เจ้าของกลูต้า ยันไร้สารเสพติด จ่อฟ้อง 50 ล้าน แม่ลูกว่าที่ นศ.เภสัชฯ อ้างกินแล้วฉี่ม่วง

เจ้าของกลูต้า ยันไร้สารเสพติด จ่อฟ้อง 50 ล้าน แม่ลูกว่าที่ นศ.เภสัชฯ อ้างกินแล้วฉี่ม่วง

เจ้าของกลูต้า ยันไร้สารเสพติด จ่อฟ้อง 50 ล้าน แม่ลูกว่าที่ นศ.เภสัชฯ อ้างกินแล้วฉี่ม่วง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าของกลูต้ายืนยัน ผลิตภัณฑ์ของตนปลอดภัยไร้สารอันตรายหรือสารเสพติด เตรียมฟ้องคู่แม่ลูก เรียก 50 ล้าน ฐานหมิ่นประมาท

วันนี้ (30 พ.ค. 66) เวลา 16.00 น. ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ พร้อมด้วย น.ส.อภิรมณ สุขสีทา อายุ 27 กรรมการ บริษัทธันย์รดา 59 จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์กลูต้า ที่ตกเป็นข่าว แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชน จากกรณีที่ว่าเด็กนักเรียนชั้น ม.6 ตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งคาดว่าสารเสพติดดังกล่าว อาจจะมาจากผลิตภัณฑ์กลูต้าชื่อดังรายหนึ่งที่จำหน่ายในโซเชียลมีเดีย

โดย น.ส.อภิรมณ ระบุว่า ตนได้รับแจ้งจากแม่ของเด็กเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมว่า ลูกสาวได้กินกลูต้าของบริษัทตัวเอง แล้วตรวจพบสารเสพติด พอตนได้รับทราบก็รีบสอบถามข้อเท็จจริงและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าจะรีบตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตัวเอง ซึ่งทางแม่น้องบอกว่า ลูกของตนเป็นคนดีและไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อีกทั้งกำลังเข้ามหาวิทยาลัยแต่ผลตรวจร่างกายก่อนรายงานตัว จึงไม่สามารถเข้าเรียนได้ เลยขอถามตนว่าจะให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างใด

จากนั้นตนก็ยืนยันว่า ตนเปิดขายกลูต้ามาเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้ว ก็ไม่เคยปรากฏเจอปัญหาสารแปลกปลอมปนเปื้อนเหมือนเคสนี้ ดังนั้นจึงจะขอไปตรวจสอบกลูต้าของตนก่อนเพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป ซึ่งทางแม่ก็กล่าวว่าจะไปตรวจสอบซ้ำเช่นกัน ทางตนก็ยินดี ปรากฏว่าในวันถัดมา กลูต้าของตนก็ตกเป็นข่าวว่ามีสารเสพติดโดยการให้ข่าวของแม่ลูกคู่นี้ ทั้งที่คุยกันแล้วว่าจะไปตรวจสอบก่อน อีกทั้งข่าวที่นำเสนอออกไปโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัย จนส่งผลกระทบทำให้ลูกค้ายกเลิกออเดอร์ตนเองไปมากกว่า 50 ราย ซึ่งก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมสำหรับตนอย่างมากและทำให้ธุรกิจของตนได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์กลูต้าของตน ได้รับการยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และใบรับรองจากโรงงานแล้วว่าไม่พบสารเสพติดหรือสารปนเปื้อนแต่อย่างใด อีกทั้งหลังเป็นข่าวก็นำส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์อีกรอบเมื่อ 29 พ.ค. เพื่อความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้ขอชะลอการผลิตแล้ว

น.ส.อภิรมณ ยอมรับว่า พอทราบข่าวก็สติแตก กระทบกับธุรกิจตัวเองอย่างมาก ขอยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ตนเองปลอดภัย บริสุทธิ์ใจ แต่หลังจากนี้คงต้องใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อป้องกันตัวเอง ธุรกิจของตนกำลังเติบโต แต่ข่าวที่ออกมาทำให้ธุรกิจเกือบพังทลาย แต่ยังให้โอกาสเจรจา ขอให้แม่ลูกติดต่อกลับมาพูดคุย เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมาเลย

ด้าน ทนายเดชา ระบุว่า ตนได้รับมอบหมายให้เตรียมฟ้องดำเนินคดีกับแม่ลูกคู่นี้ ในข้อหากล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงของบริษัทตนเอง เสียชื่อเสียง แผนการตลาดธุรกิจต่างๆ และข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และตาม พ.ร.บ.คอม รวมทั้งฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 50 ล้านกับแม่ลูกคู่นี้

โดยให้ไปพิสูจน์ความจริงที่ศาล ทั้งนี้ จะให้ระยะเวลาแม่ลูกติดต่อกลับมาสักระยะก่อน หากไม่รีบติดต่อกลับมาจะฟ้องศาลจังหวัดบุรีรัมย์ทันที จากนั้นมีการสาธิตการทานกลูต้าเพื่อความบริสุทธิ์ปลอดภัย โดยให้ผู้บริโภคตัวอย่างซึ่งทานเป็นประจำมา 3 เดือน และทานครั้งล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาตอนเที่ยงคืนของวันนี้มาแล้ว 2 เม็ด ซึ่งผู้บริโภครายนี้ทานให้ดูอีกรอบจำนวน 2 เม็ดต่อหน้าสื่อ

หลังจากนั้นก็นำผงในแคปซูลยาไปตรวจ โดยนำชุดตรวจยาเสพติดจาก สน.โคกคราม มาใช้สาธิต พบว่าจากการนำตัวอย่างน้ำละลายกลูต้า ชุดตรวจขึ้น 2 ขีดซึ่งแสดงผลว่า ไม่พบสารแอมเฟตามีนแต่อย่างใด ส่วนผลการตรวจปัสสาวะของตัวอย่างผู้บริโภครายนี้ พบว่าชุดตรวจขึ้น 2 ขีด ไม่พบสารเสพติดดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้จะนำผลตรวจไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.โคกครามต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook