บ่าวสาวไม่ออกจากห้องหอ ตร.เปิดไปช็อกกลายเป็นศพคู่ ชี้ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย ไม่ใช่ฆาตกรรม

บ่าวสาวไม่ออกจากห้องหอ ตร.เปิดไปช็อกกลายเป็นศพคู่ ชี้ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย ไม่ใช่ฆาตกรรม

บ่าวสาวไม่ออกจากห้องหอ ตร.เปิดไปช็อกกลายเป็นศพคู่ ชี้ไม่ใช่ฆ่าตัวตาย ไม่ใช่ฆาตกรรม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คดีตายแปลก เจ้าบ่าว-เจ้าสาวเข้าไปในห้องหอหลังงานแต่ง จนบ่ายอีกวันญาติก็ยังไม่เห็นออกมา สุดท้ายต้องแจ้งตำรวจมาพังประตู ช็อกกันหมดกลายเป็นศพทั้งคู่

Times of India รายงานคดีที่ยังเป็นปริศนา กรณีพบว่าร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายวัย 24 ปี และหญิงวัย 22 ปี ที่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์กันไปหมาดๆ คู่แต่งงานใหม่เข้าห้องหอด้วยกัน ก่อนถูกพบเป็นศพในวันรุ่งขึ้น

ตามรายงานพบว่า พวกเขาจัดพิธีแต่งงานตามประเพณี 2 วัน โดยขบวนแห่เจ้าสาวจะจัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาวในวันที่ 30 พฤษภาคม จากนั้นพิธีแต่งงานจะจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าบ่าวในวันที่ 31 พฤษภาคม หลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งงานในเย็นวันที่ 31 พฤษภาคม เจ้าบ่าวและเจ้าสาวพาเข้าไปในห้องหอเพื่อพักผ่อน ในขณะที่ญาติคนอื่นๆ นอนในห้องถัดไป

อย่างไรก็ตามจนกระทั่งบ่ายของวันที่ 1 มิถุนายน ครอบครัวก็ยังไม่เห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวออกมา พวกเขาเริ่มวิตกกังวลจึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจให้พังประตู เพราะประตูถูกล็อกจากด้านใน เมื่อประตูเปิดออกทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวนอนไร้ลมหายใจอยู่บนพื้น

ผู้กำกับการตำรวจ กล่าวโดยอ้างผลการตรวจเบื้องต้นของผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ ที่ตรวจสอบภายในห้องเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุเบื้องหลังการตายที่แปลกประหลาด และผลชันสูตรศพของทั้งคู่ ที่ออกมาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พบว่าพวกเขาเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายพร้อมกัน น่าแปลกตรงที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีประวัติเป็นโรคหัวใจ และทั้งคู่ทานอาหารแบบเดียวกับคนอื่นๆ ในระหว่างพิธีแต่งงาน

“ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ ตรวจสอบห้องพักของคู่บ่าวสาว และเปิดเผยว่าห้องนั้นไม่มีการระบายอากาศ ไม่มีพัดลมเพดาน และมีการไหลเวียนของอากาศไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ของอาการหัวใจหยุดเต้นเนื่องจากหายใจไม่ออก”

ผู้กำกับการตำรวจยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ห้องที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยของการถูกบุกรุก และผู้เสียชีวิตไม่มีร่องรอยบาดเจ็บบนร่างกายที่ชี้ให้เห็นถึงมุมอาชญากร ดังนั้นความเป็นไปได้ของการฆาตกรรมจึงหมดไป

หลังจากการชันสูตรพลิกศพแล้ว ศพของทั้งคู่ถูกส่งกลับไปยังครอบครัวเพื่อทำการพิธีตามหลักศาสนา ทั้งคู่ถูกเผาบนเมรุเดียวกันในหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม อวัยวะภายในของผู้เสียชีวิตยังถูกเก็บไว้ที่ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในเมืองลัคเนา เมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศ เพื่อไขปริศนาเบื้องหลังการเสียชีวิตของทั้งคู่ต่อไป โดยครอบครัวทั้งคู่ไม่คัดค้านเรื่องนี้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook