เกินไปไหม? เพื่อนบ้านต่อเติมโรงรถไปครึ่งถนน ประธานหมู่บ้านอ้าง แก้ยาก ทำผิดกันทุกหลัง

เกินไปไหม? เพื่อนบ้านต่อเติมโรงรถไปครึ่งถนน ประธานหมู่บ้านอ้าง แก้ยาก ทำผิดกันทุกหลัง

เกินไปไหม? เพื่อนบ้านต่อเติมโรงรถไปครึ่งถนน ประธานหมู่บ้านอ้าง แก้ยาก ทำผิดกันทุกหลัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพื่อนบ้านต่อเติมโรงรถไปครึ่งถนน อ้างถนนเป็นที่สาธารณะ ประธานหมู่บ้านเผย แก้ยาก เพราะทำผิดกันทุกหลัง 

เมื่อเวลา 13.00 น. (5 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน กรณีเพื่อนบ้านสร้างโรงจอดรถบนถนนหน้าบ้าน เทศบาลบางคูรัดได้เข้ามาตักเตือน แต่ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งเจ้าของบ้านคนก่อน ร้องเรียนมาหลายปีไม่ได้รับความแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าวพบเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น หน้าบ้านต่อเติมหลังคายื่นออกมาจากตัวบ้านเป็นลานจอดรถ

ขณะเดียวกันพบนายภูเมธ อายุ 40 ปี อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้าม กล่าวว่า เวลาซื้อบ้านทัศนียภาพก็สำคัญ ต่อให้เพื่อนบ้านไม่ได้ใช้พื้นที่ตรงนี้ แต่มันก็ควรอยู่ในสภาพดั้งเดิม ไม่ใช่ถือวิสาสะนำมาใช้ประโยชน์ส่วนตนแบบนี้ ซึ่งเพื่อนบ้านคนอื่นก็เห็นเช่นเดียวกับตน แต่ไม่กล้าออกมา บ้านของตนก็มีรถยนต์เช่นกัน แต่เอามาจอดหน้าบ้านของตัวเองไม่ได้ ต้องเอาไปจอดบ้านพี่สาว ก่อนหน้านี้ไปร้องเรียนที่เทศบาลเมืองบางคูรัด ซึ่งมีเจ้าของบ้านร้องเรียนมาเยอะมาก ตนเองเคยมีความคิดที่จะต่อเติมลานจอดรถหน้าบ้านเหมือนกัน พอไปคุยกับเขา เขาก็ไม่ยินยอม

ตนซื้อบ้านหลังนี้มาประมาณ 3 ปี ก็เจอกับสภาพนี้เเล้ว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเเก้ไขและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังจะได้มีมาตรฐาน สังคมมันต้องมีกฏไม่เช่นนั้นก็จะเละเทะแบบนี้ ปัจจุบันตนกับเพื่อนบ้านก็พูดคุยกันปกติ ไม่ได้โกรธแค้นหรือมีปัญหาส่วนตัวอะไรกันมาก่อน แต่อยากให้เคารพกฎซึ่งกันและกัน

ทางด้าน นายกอล์ฟ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกร้องเรียนเรื่องสร้างโรงรถล้ำมากลางถนน กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ปี 2538 และสร้างโรงรถเมื่อปี 2541 แต่โครงสร้างโรงรถไม่ได้สร้างแบบถาวร และบ้านตรงข้ามเป็นบ้านของคุณตาที่อายุเยอะแล้ว และเป็นเจ้าของบ้านคนเก่า ต่อมาคุณตาเสียชีวิต บ้านหลังตรงข้ามก็ร้างไม่มีคนอยู่ประมาณ 3-4 ปี จนมีเจ้าของใหม่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

นายกอล์ฟ กล่าวต่อว่า ตนได้รับแจ้งจากเทศบาลว่ามีคนร้องเรียน เรื่องกระถางต้นไม้และโรงจอดรถที่สร้างบนถนนหน้าบ้าน ซึ่งกระถางต้นไม้ตนเพิ่งสั่งซื้อมาวางเมื่อวาน ส่วนเรื่องโรงจอดรถตนรู้ว่ามันผิด และยินดีจะทำให้มันถูกต้อง แต่บ้านหลังตรงข้ามบ้านตนเขาก็ต่อเติมเหมือนกัน ก็ต้องรื้อออกให้หมดเช่นกัน นัดช่างมารื้อพร้อมกันเลยก็ได้ ตนก็เข้าใจว่าบนถนนเป็นที่สาธารณะเอาต้นไม้อะไรมาวางแบบนี้ มาสร้างโรงจอดรถมันผิด ตนได้บอกเจ้าหน้าที่เทศบาลไปแล้วว่าจะขยับต้นไม้ให้    

นายอมร  เที่ยงแท้​ อายุ​  52​ ปี ประธานหมู่บ้าน ได้เดินทางมาดูโรงรถที่มีปัญหา กล่าวว่า ​สำหรับปัญหาที่บุกรุกถนนสร้างเป็นที่จอดรถ ค่อนข้างแก้ไขลำบาก เพราะไม่มีกฎหมายมารองรับ เพราะบ้านทุกหลังในหมู่บ้านมีการรุกล้ำหมด เป็นมาตั้งแต่ประธานคนเก่า หลังจากเจ้าของหมู่บ้านสร้างเสร็จ ได้มอบเงินให้มาและมีหนังสือให้ไปจัดตั้งเป็นนิติบุคคล เพราะว่าหากมีการต่อเติมก็จะได้ดูแลกันได้ แต่ที่หมู่บ้านนี้ไม่ได้มีการจัดตั้งนิติบุคคล ไม่ได้ยกให้เทศบาลดูแล ตอนนี้หมู่บ้านก็เลยต้องช่วยดูแลกันเอง คือเก็บเงินรายเดือน เวลาถนน ไฟทางสาธารณะไม่สว่าง ก็ต้องซ่อมแซมกันเอง 

นายอมร กล่าวต่อว่า หมู่บ้านนี้ต่อเติมกันผิดหมดทุกหลังคา แต่หลังที่ทำโรงรถกลางถนน มันเกินไปเพราะมาสร้างต่อเติมโรงรถมาถึงครึ่งถนน ก็ต้องคุยกันถึงเรื่องกฎหมาย หรือให้เทศบาลเข้ามาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ตนทำอะำรไม่ได้เพราะมีหน้าที่ดูแลแค่ไฟทางจัดเก็บขยะ และเรื่องการทำความสะอาดเท่านั้น 

ต่อมานายกอล์ฟ ได้มีการพูดคุยกับ นายภูเมธ อายุ 40 ปี บ้านตรงข้ามที่ร้องเรียน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ หลังจากโต้เถียงกันเสร็จ นายกอล์ฟได้รื้อกระถางต้นไม้ออกทั้งหมด ส่วนโครงสร้างหลังคายังไม่สามารถรื้อออกได้เนื่องจากไม่มีเครื่องมือต้องใช้ช่างที่ชำนาญเป็นคนรื้อออก ซึ่งกลังจากนี้เทศบาลเมืองบางคูรัด จะส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบและไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook