เสธ.แดงโผล่มอบตัวกองปราบ

ปฏิเสธทุกข้อหา นปช.บุกกลาโหม

เสธ.แดงบุกกองปราบฯรับทราบข้อหาพัลลภตามมาให้กำลังใจ ปฏิเสธทุกข้อหาขอให้การชั้นศาลได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวตามกฎหมายใหม่ อ้างสื่อมวลชนเสี้ยมจนทำให้ถูกสั่งพักราชการ ด้าน พัลลภ จวกยับ อนุพงษ์ ปฏิบัติสองมาตรฐาน ชี้การลงโทษนายพลถือว่าเป็น เรื่องใหญ่ ชวน ห่วง ผู้พิพากษา-ป.ป.ช.- คตส. จี้ จนท.ให้ช่วยดูแล ด้าน สุเทพ ขานรับสั่งจัดกำลังคุ้มครองความปลอดภัยให้บ้านพักผู้พิพากษาศาล-คตส.-ป.ป.ช. ระบุแม้เจ้าตัวไม่ได้ร้องขอ แต่ต้องทำตามหน้าที่ เพื่อความไม่ประมาท ขณะที่เสื้อแดงเปลี่ยนแผนไม่บุก ทอ. ย้ายไปกลาโหมแทนอ้างแสดงพลังไม่ให้ทหารปฏิวัติ

*เสื้อแดง 400 คนให้กำลังใจ

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ก.พ. นาย อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน แกนนำ นปช. พร้อม ด้วยกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 400 คน เดินทางมาให้กำลัง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งถูกสั่งพักราชการ และถูกพนักงานสอบสวนบก.ป. ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา มีและครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียน ไม่สามารถออกให้ได้ และมีไว้ครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดยแกนนำสลับกันขึ้นปราศรัยเพื่อให้กำลังใจ เสธ.แดง และโจมตีการทำงานของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

*เสธ.แดง มาพร้อม พล.อ.พัลลภ

ต่อมา 11.00 น. พล.ต.ขัตติยะ พร้อม ด้วย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รองผอ.กอ. รมน. พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นคร ราชสีมา พรรคเพื่อไทย ประธาน กมธ.การทหารฯ ทนายความ และชุด รปภ.ของ เสธ. แดง ที่แต่งชุดดำประมาณ 20 คน เดินทางมาถึงท่ามกลางเสียงตะโกน เสธ.แดงสู้ ๆ อย่างต่อเนื่อง

พล.อ.พัลลภ ได้กล่าวปราศัยทักทายกับบรรดากลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณหน้าอาคารผู้บังคับบัญชา บก.ป.ว่า อยากฝากไปยังทหารที่ตบเท้ามาต่อต้าน เสธ.แดง และเข้าให้กำลังใจ ผบ.ทบ.การทำแบบนั้นเป็นการธำรง เกียรติ หรือทำลายเกียรติ เมื่อทาง เสธ.แดง ถูกดำเนินการทางวินัยฐานดูถูกผู้บังคับบัญชา ก็เป็นไปตามระเบียบของกองทัพคือ ผบ.ทบ. ถูกสั่งพักราชการแล้วจะเอาอะไรกันอีก การลงโทษพักราชการสำหรับนายทหารชั้นนายพลนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ ตามธรรมเนียมของผู้บังคับบัญชาความผิดครั้งเดียวก็ต้องมีการลงโทษครั้งเดียว การที่ทหารตบเท้าออกมาประท้วง เสธ.แดง แสดงว่าไม่ให้ความเคารพ ผบ.ทบ.ที่ลงโทษ เสธ.แดงไม่ได้กระทบราช การ แถมบางหน่วยยังประกาศห้าม เสธ.แดง เข้าเขตทหารของตนนั้น อยากถามว่าท่านเอาสมองส่วนไหนคิด ถ้าไม่เข้าเขตทหารที่ท่าน รับผิดชอบผมรับได้ แต่ในจังหวัดนั้น ๆ เสธ. แดง มีสิทธิไปไหนก็ได้ การประกาศเช่นนี้ถือว่าทำตัวเหนือกฎหมาย

*เสธ.แดง โบ้ยนักข่าวเสี้ยม

ทางด้าน พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า เมื่อ มีการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีทหารพราน 20-30 คนออกมาชุมนุม พี่พัลลภ จึงเรียกตนมาพบ เพราะไม่อยากให้ทหารพรานกลุ่มนี้ปะทะกับทหารหลัก ซึ่งมีอาวุธหนักเพื่อป้องกันการเจ็บตาย พล.อ.พัลลภ มาบอกให้ตนช่วยห้ามปราม แต่ปรากฏว่าสื่อมวลชนหลายฉบับได้เสี้ยมทำให้ ผบ.ทบ. เข้าใจผิด ออกมาสั่งพักราชการตน ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่ถูก พล.อ. พัลลภ เรียกไปพบ แต่แล้วเรื่องก็มาคุกรุ่นขึ้นเมื่อวันที่ 14 ม.ค. หลังจากมีเหตุระเบิดยิงใส่กองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ได้ตั้งกองทัพขึ้นมา และจากนั้นเมื่อวันที่ 19 ม.ค. เรื่องถึงแดงขึ้น เมื่อมีการทหารมาฉาบปูนแล้วสื่อพบ

*แจ้งกลับ ผบ.ทบ.-รมว.กห.

เสธ.แดง กล่าวต่อว่า กระทั่งในวันที่ 21 ม.ค.ได้มีการสั่งให้ทหารและตำรวจบุกค้นบ้านพักตนใน ม.พัน 4 และ ม.พัน 3 เป็นครั้งแรกที่มีการกระทำเช่นนี้ ผบ.ทบ.ทำสิ่งที่เป็นครั้งแรกจริง ๆ ในประวัติศาสตร์ มีการตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้น ขณะเดียวกันกับทางกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อถูกยิงใส่กลับมีกำลังทหารไปคุ้มกัน ตนมามอบตัวเพราะถือว่าการกระทำครั้งนี้เป็นการกระทำอันมิชอบและ เชื่อว่าต้องชนะอย่างแน่นอน เพราะการดำเนิน การของทหาร ตำรวจ ไม่ชอบธรรม และในวันนี้ตนจะแจ้งความดำเนินคดีกับ ผบ.ทบ. รมว.กลาโหม และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ในข้อหากบฏต่อราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 โดยมี นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นหัวหน้าของพวกตน

*สุเทพส่งจนท.ดูแลท่านเปา

ที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 07.30 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความปลอดภัยให้กับกรรมการ คตส. ป.ป.ช. และองค์คณะผู้พิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังจากที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ออกมาเปิดข้อมูลอาจถูกลอบ ฆ่าว่าความจริงท่านเหล่านั้นเป็นคนที่เข้มแข็ง และสบายใจอยู่แล้ว และท่านก็ไม่ได้มาขอความคุ้มครองอะไรจากเรา แต่พวกตนก็มีหน้าที่ที่จะต้องดูแลไปตามหน้าที่ เพราะเป็นหน้าที่ที่จะต้องดูแลคนดี และคนที่ทำหน้าที่ให้ชาติบ้านเมือง เราจึงต้องไปดูแลรักษาความ ปลอดภัยให้ โดยตนได้สั่ง ผบช.น.ว่าต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตระเวน ตรวจสอบดูแลความปลอดภัยในบริเวณที่เป็นบ้านพักของ คตส. ป.ป.ช. และคณะผู้พิพากษา และให้สายตรวจได้แวะเวียนไปสังเกตคนเข้า-ออก ซึ่งตำรวจมีวิธีการและแผนที่ชัดเจน แต่ไม่ได้ทำถึงขนาดว่าท่านไปไหนจะต้องมีตำรวจคุ้มกัน เพราะท่านเหล่านั้นไม่ต้องการ

*ชวน จี้ดูแลศาล,ป.ป.ช.,คตส.

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกเป็นห่วงกระแสข่าวที่ระบุจะมีการลอบทำร้ายองค์คณะผู้พิพากษา คดียึดทรัพย์อดีตนายกรัฐมนตรี กรรมการป.ป.ช. และอดีตคตส. แต่คิดว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรต้องติดตามดูแลโดยใกล้ชิด เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน ทั้งนี้น่าเห็นใจองค์กรเหล่านี้ และตนเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ฉะนั้นตอนนี้ถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมืองที่จะต้องให้ความปลอดภัยกับบุคคลเหล่านี้

*ส.ว.ดาหน้าจี้จัดการ เสธ.แดง

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.30 น. มีการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหาได้หารือถึงกรณีที่นายทหารระดับผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาพูดลักษณะมีคนบงการให้ลอบฆ่าผู้พิพากษา โดยพูดย้ำถึง 2 ครั้ง 2 หน ซึ่งตนเห็นว่าก่อนถูกสั่งพักราชการ 30 วัน ก็ออกมาข่มขู่ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาแล้ว จึงอยากทราบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลจะมีมาตร การดำเนินการกับบุคคลผู้นี้อย่างไร นอกเหนือจากการสั่งพักราชการแล้วจะมีมาตรการ อะไรที่จะดำเนินการมากกว่านี้ที่รัฐบาลพึง ต้องทำ และเมื่อรู้ข่าวแล้วทำไมไม่แจ้งทางการถึงข้อมูลการลอบฆ่าบุคคลสำคัญเหล่านี้

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. สรรหา กล่าวว่า แม้เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม จะออกมาบอกว่าทางหน่วยการข่าวยังไม่ได้ข่าวก็ตาม แต่วันนี้คนที่ให้ข่าวดังกล่าวจะเดินทางเข้าพบเจ้าพนักงานกองปราบ ปราม ตนเห็นว่าทางตำรวจสามารถดำเนินการได้ทันที ต้องสอบสวนข้อมูลว่าทราบข่าว มาจากไหน หากพบว่ามีความผิดก็สามารถดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา

*ทหารค่ายจักรพงษ์ปฏิญาณ

ส่วนที่ จ.ปราจีนบุรี พล.ต.สุรพันธ์ พวงเพ็ชร์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ พร้อมกำลังพล 600 นาย กล่าวคำปฏิญาณตน ถึงภาระหน้าที่ของทหาร ที่ต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และต้องเชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาตามประมวลกฎหมายอาญาของทหาร มาตรา 41 ผู้ใดเป็น ทหาร และมันบังอาจแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อผู้บังคับบัญชา ต่อทหารที่เป็นผู้ใหญ่เหนือมัน หรือมันหมิ่นประมาทใส่ความ หรือ โฆษณาความหมิ่นประมาทใด ๆ ก็ดี ท่านว่า มันมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี

*เชื่อมีผู้แอบอ้างนักรบชุดดำ

ที่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พ่อขุนเจืองธรรมิกราช หน้ากองบังคับการจังหวัดทหารบกพะเยา พล.ต.ประตินันท์ สายหัสดี ผบ.จทบ.พะเยา พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชา 500 นาย จาก กรม ร.17, ป.พัน17, ร.17 พัน 4 และ ทพ.31 ร่วมแสดงพลัง โดย พล.ต. ประตินันท์ กล่าวว่า ตามที่มีคนอ้างตัวเป็นนักรบชุดดำ กำลังทำลายสถาบันทหารและเกียรติศักดิ์ของนักรบชุดดำ โดยความเชื่อของตนซึ่งทำงานเคียงคู่มากับนักรบชุดดำตั้งแต่ติดยศร้อยตรี จนถึงปัจจุบัน ทราบดีว่าคนที่แต่งเครื่องแบบนักรบชุดดำ และใช้เครื่องแบบไปรับใช้ผู้หวังผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น ตนขอให้กำลังใจ ที่กำลังพลมาร่วมแสดงพลังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี

ส่วนที่ จ.ลพบุรี พล.ต.ศุภรัตน์ พัฒนา วิสุทธิ์ รองผบ.นสศ. นำกำลังหน่วยบัญชา การสงครามพิเศษกว่า 2,100 นาย แสดงพลังพร้อมกล่าวว่า มาย้ำในสิ่งที่นักรบพิเศษ ต้องร่วมกันปฏิบัติตามนโยบายของ ผบ.ทบ. จะไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดมากระทำการลบหลู่ดูหมิ่นจาบจ้วงให้ร้ายต่อผู้บังคับบัญชา ซึ่งไร้ความเคารพต่อผู้บังคับบัญชา

*จี้อธิบดีที่ดินตรวจถอนโฉนด

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดินที่เขาสอยดาว จ.จันทบุรี ที่ล่าสุดทางกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะไปชุมนุมที่กรมที่ดินว่า การปฏิบัติราชการคงไม่ต้องรอกลุ่มคนเสื้อแดงไปเรียกร้องให้ตรวจสอบ ซึ่งตนได้สั่งการให้อธิบดีกรมที่ดินดำเนินการตรวจสอบ การออกโฉนดที่ดินว่าถูกต้องโดยชอบหรือไม่แล้ว โดยเฉพาะที่เขาสอยดาวตนได้สั่งการนับตั้งแต่มีการตั้งข้อสังเกตขณะนี้ได้เร่งรัดว่า ให้รีบรายงานมาให้ทราบ เมื่อถามว่ากรณีเขาสอยดาวจะกลายเป็นชนวนที่เป็นข้อกล่าวหาเรื่อง 2 มาตรฐานหรือไม่ นายถาวร กล่าวยืนยันว่า ไม่มีเรื่อง 2 มาตรฐานแน่นอน ถ้าออกโดยชอบก็คือชอบ แต่ถ้าออกโดยไม่ชอบก็ต้องถูกเพิกถอน จะเป็น 2 มาตรฐานหรือไม่อยู่ที่กรมที่ดิน แต่ยืนยันว่าไม่มีแน่นอนและได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.พ. อย่างไรก็ตามตนได้สั่งเป็นหลักการให้อธิบดีกรมที่ดินดูแลทุก ๆ พื้นที่ ถ้าพื้นที่ใดส่อออกโฉนดโดยมิชอบไม่ว่าจะเป็นของนักการเมือง อดีตนักการเมือง หรือเป็นของพ่อค้าหรือของใครก็ตาม ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นการออกโดยไม่ชอบ ก็จะต้องเพิกถอนให้หมด

*เสื้อแดง ชม.บุกจี้ปลดสมคิด

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 09.30 น. นางกัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมด้วย นายภูมิใจ ไชยา หรือดีเจต้อม พร้อมกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง เดินทางมายัง สตช. เข้ายื่น หนังสือต่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท. ผบ.ตร. เพื่อเรียกร้องให้สั่งพักราชการ พล.ต.ท. สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 โดย นางกัญญาภัค กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.ท.สมคิด ได้ถูกศาลสั่งฟ้องข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และตรึกตรองไว้ก่อน แต่ขณะนี้ พล.ต.ท.สมคิดยังไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ราชการ จึงขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.ปทีป ดำเนินการสอบ และมีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สมคิด หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที และให้ยกเลิกคำสั่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ รวมทั้งให้พิจารณาแต่งตั้ง ผบช.ภ.5 คนใหม่ ถ้าพบว่า พล.ต.ท.สมคิด ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ กลุ่มเสื้อแดง จะออกมาทำการเคลื่อนไหวอีก พร้อมทั้งจะล้อมบ้าน หรือเข้ายึดบ้าน พล.ต.ท. สมคิด หาก พล.ต.อ.ปทีป ไม่ปฏิบัติตาม ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมกับพวก 10 คนเดินทางมาที่พรรคเพื่อ ไทย เพื่อยื่นหนังสือถึง นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ ในฐานะประธาน กมธ. กฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ให้ตรวจสอบ พล.ต.ท.สมคิด ที่ต้องคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯ ตามมาตรา 95 ของ พ.ร.บ. ตำรวจ ระบุว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่พบว่าขณะนี้ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่

*องค์คณะฯ ทำงานตามปกติ

นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนัก งานศาลยุติธรรม กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยองค์คณะผู้พิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ผู้พิพากษาองค์คณะทั้ง 9 คน ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีผู้พิพากษาท่านใดที่แสดงความจำนงขอประสานกำลังเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าดูแลรักษาความ ปลอดภัยที่บ้านพัก หรือการติดตามเส้นทางที่จะเดินทางมาทำงาน เมื่อถามผู้พิพากษาองค์ คณะทั้งเก้า แสดงความหวั่นวิตกหรือไม่ นาย วิรัช กล่าวว่า ไม่มี สภาพจิตใจผู้พิพากษาทั้ง 9 คนยังดีอยู่ รวมทั้งไม่ต้องจัดเซฟเฮาส์ให้ผู้พิพากษาองค์ เพราะยังไม่ถึงขั้นนั้น

*เสื้อแดงเปลี่ยนแผนชุมนุม

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสย เกื้อ โฆษกกลุ่ม นปช. เปิดเผยว่า ในวันที่ 2 ก.พ.นี้ กลุ่มคนเสื้อแดงได้เปลี่ยนนัดหมายชุมนุมที่หน้ากองทัพอากาศ มาเป็นการชุมนุมที่หน้ากระทรวงกลาโหมแทน เพื่อแสดงพลังต่อต้านการรัฐประหาร และจะยื่นเอกสารหลักฐานที่แสดงว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร และยื่นเอกสารเท็จเพื่อเข้ารับราชการสอนหนังสือโรงเรียนนายร้อย จปร.ให้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เรื่องนี้กระทรวงกลา โหมและนายอภิสิทธิ์ ต้องชี้แจงหากยังเพิกเฉยก็จะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไปสำหรับการชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 12.00-17.00 น.

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จากนั้นในวันที่ 4 ก.พ. คนเสื้อแดงในทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะรวมตัวและเดินทางไปยังหน่วยทหารทุก หน่วยทั่วประเทศอย่างพร้อมเพรียงกันในเวลา 10.00 น. เพื่ออ่านแถลงการณ์ต้านรัฐประหาร และสร้างความเข้าใจระหว่างคนเสื้อแดงและ ทหารกล้าผู้เป็นกำลังส่วนใหญ่ของกองทัพว่า คนเสื้อแดงเป็นมิตรกับท่าน แต่เราต่อต้านทหารส่วนน้อยที่เป็นทาสรับใช้อำมาตย์ ซึ่งการเดินทางไปแสดงพลังครั้งนี้จะยึดหลักสันติและไม่ชุมนุมยืดเยื้อ สำหรับแถลงการณ์ ดังกล่าวจะเป็นฉบับเดียวจากส่วนกลางซึ่งใน วันเดียวกันกิจกรรมของคนเสื้อแดงในส่วนกลางจะไม่เดินทางไปชุมนุมที่ใดแต่จะจัดให้มีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์พีเพิลชาแนลเพื่ออ่านแถลงการณ์พร้อมกัน

*แสดงพลังไม่ให้ทหารปฏิวัติ

หลายวันที่ผ่านมาทหารตบเท้าออกมากันมากแล้ว วันที่ 4 ก.พ. ก็จะเป็นวันของคนเสื้อแดงที่จะออกมาแสดงพลังกันบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องการวัดกำลัง เพียงแต่อยากแสดงพลังให้รู้ว่า เมื่อไหร่ที่มีการรัฐประหารจะมีประชาชนพร้อมออกมาต่อต้าน แม้ฝ่ายรัฐและทหารจะออกมาปฏิเสธ ว่า ไม่คิดทำการยึดอำนาจ แต่เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 49 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ก็ปฏิเสธเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็เกิดการยึดอำนาจ เราเชื่อว่ามีคนบาง กลุ่มเตรียมการยึดอำนาจจริง แต่คงรอจังหวะ เวลาและโอกาสเท่านั้น นายณัฐวุฒิ กล่าว

นัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เปิดเผยว่ามีขบวนการจะลอบทำร้ายลอบสังหารบุคคลสำคัญ ก่อนตัดสินคดียึดทรัพย์นั้น ตนขอยืนยันว่าคนเสื้อแดงยึดหลักสันติ และไม่ต้องการทำร้ายใคร แม้ว่าบุคคลนั้นจะเป็นฝ่ายตรงข้าม แต่เรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ถือว่าเราอยู่ข้างเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องเข้ามาตรวจสอบการที่ พล.ต.ขัตติยะ ออกมาเปิดเผยตนไม่ทราบ ว่าเป็นข้อมูลจากส่วนใดหรืออาจไปได้ยินใครคุยกันมา แต่ยืนยันว่าเราไม่เห็นประโยชน์ใดที่จะไปดำเนินการเช่นนั้น

*สนนท.แถลงต้านทหารปฏิวัติ

ที่หน้ากองบัญชาการทหารบก สห พันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) นำโดย นายอนุธีร์ เดชเทวพร เลขาธิการ สนนท. พร้อมพวก 20 คน เดินทางมายื่นแถลงการณ์ถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่ด้านหน้าที่ประชุม บก.ทบ.โดยมี นายทหารเวรผู้ใหญ่ เป็นผู้แทนรับหนังสือ ทั้งนี้ในใบแถลงการณ์มีใจความแสดงความเป็นห่วงที่จะนำไปสู่การรัฐประหารยึดอำนาจ และหากมีการรัฐประหารเกิดขึ้นจริง สงครามประชาชนหรือการต่อต้านในระดับทั่วประเทศ จะเกิดขึ้นแน่นอน

*นพดล ตัดหางเสธ.แดง

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เลขาธิการสำนักงานศาลยุติ ธรรมระบุว่า กระแสข่าวขบวนการลอบฆ่าองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ ที่ยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางคดี ว่า ยืนยันได้ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงและไม่เห็นด้วยกับการข่มขู่ศาล ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ย้ำกับคนรอบข้างว่าการต่อสู้จะต้องทำอย่างสันติวิธีและอหิงสา เรื่องนี้ตนจึงไม่ทราบว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวออกมา เมื่อถามว่า พล.ต. ขัตติยะ เป็นผู้ออกมาเปิดเผยเป็นคนแรก นายนพดล กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าจะมีขบวนการลอบ สังหารในบ้านเมือง ที่มีระบอบประชาธิปไตยเช่นนี้ สำหรับ พล.ต.ขัตติยะ ที่ออกมาพูดเรื่องนี้ ตนขอยืนยันว่าคำพูดของ พล.ต.ขัตติยะ ไม่ใช่คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ

*ปชป.ปูด 3 แผนแนวร่วม

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คณะทำงานปฏิบัติการ เพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง (วอร์รูม) พรรคฯ ได้ประเมินการเคลื่อนไหวสถานการณ์ ทางการเมืองว่า ขณะนี้มี 3 แนวทางที่กำลังขับเคลื่อน และมี 3 องค์กรที่ต้องรับผิดชอบ 1.กลุ่ม นปช. หลังจากที่มีการอบรม ได้มีการ วางแผนเป้าหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. โดยพุ่งเป้าไปที่การปลุกระดมด้วยข้อมูลเท็จ สร้าง ข่าวลือเรื่องการปฏิวัติ มอบหมายให้กลุ่ม นปช. ปิดล้อมและกดดันหน่วยทหารหลายแห่งทั่วประเทศไทย เพื่อนำไปสู่ความเข้าใจผิด และ หวังผลในปฏิบัติการตอบโต้ 2.พรรคเพื่อไทยจะเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มที่ 1 โดยในวันที่ 4 ก.พ. จะไปที่ กกต.เพื่อเคลื่อนไหวกดดันกกต.สร้างฐานความเชื่อที่ผิดว่า กกต.เป็นเครื่องมือสำคัญในการที่จะปฏิบัติ 2 มาตร ฐาน 3. อดีตแนวร่วมพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่มีการสัมมนาภายใต้เครือข่ายแดงสยามในประเทศไทยและเว็บไซต์ไทยแลนด์ ที่เป็นเครือข่ายร่วมกันระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์โลกหลายแห่ง สร้างความเปลี่ยน แปลงด้วยการปฏิวัติโดยใช้กำลัง ขณะนี้ได้มีการประสานแนวร่วมในลักษณะการเตรียมก่อการ ซึ่งในการสัมมนาในประเทศไทยก็ได้พูดถึงการเตรียมแนวรบ การเตรียมผ้าขี้ริ้วกับน้ำมัน การเตรียมอาวุธ เพื่อสร้างเงื่อนไขความเปลี่ยนแปลงในลักษณะเร่งเร้ากระตุ้น สร้างสถานการณ์เพื่อนำไปสู่การเผชิญหน้า

*ตำรวจไม่เชื่อคำพูด เสธ.แดง

พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม นปช. และกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กำชับตำรวจนครบาลภายหลัง พล.ต.ขัตติยะ ออกมาเป ิดแผนลอบฆ่า 3 องค์กรอิสระว่า เป็นสิทธิของเขาที่จะพูดอะไรก็ได้ ตำรวจเราก็มีหน้าที่ทำตามกฎหมายดูแลความปลอดภัยพี่น้องประชาชน ส่วนการชุมนุมนั้นก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้เช่นกันแต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ใครจะจัดชุมนุมอย่างไรก็ได้แต่อย่าทำผิดกฎหมายบ้านเมือง หากพบทำผิดตำรวจจะจับกุมดำเนินคดีทันที

ส่วน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้พิพากษา ท่านใดแสดงความจำนงขอกำลังตำรวจนคร บาลไปอารักขาเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยบ้านพักแต่อย่างใด แต่เพื่อความไม่ประมาท ตำรวจได้ส่งกำลังลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยตามบ้านพัก ที่ทำงาน ตำรวจไม่ได้เชื่อถือใน คำพูดของ เสธ.แดง แต่ดำเนินการทุกอย่างไปตามความเหมาะสม และไปตามแผนการที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี หลังประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ว่าอาจมีการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้น

*ประยุทธ์ ดูแลกองทัพแทน

ต่อมาเวลา 16.00 น. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้กล่าวถึงการที่ทหารหลายหน่วยได้มีการแสดงออกไม่เห็นด้วยกับกำลังพลบางคนที่ไม่มีวินัยนั้น เป็นการแสดงออกที่สามารถดำเนินการได้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวและไม่ได้เป็นการเช็กกำลัง เพื่อทำการปฏิวัติ ยืนยันว่า ไม่มีการปฏิวัติ กองทัพไม่มีสีไม่มีฝ่ายยึดประโยชน์ประเทศเป็นหลัก เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า อาจมีการปฏิวัติในช่วงที่ พล.อ.อนุพงษ์ เดินทางไปสหรัฐ นั้น ท่านได้มอบหมายให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.ให้ไปดูแล และบริหารราชการในช่วงที่ท่านไม่อยู่ รับรอง ได้ว่าจะไม่มีการปฏิวัติ.