"ประยุทธ์" ย้ำยังอยู่ในอำนาจ ไม่กลัวเช็คบิลย้อนหลัง ปัดตอบ "ฮุนเซน" ติงค่าแรงก้าวไกล

"ประยุทธ์" ย้ำยังอยู่ในอำนาจ ไม่กลัวเช็คบิลย้อนหลัง ปัดตอบ "ฮุนเซน" ติงค่าแรงก้าวไกล

"ประยุทธ์" ย้ำยังอยู่ในอำนาจ ไม่กลัวเช็คบิลย้อนหลัง ปัดตอบ "ฮุนเซน" ติงค่าแรงก้าวไกล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯ ย้ำยังอยู่ในอำนาจรัฐบาลรักษาการ ปัดตอบปม "ฮุน เซน" ติงนโยบายค่าแรงพรรคก้าวไกล บอกท่านก็มีสิทธิ์พูดเพราะคนละประเทศ เผย "อนุทิน" แจงแล้วดีลลับเลสเตอร์ ชี้ไม่มีอะไรทั้งนั้น มองไม่เห็นโอกาสหวนนั่งนายกฯ ลั่น ไม่กลัวเช็คบิลย้อนหลังหากเปลี่ยนขั้วรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้เป็นการประชุมตามปกติซึ่งมีหลายเรื่อง ก็อยู่ในอำนาจของรัฐบาลรักษาการ โดยสิ่งที่น่ายินดีเศรษฐกิจต่างๆในภูมิภาคของเราก็อยู่ในเกณฑ์ดี พร้อมยืนยันว่าสถานะทางการเงินและการคลังของไทยก็ยังแข็งแกร่ง โดยหลายประเทศก็ให้ความสนใจไทยในเรื่องของการลงทุนที่เป็นศูนย์กลางภูมิภาคอาเซียน นโยบายของเราคือต้องสร้างความสมดุลให้ได้และไม่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของใครทั้งสิ้น ไปพร้อมกับทำให้เกิดการค้าการลงทุนอย่างสร้างสรรค์

ส่วนความคืบหน้ากรณีการเตรียมเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์ กลับจากประเทศศรีลังกา นั้น นายกฯ ระบุว่า ช้างจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย 1 ก.ค. เพื่อมารักษาตัว ส่วนความคืบหน้ารถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว–สำโรง ขณะนี้เปิดได้ทุกสถานีโดยเริ่มทดลองวิ่งแล้ว ซึ่งตนก็จะไปร่วมพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้งานวันละหมื่นกว่าคน ซึ่งนี่ถือเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเรา โดยทุกอย่างก็มีความคืบหน้าทุกเรื่อง

เมื่อถามถึงกรณี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหยุดส่งกระแสไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเมย จาก อ.แม่ระมาด จ.ตาก ไปยังบ้านส่วยโก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา นายกฯ ระบุว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ได้มีความคืบหน้าเพิ่มเติม ซึ่งเป็นกิจการสัมปทานภายในของเมียนมา อย่าไปยุ่งเขาเลย เราก็ดูชายแดนของเราให้ดีแล้วกัน

เมื่อถามถึงกระแสข่าว ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา วิจารณ์นโยบายแรงของพรรคก้าวไกล นายกฯ ระบุว่า ก็เป็นเรื่องของท่าน ท่านก็มีสิทธิ์จะพูดอะไรก็ได้เพราะคนละประเทศกับเรา แต่วันนี้ในส่วนของเราก็ดูแลในเรื่องของแรงงานต่างๆ ซึ่งยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้แรงงานจากต่างประเทศ โดยไม่อยากเรียกว่าต่างด้าวแต่เรียกว่าประเทศเพื่อนบ้านก็แล้วกันให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งวันนี้เราก็ใช้แรงงานประเทศเพื่อนบ้าน แต่ในส่วนของเราก็มีการพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อส่งไปทำงานในต่างประเทศและให้ได้ค่าแรงมากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ

เมื่อถามต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารสุข ได้รายงานถึงกระแสข่าวปัญหาขาดแคลนแพทย์หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนทราบเรื่องแล้วและได้ติดต่อสอบถามไปยังกระทรวงแล้ว ซึ่งมันมีปัญหาในเรื่องงบประมาณที่จำกัดในการบรรจุข้าราชการ แต่รัฐบาลก็ให้งบประมาณในการบรรจุข้าราชการหลายระดับไปแล้วกว่า 4 หมื่นคน แต่ก็ยังไม่พอ ซึ่งก็ต้องติดตามดูเพราะกระทรวงสาธารณสุขได้รับเรื่องไปแล้ว

ส่วนกรณีที่นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานเครือข่ายญาติวีรชนพฤษภา35 และเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ยื่นคำร้องต่อประธานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ออกพ.ร.ก.เลื่อนบังคับใช้กม.อุ้มหายโดยมิชอบ ว่า ตนได้ปรึกษานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้วและไม่มีปัญหาอะไร มันมีเหตุผลและความจำเป็นต่างๆ

ส่วนในวันนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกหลังการเลือกตั้ง ได้รายงานที่เดินทางไปยังประเทศอังกฤษ แล้วเกิดกระแสเรื่องดีลรับหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีอะไร ท่านบอกว่าไปดูฟุตบอลเฉยๆ พอดีมีเวลาว่างจากการไปประชุมองค์การอนามัยโลก หรือWHOก็ไปดู

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่มีดีลลับใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีหรอก ไม่มีดีลลับอะไร เขาไม่ลับหรอก คนขนาดนั้นในสนามฟุตบอลไม่ลับหรอก คนเป็นหมื่นไม่รู้จะไปดีลอะไรกันตรงไหนนั่งตรงไหนยังไม่รู้เลย

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การตัดต่อภาพอะไรต่างๆเยอะแยะ แล้วไปสร้างประเด็นขึ้นมา เช่น ของผมเอาไปดัดแปลงอะไรบ้างก็ไม่รู้ดูแล้วทุเรศเกินไป วันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลมากมายเหลือเกินเพราะฉะนั้นอย่าเชื่อทุกเรื่องก็แล้วกัน

เมื่อถามต่อว่าขณะนี้มีการพูดถึงแนวทางรัฐบาลข้ามขั้ว ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ตอบส่วนในทันทีไม่รอฟังคำถามให้จบ ว่า ไม่ทราบ ผมไม่ทราบ ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ขณะเดียวกันใครจะเป็นรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องของผม เป็นเรื่องกลไกของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายที่มีอยู่ ผมไม่เกี่ยว ผมก็เป็นรัฐบาลรักษาการ ดูแลประชาชนพี่น้องของเรา ขับเคลื่อนงานต่างๆที่ทำได้ เพราะเรายังมีความเดือดร้อนอยู่หลายมิติด้วยกัน ดูแลประชาชนไปก่อน ดังนั้นการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของกระบวนการ ต้องเป็นไปตามกระบวนการ

และเมื่อถามต่ออีกว่าในใจยังหวังจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มี ไม่มีใจ นอกใจ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ก่อนจะถามกลับสื่อมวลชนว่า จะเอาคำตอบให้ได้เลยหรือ ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่าจะได้รู้ว่านายกรัฐมนตรี จะไปต่อหรือไม่ ซึ่งพล.อ ประยุทธ์ ก็ตอบกลับด้วยเสียงสูงว่า แล้วมันไปได้หรือ สื่อมวลชน จึงถามต่อว่าแล้วหากมีโอกาส

พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบกลับว่าผมยังไม่เห็นโอกาสเลย ถ้าเห็นเห็นอะไรล่ะ มันจะไปได้อย่างไร

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่าหากพรรคในลำดับที่ 1 และ 2 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้?พรรคเล็กอาจจะรวบรวมเสียงเพราะพล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็สามารถเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ นั้นพล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับหันหน้าไปหานายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะหัวเราะ และยักคิ้ว ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า เฮ้ยอย่าคิดไปถึงขนาดนั้นเลยหนะ เออเธอคิดไปเธอมาเป็นรัฐบาลก็แล้วกัน มาคิดแทนฉันหน่อย

เมื่อถามว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยจะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันเป็นไปได้หรือ และเมื่อถามต่ออีกว่า ยังไว้ใจพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ถ้าจะนำจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เดินออกจากโพเดียม และกล่าวว่าไม่ทราบ และเมื่อถามไล่หลังไปอีกว่า กลัวจะถูกเช็คบินย้อนหลังหรือไม่ หากมีการเปลี่ยนแปลงของขั้วรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่กลัวก่อนสิจะเดินเข้าตึกไทยคู่ฟ้าในทันที

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook