โตโยต้ากระอักค่าเรียกรถคืน2พันล้าน

โตโยต้ากระอักค่าเรียกรถคืน2พันล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
โตโยต้า มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของญี่ปุ่น แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะประกาศมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อแก้ปัญหาระบบเบรกของรถยนต์รุ่นยอดนิยม พรีอุส ไฮบริด ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งนับเป็นปัญหาล่าสุดที่ทำให้โตโยต้ากลัดกลุ้ม และยอมรับแล้วว่า การออกแบบเบรกของพรีอุสมีข้อบกพร่องจริง ส่วนการเรียกคืนรถจากตลาดทั่วโลก ต้องใช้เงินสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายฮิโรยูกิ โยโกยามา เจ้าหน้าที่ระดับบริหารที่รับผิดชอบด้านการควบคุมคุณภาพ กล่าวว่า โตโยต้าในฐานะที่เป็นผู้ผลิต ต้องหามาตรการบางอย่างเพื่ออธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ และขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้บอกว่า โตโยต้าจะประกาศเรียกคืนรถพันธุ์ผสม กรณีปัญหาเบรกหรือไม่

ขณะที่โตโยต้าพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะ แก้ปัญหาความตื่นตระหนกเกี่ยวกับระบบเบรกของ พรีุส ไฮบริด รัฐบาลและรัฐสภาสหรัฐก็ออกมากดดันให้โตโยต้าตอบเรื่องการเรียกคืนรถทั่วโลกเพื่อความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐ รายงานว่า มีผู้ได้รับความเสียหายกว่า 100 คนร้องเรียนเรื่องปัญหาเบรกของรถพรีอุส ส่วนโตโยต้าผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดของโลก กล่าวว่า ได้รับร้องเรียน 77 รายในญี่ปุ่นตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว นายเรย์ ลาฮูด รัฐมนตรีขนส่งสหรัฐ ยังเดินหน้ากดดันโตโยต้าให้จัดการปัญหาการเรียกคืนรถ และเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของสหรัฐ กำลังสอบสวนรายงานเกี่ยวกับปัญหาเบรกของพรีอุส และจะยังคงสอบสวนสาเหตุความเป็นไปได้ทั้งหมดที่เป็นปัญหาด้านความปลอดภัย

โตโยต้ากำลังเรียกคืนรถยนต์เกือบ 8 ล้านคันทั่วโลก ซึ่งเกือบเท่ากับยอดขายรถยนต์โตโยต้าทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว เพื่อแก้ปัญหาแผ่นรองพื้นเลื่อนไปขัดกับคันเร่งทำให้คันเร่งค้าง โดยโตโยต้าต้องใช้เงินสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากการเรียกคืนรถยนต์ทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ ได้ขยายเข้าสู่อังกฤษแล้ว และส่งผลเสียต่อ ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า โตโยต้าจะประสบปัญหา แต่ผลประกอบการในไตรมาสเดือนต.ค.-ธ.ค.ปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น โดยโตโยต้ารายงานผลประกอบการสุทธิ อยู่ที่ 153,200 ล้านเยน หรือ 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งผลประกอบการดังกล่าว ไม่ได้สะท้อนความเสียหายจากการเรียกคืนรถลอตใหญ่ที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่การระงับการขายรถในสหรัฐ และค่าซ่อมแซมรถคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในไตรมาสปัจจุบัน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook