เสียงชื่นชมจาก WFP ...น้ำใจคนไทยอันดับ 1 ของโลก

หลังจากที่ประเทศไทยได้ทำการส่งมอบข้าวสารหอมมะลิจำนวน 100 ตัน โดยเครื่องบินขนส่งแบบโบอิ้ง เที่ยวบิน 3 S 888 สู่เฮติ ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและการบินไทย ตามหลักมนุษยธรรมและช่วยสร้างภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะครัวของโลกและประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ นอกเหนือจากความปีติที่ได้แสดงน้ำใจที่ชาวไทยต่างมีกันอย่างเปี่ยมล้นแก่ชาวเฮติแล้ว สิ่งที่ยิ่งตอกย้ำว่าการแสดงน้ำใจส่งแต่ผลดีก็คือเสียงตอบรับจากโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ หรือ WFP ประจำภูมิภาคเอเชีย ที่ได้มีหนังสือแสดงความชื่นชมและขอบคุณชาวไทย เนื้อหาแสดงความขอบคุณ แม้ในตอนต้น รัฐบาลไทยจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามอบเงินบริจาคอย่างเป็นทางการแก่ประเทศเฮติ ในจำนวนเงินที่น้อยเกินไป ซึ่งเบื้องต้นมอบเงินบริจาค 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ และบริจาคเงินเพิ่มอีก 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับข้าวสารจำนวน 20,000 ตัน อย่างไรก็ตามความพยายามของประเทศไทยไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน ต่างพยายามระดมความช่วยเหลือ โดยเฉพาะเงินบริจาคอย่างแข็งขันจนกระทั่งมียอดเงินบริจาคหลั่งไหลเข้ามาจากภาคประชาชนของไทยถึง 170 ล้านบาท ทำให้นายเคนโร โอชิดาริ ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ หรือ WFP ภูมิภาคเอเชีย ได้แสดงความชื่นชมต่อปรากฏการณ์การแสดงน้ำใจของชาวไทยเป็นอย่างมาก โดยมีหนังสือแสดงควาื่นชมและขอบคุณชาวไทยที่ระดมเงินเพื่อช่วยเหลือแก่ชาวเฮติที่ประสบภัยจากแผ่นดินไหวได้อย่างรวดเร็ว และมีจำนวนมากที่สุดในส่วนของภาคเอกชนจากทั่วโลก ด้วยจำนวนเงินมากกว่า 170 ล้านบาท นอกเหนือจากการช่วยเหลือจากรัฐบาลไทย ทั้งนี้นายเคนโร กล่าวว่า "จากประสบการณ์การทำงานกับ WFP มากว่า 16 ปี ผมไม่เคยเห็นการความกระตือรือร้นอย่างท้นและทันท่วงทีจากประชาชนของประเทศหนึ่งสู่อีกประเทศหนึ่งมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นประเทศที่อยู่กันคนละฟากโลก นอกจากนี้ นายเคนโรยังเสริมด้วยอีกด้วยว่า "การแสดงน้ำใจอย่างจริงใจของรัฐบาลไทยนั้นเป็นสิ่งที่วิเศษมาก และควรจะยกย่องเป็นตัวอย่างให้กับรัฐบาลอื่น ๆ ทั่วโลกที่ควรจะพิจารณาความช่วยเหลือในด้านอาหารและความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ ระหว่างที่เกิดสถานการณ์ร้ายแรงขึ้น นอกจากนี้ความช่วยเหลือจากภาคเอกชนไทยยังเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ทำให้ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติรู้สึกทึ่งในความมีน้ำใจของประชาชนชาวไทย น้ำใจอันดับหนึ่ง ...แสดงถึงเนื้อแท้ความเป็นไทย แม้จุดประสงค์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเฮติของประเทศไทย จะมีจุดประสงค์เบื้องต้นเพื่อรักษาหลักมนุษยธรรมและสร้างภาพลักษณ์ แต่ด้วยงบประมาณของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งมีงบประมาณในส่วนของการช่วยเหลือมิตรประเทศผู้ประสบภัยพิบัติอยู่ที่ 10 ล้านบาทต่อปี และจะเพิ่มเป็น 30 ล้านบาท ในปีงบประมาณถัดไป ดังนั้นการระดมทุนจึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเฮติได้ จะเรียกได้ว่าคาดถึงและเกินคาดก็ว่าได้ เมื่อเหตุการณ์มาถึงจุดที่การระดมทุนบริจาคจากประชาชนชาวไทย กลายเป็นการแสดงน้ำใจอย่างครอบคลุม ทันท่วงที และเป็นประเทศผู้มีประชาชนบริจาคเป็นอันดับหนึ่ง โดยสรุปประเทศไทยโดยรัฐบาลไทยบริจาคเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์ ข้าวสารจำนวน 20,000 ตัน เงินบริจาคจากภาคประชาชนผ่านหน่วยงานรัฐบาลจำนวนกว่า 40 ล้านบาท เงินบริจาคจากประชาชนผ่านเอกชนจำนวน 167 ล้านบาท แม้สถานการณ์ภายในประเทศไทยจะวุ่นวายจากความขัดแย้งในเรื่องความคิดทางการเมืองอยู่ไม่น้อย แต่เนื้อแท้ของคนไทยนั้นยังคงมีความสามัคคีที่ซ่อนไว้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะในยามคับขันที่มิตรประเทศอย่างเฮติต้องการความช่วยเหลือ ประชาชนไทยต่างลืมความขัดแย้งในใจชั่วคราวและพร้อมใจกันมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยชาวเฮติด้วยน้ำใจที่ท่วมท้น ชาวไทยทุกคนที่ควรภาคภูมิใจในเนื้อแท้จิตใจอันดีงามสมกับคำยกย่องของโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติด้วยความเต็มใจ