ก็พบว่าเบอร์ดังกล่าว เป็นเบอร์ของคนที่ชื่อว่า “เตย” แต่ไม่มีประวัติเป็นเบอร์ของมิจฉาชีพ ส่วนเลขบัญชีธนาคาร ที่มิจฉาชีพส่งมาให้ครูเก๋ ก็คาดว่าจะเป็นเลขบัญชีม้า 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook