รวบหนุ่มชิงทองที่ขอนแก่น สารภาพเห็นเจ้าของร้านเป็นคนแก่ เลยบุกก่อเหตุ

รวบหนุ่มชิงทองที่ขอนแก่น สารภาพเห็นเจ้าของร้านเป็นคนแก่ เลยบุกก่อเหตุ

รวบหนุ่มชิงทองที่ขอนแก่น สารภาพเห็นเจ้าของร้านเป็นคนแก่ เลยบุกก่อเหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบแล้ว ผู้ต้องหาชิงทองกลางเมืองขอนแก่น เจ้าตัวสารภาพสิ้นตกงาน ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง เดินเท้าไปเรื่อย

พ.ต.อ.ไพโรจน์ ไทยพุทธา รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ควบคุมตัวนายวสันต์ อายุ 31 ปี จ.เลย ผู้ต้องหาในคดีวิ่งราวทรัพย์ โดยกระทําด้วยประการอื่น เพื่อไม่ให้เห็นหรือจําหน้าได้ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านทอง ในถ.หน้าเมือง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น หลังจากก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จากร้านทองทวีโชค หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในชุมชนวัดวุฒาราม เขตเทศบาลนครขอนแก่น

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตกงาน ไม่มีเงินใช้จ่าย ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องพัก ที่ติดค่าเช่าไว้ 3 เดือนกว่าหกพันบาท หางานทำไม่ได้ หาทางออกไม่ได้ จึงออกจากห้องเช่าเดินเท้ามาเรื่อยๆ จนเห็นว่าที่ร้านทองทวีโชค มีคนสูงอายุขายทองอยู่เพียง 2 คน จึงทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปขอซื้อทองเส้นละ 1 บาท

“เมื่อสบโอกาสที่ฝ่ายชายเดินเข้าไปหลังร้าน จึงชิงเอาสร้อยคอทองคำไป 1 เส้น แล้วว่างออกจากร้าน ถอดเสื้อคลุมสีน้ำเงินแขนยาวทิ้งที่กองขยะ จากนั้นก็วิ่งหนีเข้าไปในห้างสรรพสินค้า แล้ววิ่งออกประตูหลัง เดินเอาทองไปจำนำที่ร้านทองเยาวราช2 ได้เงินมา 27,000บาท นำไปจ่ายค่าห้องเช่า และไปตัดผมใหม่ จึงเหลือเงินติดตัวเพียง 10,200 บาท จากนั้นก็เข้าพักในห้องเช่า จนกระทั่งถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว”

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายรายนี้ชื่อเล่นว่านายเป้ เป็นอดีตพนักงานในร้านขายอาหารแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และมีที่พักอยู่ในห้องเช่าไม่มีชื่อในชุมชนวุฒาราม จึงติดตามไปยังห้องเช่าดังกล่าวทันทีเมื่อไปถึงก็พบตัวอยู่ในห้อง ซึ่งยังสวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีเทา ตรงกับเสื้อยืดของคนร้ายที่ใส่ขณะวิ่งหลบหนีเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา

 “จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่าเคยถูกจับดําเนินคดีใน ข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น เมื่อปี 2553 ในท้องที่ สภ.เมืองขอนแก่น, ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมื่อปี 2561 ท้องที่ สภ.สีดา จว.นครราชสีมา, ข้อหา ร่วมกัน ลักลอบเล่นการพนัน เมื่อปี 2561 ท้องที่ สน.บางนา, ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมื่อปี 2564 ท้องที่ สภ.เมือง ขอนแก่น และข้อหา ลักลอบเล่นการพนัน เมื่อปี 2565 ท้องที่ สภ.เมืองขอนแก่น อย่างไรก็ตามภาย หลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook