หญิงป่วยหนัก ถอดเครื่องช่วยหายใจแต่ไม่ตาย เชื่อผีชะมกสิง หมอปลายังตอบไม่ได้

หญิงป่วยหนัก ถอดเครื่องช่วยหายใจแต่ไม่ตาย เชื่อผีชะมกสิง หมอปลายังตอบไม่ได้

หญิงป่วยหนัก ถอดเครื่องช่วยหายใจแต่ไม่ตาย เชื่อผีชะมกสิง หมอปลายังตอบไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หญิงป่วยหนัก ถอดเครื่องช่วยหายใจแต่ไม่ตาย นอนนิ่งมา 12 วัน ญาติเชื่อผีชะมกสิงร่างไม่ยอมให้ไป

(1 มิ.ย.66)  นายสมจิตร อายุ 68 ปี และนางสำราญ อายุ 65 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านหนองมน ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้นิมนต์พระครูสังวรธรรมโสภณ หรือ หลวงพ่อวินัย เจ้าอาวาสวัดสองพี่น้อง ตำบลสะเดา อำเภอนางรอง และเป็นเจ้าคณะตำบลสะเดา มาช่วยทำพิธีปัดเป่าสิ่งลี้ลับออกจากตัวของ น.ส.ปฤษณา อายุ 45 ปี ลูกสาวซึ่งป่วยระยะสุดท้ายนอนรักษาที่ รพ.หลายวันแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น หมอบอกให้ญาติทำใจและอนุญาตให้พาผู้ป่วยกลับมาบ้านได้ พอมาถึงบ้านทั้งครอบครัวญาติพี่น้องต่างก็พากันมาร่ำลาและขออโหสิกรรมเป็นครั้งสุดท้าย เพราะสภาพร่างกายของ น.ส.ปฤษณา เหลืองซีดไม่รับรู้อะไรแล้ว แขนขาเขียวช้ำ ก็เชื่อว่าเป็นอาการของคนใกล้สิ้นใจแล้ว แต่ที่ครอบครัวแปลกใจคือตรวจไม่พบชีพจรแล้ว แต่ยังหายใจอยู่ ชาวบ้านและผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านจึงเชื่อว่า น.ส.ปฤษณา  เสียชีวิตไปแล้วแต่ที่ยังมีลมหายใจอยู่ เพราะมีผีชะมกหรือผีปอบมาสิงร่างแทนเพื่อขอส่วนบุญโดยใช้ร่างกายของ น.ส.ปฤษณา จึงไม่ยอมให้จากไป

นางสำราญ แม่ผู้ป่วย เล่าว่า ลูกสาวเป็นผู้พิการทางสมองมาตั้งแต่เด็ก แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจ็บป่วยถึงขั้นต้องเข้า รพ.เลย กระทั่งเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2566 ลูกมีอาการป่วยไข้สูง จึงพาไปหาหมอที่นางรอ  นอนรักษาที่ รพ.หลายวันแต่อาการก็ทรุดลงเรื่อยๆ โดยหมอแจ้งกับทางญาติว่าร่างกายของลูกไม่ตอบสนองแต่อยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ จึงให้ญาติพูดคุยหารือกันว่าจะรักษาประคับประคองต่อไป  หรือจะนำตัวกลับบ้าน ซึ่งญาติก็ตัดสินใจจะพาลูกสาวกลับบ้าน ก็รับลูกออกจาก รพ. วันที่ 19 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา แต่พอกลับมาถึงบ้านร่างกายลูกไม่ตอบสนอง ก็ตัดสินใจถอดสายออกซิเจนออก เพื่อให้เขาจากไปตามธรรมชาติ

แต่พอถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว ลูกสาวก็ยังหายใจ แต่ตรวจไม่พบชีพจร และยังมีลมหายใจถึงวันนี้  ทั้งญาติและชาวบ้านต่างก็แปลกใจ ว่าไม่มีชีพจรแล้วแต่ทำไมยังหายใจอยู่ ชาวบ้านโดยเฉพาะคนแก่ในหมู่บ้านจึงเชื่อว่าที่ยังหายใจอยู่ เพราะมีวิญญาณผีชะมก หรือปอบมาเข้าสิงร่างแทน  ไม่ใช่ตัวของ น.ส.ปฤษณา ซึ่งหมอบอกถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจ ไม่เกิน 2 วัน ลูกก็จะจากไป แต่ตอนนี้ผ่านไปกว่า 10 วันแล้วลูกก็ยังนอนแน่นิ่งไม่ตอบสนองไม่กินข้าว  ป้อนได้แต่ยามากว่า 10 วันแล้ว ก็สงสารลูกสาวมากหากลูกไม่ตอบสนองอะไรแล้ว  ก็อยากให้ลูกจากไปอย่างสงบไม่ต้องเจ็บปวดทรมานจึงได้นิมนต์พระมาทำพิธีให้ตามความเชื่อ   แต่หากไม่ได้ผลก็อยากจะให้หมอปลามาช่วย  เพราะไม่อยากให้ลูกนอนทรมานแบบนี้สงสารลูกมาก

ด้าน พระครูสังวรธรรมโสภณ หรือหลวงพ่อวินัย เจ้าคณะตำบลสะเดา บอกว่า เมื่อญาติโยมนิมนต์ให้มาช่วย เพราะเชื่อว่าลูกสาวตัวเองเสียชีวิตไปแล้วแต่ที่ยังหายใจอยู่เพราะมีผีมาสิงร่างแทน หลวงพ่อก็มาช่วยดูให้ ซึ่งตั้งแต่บวชเป็นพระมาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน  แต่เคยได้ยินเขาพูดกันมีกรณีคนที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ยังมีลมหายใจอยู่เพราะมีสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นมาสิงร่างแทน แต่ที่หลวงพ่อมาทำพิธีวันนี้เป็นไปตามหลักเมตตาธรรม คือ องค์พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สวดปัดเป่าบอกกล่าวให้สิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นออกไป และประพรมน้ำมันเป็นความเป็นสิริมงคล แต่ไม่ใช่ไสยศาสตร์  

ส่วนที่ชาวบ้านเชื่อว่าวิญญาณที่มาสิงร่างเป็นผีชะมก หรือผีปอบนั้น ก็เป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบร่ำโบราณ  ที่เขาต้องมาสิงร่างเพราะต้องการได้รับส่วนบุญผ่านร่างคนที่เชื่อว่าตายไปแล้ว ที่มาวันนี้หลวงพ่อก็ใช้หลักธรรมะช่วย เพราะหลวงพ่อไม่ได้มีวิชาอาคมอะไร แต่จะได้ผลหรือไม่ก็ต้องรอดู 

ล่าสุดวันนี้ (2 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อติดตามอาการของ น.ส.ปฤษณา โดยได้มีหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และหน่วยกู้ชีพ เดินทางดูอาการและใช้เครื่องวัดความดันด้วย ซึ่งสภาพร่างกายล่าสุดของ น.ส.ปฤษณา วันนี้พบเท้าบวมทั้ง 2 ข้าง แขนขา และตามลำตัวหลายจุดมีรอบช้ำอาจจะเกิดจากการนอนกดทับ ไม่สามารถสื่อสารอะไรได้ รับประทานอาหารไม่ได้ แต่จากการตรวจชีพจรวันนี้พบมีสัญญาณชีพ แต่หายใจแผ่วเบา ซึ่งครอบครัวก็ยังเชื่อว่าอาจจะมีสิ่งลี้ลับมาสิงร่างจึงทำให้ยังหายใจอยู่

พร้อมกันนี้ก็ได้ให้คุณแม่ได้พูดคุยกับ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ผ่านวีดีโอคอล เพื่อเล่าถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูกสาวให้หมอปลาฟัง ทั้งนี้ยังให้หมอปลาได้ดูสภาพของน้องด้วย ซึ่งเบื้องต้นหมอปลาบอกกับทางครอบครัวว่า ให้รอดูหลังวันพระก่อนว่าน้องจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากยังมีชีวิตอยู่หมอปลา ก็จะลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่บ้านอีกครั้งว่าเกิดจากอะไร เพื่อช่วยเหลือน้องและครอบครัว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้

นางสำราญ ผู้เป็นแม่ บอกว่า หลังจากได้พูดคุยกับหมอปลา ก็รู้สึกสบายใจขึ้น ซึ่งหมอปลาแนะนำว่าให้รอดูหลังวันพระก่อนว่าน้องจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากน้องยังมีชีวิตอยู่หมอปลาก็จะมาช่วย เพราะที่ผ่านมาทางครอบครัวก็ทั้งให้พระ และหมอพื้นบ้านมาทำพิธีตามความเชื่อแล้ว แต่ลูกก็ยังเหมือนเดิม ส่วนตัวก็เชื่อว่าน่าจะมีสิ่งลี้ลับมีสิงร่างลูกตามที่โบราณเขาว่าจริง จากสิ่งที่ผิดปกติเพราะทาง รพ.แจ้งว่าน้องอยู่ได้เพราะเครื่องช่วยหายใจ ที่ผ่านมาทาง รพ. ก็รักษาเต็มที่ให้ยาที่ดีที่สุดแล้วแต่น้องก็ไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจพาลูกกลับมาบ้านเพื่อให้มาสิ้นใจที่บ้านก็คิดว่าหากถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว ไม่เกิน 2 วันลูกคงจะจากไป จนทางครอบครัวจัดเตรียมสถานที่ไว้แล้ว แต่นี้ผ่านมากว่า 10 วัน แล้วน้องก็ยังอยู่สภาพเดิม ก็อยากให้หมอปลามาช่วยอยากให้ลูกพ้นทุกข์ไม่อยากเห็นลูกต้องนอนทรมานแบบนี้ อยากให้ลูกจากไปอย่างสงบ

ด้านนายสราวุฒิ จังกินา นายกสมาคมกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากทาง รพ.นางรอง ให้ไปรับผู้ป่วยเพื่อให้กลับไปเสียชีวิตที่บ้าน ซึ่งระหว่างทางก็ให้ใส่เครื่องออกซิเจน เพื่อต้องการให้ผู้ป่วยมาเสียที่บ้าน ซึ่งหลายๆ เคสเมื่อมาถึงที่บ้านแล้วถอดเครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 1-2 ชม. ก็จะเสียหรือเต็มที่อาจจะอยู่ได้ 1 หรือ 2 วันก็จะสิ้นใจ แต่เคสนี้แปลกมาเพราะอยู่มาถึง 12 วันแล้วแต่ไม่รู้สึกอะไร แต่ที่ทางครอบครัวเชื่อว่าน่าจะมีสิ่งลี้ลับที่ทำให้น้องยังมีลมหายใจนั้น ส่วนตัวเป็นกู้ภัยฯ และยังไม่เคยเจอสิ่งลี้ลับกับตัวเองก็ต้องบอกว่าไม่เชื่อ แต่หากหมอปลา จะมาช่วยเหลือก็เป็นสิ่งที่ดีกับทางครอบครัวก็จะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งคนในครอบครัวที่ต้องดูแล และอยากให้น้องจากไปอย่างสงบไม่ต้องทรมาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook