โต้ฮุนเซนแสบป้ายสี''ไทย''รุกราน

โต้ฮุนเซนแสบป้ายสี''ไทย''รุกราน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ดาหน้าจี้ถอนคำพูด! ''มาร์ค''กร้าวไม่ถอนกำลังแน่นายกฯเขมรเยือนตาเมือนธม

รัฐบาลไทยตอกกลับนายกฯ กัมพูชามาร์คเตรียมแจ้ง คกก.มรดกไทย สั่งตรึงกำลังรับฮุนเซนมาตาเมือนธม แต่ไม่สั่งถอนทหารยังตรึงกำลังเข้ม ด้าน สุเทพ อัด นายกฯ กัมพูชา ขอให้พูดแต่ความจริง ยัน รัฐบาลไม่รุกล้ำประเทศเพื่อนบ้าน เด็กปชป. เรียกร้องนายกฯ เขมร ชี้แจง-ถอนคำพูดที่หมิ่นไทย บัวแก้ว ตั้งวอร์รูมดู ฮุนเซน ส่วน บุญยอด แฉ แม้ว ได้เงินเดือนเขมร 1.4 หมื่นบาท จี้ให้ถอนตัวรักษาศักดิ์ศรีคนไทย เผย มาร์ค เลื่อนกำหนดการออกทีวี ไปเปิดงานรณรงค์ เจอข่าวเสื้อแดงจ้องป่วน ยกเลิกคิวเดินขบวน ระบุ ให้ประชาชน-สื่อ กลั่นกรองข่าวสารที่ได้รับ ไม่ต้องตื่นตระหนก ไม่มีปฏิวัติแน่นอน สั่งดูแล 38 จว.สีแดงเป็นพิเศษ ด้านอดีตนายกฯ ทวีตบอกแฟนคลับไม่ต้องกังวลข่าวแดงแตกทัพ เสธ.แดง ไม่ติดใจ 3 เกลอแกนนำ นปช. ขอสู้ต่อเพื่อ ทักษิณ

* สื่อ-ปชช.กลั่นกรองข่าวสาร

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ว่า ในระยะนี้มีปัญหาความห่วงใยของประชาชนกับข่าวสารที่เกิดขึ้นในเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งนี้อยากให้ประชาชนและสื่อมวลชนช่วยกันกลั่นกรองข่าวสาร เพราะมีความพยายามของคนบางกลุ่มที่อยากให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจ หวาดกลัว และวาดภาพเหมือนกับว่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง พูดกันจนถึงขั้นว่าจะมีการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ตนอยากเรียนว่าเงื่อนไข สภาพความเป็นจริง พื้นฐานของสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองไทยในขณะนี้ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น

ในทางการเมืองเรากมีกลไกของ ระบบรัฐสภา มีการติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการตั้ง

กระทู้ถามสด ทุกสัปดาห์เราก็จัดให้มีการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ ไปจนถึงการที่ฝ่ายค้านก็กำลังจะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญในการตรวจสอบตามวิถีทางของระบบรัฐสภา ผมมองไม่เห็นว่าความรุนแรง การปฏิวัติรัฐประหารจะไปแก้ไขหรือคลี่คลายปัญหาใด ๆ ได้เลย มีแต่จะทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชนส่วนใหญ่ นายกรัฐมนตรี กล่าว

* รัฐบาลไม่ทำอะไรรุนแรง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานต่าง ๆ ในการรับมือกับสถาน การณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ขอยืนยันว่าทุกหน่วยมีความพร้อม และมีแผนพร้อมแล้ว ตน ฝ่ายนโยบาย และฝ่ายปฏิบัติที่เกี่ยวข้องได้ซักซ้อมทำความเข้าใจกัน เพื่อให้ประชาชนมีความอุ่นใจว่าเรามีความพร้อมสำหรับเรื่องนี้ และขอยืนยันว่าไม่ว่าข่าวสารที่ปรากฏอยู่จะเป็นอย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร รัฐบาลมีหน้าที่เพียงแค่รักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และ รักษากฎหมาย ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุด

ผมเรียนเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง แม้กระทั่งผู้ที่มีความคิดในการจะชุมนุมเคลื่อนไหวว่า รัฐบาลไม่ประสงค์จะเห็นความรุนแรงในบ้านเมือง และจะทำหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยบนพื้นฐานของกฎหมาย ขอฝากเป็นข้อคิดถึงประชาชนทุกคนว่าผมมั่นใจว่าขณะนี้ทุกคนต้องการเห็นบ้านเมืองสงบ เศรษฐกิจสังคมพัฒนา เราอย่าทำให้ประเทศต้องเสียโอกาสจากความขัดแย้งที่คนไทยต้องมาใช้ความรุนแรงหรือมีปัญหากันเอง มีปัญหาอะไรเรามีช่องทางตามวิถีประชาธิปไตย หากประชาชนช่วยกันบอกเพื่อนร่วมชาติว่านี่คือสิ่งที่ดีสำหรับบ้านเมือง คือการช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความเป็นปกติสุขและสามารถ เดินไปข้างหน้าได้ ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ ขอให้ทุกคนหนักแน่น ยึดประโยชน์ส่วนรวม และ ทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะพลเมืองที่ดี นายกรัฐมนตรี กล่าว

* มาร์คเปิดงาน-หนีแดงป่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภารกิจของนายอภิสิทธิ์ ในช่วงเช้า มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่มีการแจ้งว่านายกรัฐมนตรีจะไปจัดรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (สทท.) ถนนวิภาวดีรังสิต ในเวลา 09.00 น. แต่ปรากฏว่านายกรัฐมนตรีได้บันทึกเทป รายการดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้นายกรัฐมนตรีมีเพียงการปฏิบัติ ภารกิจส่วนตัวกับครอบครัวเท่านั้น

ต่อมาเวลา 12.45 น. นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมายังบริเวณชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า เจเจ มอลล์ ถนนกำแพงเพชร เพื่อเป็นประธานเปิดงานมหกรรมปีแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งจัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำหรับบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยนั้น ได้มีการนำกำลังตำรวจกว่า 300 นาย มาประจำการดูแลรักษาความเรียบร้อยทั่วบริเวณงานทั้งในและนอกห้างสรรพสินค้าดังกล่าว โดยมี พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. มาบัญชาการ

ทั้งนี้ผู้จัดงานได้เตรียมกำหนดการ ให้นายกรัฐมนตรีเดินรณรงค์ร่วมกับคณะดารานักแสดงจากบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า ดังกล่าวไปยังตลาดนัดจตุจักร แต่ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่าสถานีวิทยุชุมชนแห่งหนึ่งกำลังปลุกระดมกลุ่มคนเสื้อแดงให้มาชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรีที่บริเวณหน้างาน จึงได้มีการยกเลิกกำหนดการ ในส่วนนี้ แต่เหลือเพียงนายกรัฐมนตรีร่วมถ่ายรูปกับขบวนรณรงค์ฯ ก่อนจะเดินทางกลับไปในเวลา 13.25 น.

* อภิสิทธิ์ย้อนนายกฯ เขมร

ที่ซอยสุขุมวิท 31 นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่าให้ทหารกัมพูชา มีความเข้มแข็ง เพราะไทยยังคงรุกรานเข้าไปในพื้นที่ของกัมพูชาว่า การที่สมเด็จฮุนเซน พูดเช่นนี้เป็นการยอมรับว่าพื้นที่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับมรดกโลกนั้นเป็นพื้นที่ของไทยชัดเจน จึงจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าการที่กัมพูชาไปบอกกับคณะกรรมการมรดกโลกว่าพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นของเขานั้นไม่ใช่ ซึ่งไทยจะแจ้งเรื่องดัง กล่าวต่อคณะกรรมการมรดกโลกในช่วงที่ไทยจะทำความคิดเห็นภายหลังจากที่กัมพูชาต้องส่งแผนการบริหารจัดการพื้นที่ซึ่งมีเรื่องของแผนที่และเขตแดนต่าง ๆ มาให้ไทยพิจารณาด้วย

* รับฮุนเซนแต่ไม่ถอนกำลัง

ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน จะเดินทางเข้าบริเวณปราสาทตาเมือนธม ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝ่ายไทยก็จะปฏิบัติเหมือนเดิมโดยจะมีคนของเราไปรับบริเวณที่เป็นเขตแดนของเรา และไทยจะไม่ทำตามที่กัมพูชาร้องขอให้ไทยถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่นี้ในช่วงที่สมเด็จฮุนเซน จะเดินทางเข้าไป เมื่อถามว่าคำพูดของสมเด็จฮุนเซนเหมือนเป็นการปลุกระดมคนกัมพูชา จะทำให้ปัญหาตามแนวชายแดนปะทุขึ้นอีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สมเด็จฮุนเซน ก็ทำอย่างนี้เป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว แต่เราก็ใช้แนวปฏิบัติที่ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาการปะทะกัน

* ห้ามกำลังติดอาวุธเข้ามา

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีที่สมเด็จฮุนเซนจะเดินทางไปปราสาทตาเมือนธมว่า เราคงไม่ไปดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่คือแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามปกติ ในทางปฏิบัติเขาก็แจ้งมาทางเจ้าหน้าที่เรา ตนต้องทำความเข้าใจว่าพื้นที่ดังกล่าวที่เป็นที่พิพาทกันต่างฝ่างต่างอ้างว่าเป็นของตนเอง ดังนั้นทั้งเราและเขาก็สามารจะเดินทางไปตรวจ เยี่ยมได้ แต่ต้องมีหลักในการปฏิบัติ เช่นการเข้ามาโดยมีกองกำลังเข้ามาก็ยอมไม่ได้

* จี้ฮุนเซนพูดความจริง

เมื่อถามว่าสมเด็จฮุนเซน วิจารณ์ไทย ว่าพยายามจะไปบุกรุกที่ดินของกัมพูชา นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ว่าสมเด็จ ฮุนเซนมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร แต่กรณีที่สมเด็จฮุนเซนมาวิจารณ์ประเทศไทย ตนต้องชี้แจง ตนคิดว่าถ้าสมเด็จฮุนเซนวิจารณ์ ไทยจริง ท่านคงเข้าใจผิด เราไม่มีเจตนาไปรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน ที่สมเด็จฮุนเซนทำอะไรหลายอย่างไม่ตรงกับที่รัฐบาลไทยคาดหวังไว้ และความไม่เข้าใจกันในเรื่องนี้จะหมายความว่าเราจะไปรุกรานคงไม่ใช่ ตนฝากไปที่สมเด็จฮุนเซนว่าต้องพูดเฉพาะที่เป็นความจริง หากพูดอะไรเกินไปจะเกิดความ เข้าใจผิด ตนจะไม่พูดอะไรเกินความจริง

เมื่อถามว่ามีองคมนตรีออกมาวิจารณ์รัฐบาลว่าควรพยายามจัดการกลุ่มที่มาพาดพิง สถาบัน นายสุเทพ กล่าวว่า เรามีเจ้าหน้าที่ดูแลรัฐบาลมีหน่วยงานดูแลและทำงานอยู่แล้วในกรอบของกฎหมาย ความรู้สึกอาจจะมีอย่างหนึ่งแต่ทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย ส่วนการตั้งตำรวจไปดูแลม็อบใน 38 จังหวัด ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร แต่ตำรวจมีหน้าที่ดูแลตามรักษากฎหมาย

* ปชป.อัดนายกฯกัมพูชา

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีสมเด็จฮุนเซน ให้สัมภาษณ์พาดพิงประเทศไทยว่า พรรคประชาธิปัตย์ยินดีที่การเดินทางของสมเด็จฮุนเซน เป็นไปอย่างเรียบร้อย แต่ไม่เห็นด้วยกับการที่สมเด็จฮุนเซน ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ โดยกล่าวหาว่าประเทศไทยดูหมิ่นและภายในใจคิดที่จะรุกรานกัมพูชา ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลและคนไทยไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนั้น และที่รับไม่ได้คือการกล่าวหาประเทศไทยว่า พวกเขาเองยังสามารถฆ่าคนของตัวเองได้ ซึ่งหากนี่คือคำกล่าวของสมเด็จฮุนเซนจริง ตนขอชี้แจงว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนไทยไม่เคยฆ่ากันเอง จึงอยากให้ชี้แจงและถอนคำพูดดังกล่าว

* แม้วได้เงินเดือน1.4หมื่นบ.

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขณะนี้เวลาผ่านมา 3 วันแล้ว ยังไม่เห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธข่าวได้สัญชาติกัมพูชา ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่ที่คนไทยอยากทราบความจริง การไม่ออกมาตอบโต้หรือชี้แจงข่าวดังกล่าวทำให้ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกเสียจากว่าข่าวดังกล่าวเป็นความจริง และทำให้เห็นว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดมาตลอดว่า ต่อสู้เพื่อคนไทยและระบอบประชาธิปไตยจึงไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้ สื่อกัมพูชายังรายงานด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับเงินเดือนในฐานะที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชา 425 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือ 14,000 บาท ซึ่งน้อยมากเท่ากับเงินเดือนของคนที่จบปริญญาตรี จึงอยากถามว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ และเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี จึงยอมรับเงินเดือนเพียงเท่านี้ ขอให้ลาออกเสียเพื่อรักษาศักดิ์ศรีคนไทย

* บัวแก้วตั้งวอร์รูมดูฮุนเซน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีกำหนดการเดินทางมาเยี่ยมพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างวันที่ 6-8 ก.พ. นี้ โดยอาจจะเข้ามาในพื้นที่ของไทยในบางจุดด้วย โดยย้ำว่า 1.รัฐบาลไทยไม่ขัดข้อง ถ้านายกรัฐมนตรีกัมพูชาประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ของไทยแต่ต้องแจ้งให้ไทยทราบและขออนุญาตก่อน โดยรัฐบาลไทยจะมีผู้แทนไปต้อนรับในระดับที่เหมาะสม และ 2.การเยือนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยของไทย เพราะตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ การเดินทางเข้ามาดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบใด ๆ ทั้งนี้กระทรวงได้ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามข่าวการลงพื้นที่ของสมเด็จฮุนเซน ในครั้งนี้และเพื่อชี้แจงต่อสื่อมวลชนในประเด็นข้อสงสัยต่าง ๆ ด้วย

* ฮุนเซนไม่มาช่องบก

ที่ จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีข่าวว่าสมเด็จฮุนเซน จะเดินทางไปยังช่องบก รอยต่อ 3 ประเทศไทย-ลาว-กัมพูชา ใกล้ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานีนั้น ปรากฏว่าสมเด็จฮุนเซน ไม่ได้เดินทางมาแต่อย่างใด มีเพียง พล.ท.ซอ ทารี รอง ผวจ. พระวิหาร พร้อม พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลสนับสนุนที่ 3 และคณะ เดินทางไปยังศาลาตรีมุข ช่องบก เวลา 11.00 น. โดยนายวิโรจน์ มีแก้ว รอง ผวจ.อุบลราชธานี นายอิทธิพร บุญประคอง รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ พล.ต.ชวลิต ชุณประสาน ผบ.กองกำลังสุรนารี พ.อ.นิรุทธิ์ เกตุศิริ ผบ.ร.16 และคณะ ให้การต้อนรับและร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นการพบกันระดับท้องถิ่นธรรมดาไม่มีการพูดคุยถึงสมเด็จฮุนเซน มีการพูดคุยกันถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดี และความร่วมมือกันรักษาความสงบเรียบร้อยร่วมกันตามแนวชายแดน จะมีการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม การกีฬา เพื่อความสัมพันธ์อันดีต่อกันเท่านั้น

* 38จว.สีแดงถูกจับตาพิเศษ

วันเดียวกัน ที่ซอยสุขุมวิท 31 นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีตำรวจระบุว่ามี 38 จังหวัดที่ต้องเฝ้าจับตามองการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ขณะนี้มันมีการเคลื่อนไหวที่จะชุมนุม เราก็จะดูจากการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ทั้งนี้เราให้ความสำคัญโดยเฉพาะประเด็นที่ว่าจะทำอย่างไรจะรักษาความสงบเรียบร้อย จึงต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ที่เราคิดว่ามีความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ความรุนแรงเท่านั้น เมื่อถามว่ามีจังหวัดใดที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราจะดูจากเหตุการณ์ที่ผ่าน ๆ มา และการเคลื่อนไหวผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อท้องถิ่น มีบางจังหวัดซึ่งจะเห็นว่าเคยมีการปะทะ การเคลื่อนไหวและความรุนแรงต้อง ให้ความสำคัญกับจังหวัดนั้น ๆ เป็นพิเศษ

เมื่อถามว่าการใช้สื่อท้องถิ่นเป็นเครื่องมือปลุกระดม ทำไมรัฐจึงยังจัดการไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องของวิทยุชุมชนนั้น เป็นอำนาจของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ถ้าไม่มีกฎหมายพิเศษ ก็ทำอะไรไม่ได้ ต้องเป็นเรื่องของ กทช. ที่จะต้องดูแล แต่หากมีความจำเป็นของสถานการณ์และพื้นที่ ก็จะประกาศใช้ แต่ถ้าไม่จำเป็น ก็จะหลีกเลี่ยง ทั้งนี้เราพยายามไม่ใช้กฎหมายพิเศษ รัฐบาลมีแนวว่าจะใช้กฎหมายพิเศษให้น้อยที่สุด แต่ถ้ามีข่าวหรือสถานการณ์มีความจำเป็นเราก็ดำเนินการเพื่อเข้มงวดกวดขันมากขึ้น

* เทพไทให้แม้วเคลียร์ลูกน้อง

ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจตุพร เตรียมประสานหารือเพื่อทำความเข้าใจกับ พล.อ. พัลลภว่า ตนยังไม่ได้คุยกับบุคคลทั้งสองเลย เมื่อถามว่านายจตุพรจะเข้าหารือกับ พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ จะเข้าไปคุยด้วยหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่คิดว่าทั้ง 2 คนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ถ้าได้พูดคุยกันก็คงเข้าใจ และเชื่อว่าทุกอย่างคงเรียบร้อย

วันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีความแตกแยกในกลุ่ม นปช.ว่า อยากเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะศาสดาออกมาจัดการสาวก ไม่เช่นนั้นความแตกแยกของคนเสื้อแดง อาจทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปแบบคนละทิศคนละทาง และอาจจะโยนความผิดให้กันและกันได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้เห็นภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามหล่อหลอมความ

สัมพันธ์ของคนเสื้อแดง โดยการโทรศัพท์ให้ พล.อ.ชวลิต พูดคุยกับ พล.อ.พัลลภ ให้พูดคุยกับนายจตุพร ส่วนจะช่วยประสานรอยร้าวได้มากแค่ไหน หรือจะเป็นโอกาสให้คนพวกนี้โก่งค่าตัวหรือไม่ก็ต้องคอยจับตาดู

* แนะพัลลภอยู่เฉย ๆ ดีกว่า

นายเทพไท กล่าวว่า ที่ พล.อ.พัลลภ น้อยใจ และจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ตนก็เห็นว่าเป็นเรื่องดี และอยากเสนอให้อยู่เฉย ๆ อย่าทำอะไร หรือย้ายไปอยู่กับพวกไหนเลยจะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้นอาจเข้าตำราหญิง 3 ผัว ชาย 3 โบสถ์ และคน 3 ม็อบ ส่วนกรณีที่นายจตุพร กล่าว หาทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์อย่าพูดจาเอามันนั้น ตนอยากให้นายจตุพรกลับไปเตือนแกนนำคนเสื้อแดงจะดีกว่า

นายเทพไท กล่าวถึงผลสำรวจของเอแบคโพลว่า ผลสำรวจที่น่าสนใจ 4 ข้อที่ตนอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และกลุ่มคนเสื้อแดง ต้องฟังเสียงสังคมคือ ร้อยละ 87.5 เบื่อหน่ายการเมือง ซึ่งมีเหตุมาจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังไม่หยุด ร้อยละ 85.1 อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุขโดยเร็ว ร้อยละ 82.2 ต่อต้านการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและต้องการให้เร่งยุติความขัดแย้งรุนแรง ส่วนร้อยละ 80.9 เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณควรยุติการโจมตีใส่ร้ายกระบวนการยุติธรรมของไทยเสียที

นายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ออกมาทำนายผลการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาททั้งหมด และรัฐบาลจะสร้างสถานการณ์เพื่อปราบปรามประชาชน ว่า นายจาตุรนต์ กำลังเปลี่ยนจากนักต่อสู้ประชาธิปไตยเพื่อมาเป็นหมอดู ซึ่งไม่สมควร นอกจากนี้ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยใช้ความรุนแรงกับประชาชน รวมทั้งสังคมกลับต้องการให้รัฐบาลจัดการผู้ชุมนุมมากกว่านี้ ดังนั้นอยากให้นายจาตุรนต์ กลับไปทบทวนตัวเองด้วย

* เสธ.แดงไม่ติดใจ นปช.

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ตนไม่เคยติดใจหรือมีปัญหากับ 3 แกนนำ นปช. แต่นายจตุพร แถลงข่าวไปโดยไม่ได้มาถามพวกตนก่อน จึงเกิดความขัดแย้ง เป็นจุดอ่อนทำให้รัฐบาลมาโจมตีได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นแนวความคิดที่พวกตนเสนอไปว่าการต่อสู้ต้องมีองค์ประกอบร่วมคือ มีพรรค แนวร่วมและกำลังรักษาความปลอด ภัย แต่ทางการรบเขาเรียกว่า พรรคแนวร่วม และกองกำลังติดอาวุธ แต่เราไม่ใช้คำว่ากองกำลังติดอาวุธ เพราะเดี๋ยวจะหาว่าเอาไปรบรา ฆ่าฟันกับใคร แต่เป็นกองกำลังเพื่อรักษาความสงบ

ต่อให้นายจตุพรเอาคนออกมา 3 ล้านคน ปิดถนนราชดำเนิน และถนนโดยรอบ คนเสื้อแดงก็อดข้าวตาย แล้วถามว่าจะเอาออกมาทำไม เพราะจากนั้นป๋าสั่งย้ายทำเนียบย้ายสภาไปประชุมสภาใน ร. 1 กับร.11 ก็จบ คนเสื้อแดงอยู่ได้ 3-5 วัน ก็ต้องกลับไปเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ แล้วออกมาทำไม นายจุตพรก็ใจร้อนรีบออกมาด่า พล.อ. พัลลภ อีก 23 ปี อายุก็ครบร้อย เลยน้อยใจ ส่วนผมไม่มีปัญหา คนเสื้อแดงที่ออกมาทุกคนเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ออกมาร้องไห้ เพราะนายจตุพร นายณัฐวุฒิ นายวีระ หรือ เสธ.แดง เราอย่าสำคัญตัวผิด ถ้าไม่มี พ.ต.ท. ทักษิณ ก็ไม่มี นปช.ไม่มีสีแดง เราต้องทำงานร่วมมือกันสามัคคีกัน เสธ.แดง กล่าว

* เปิด 4 ข้อสู้รัฐบาล-ทหาร

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเรารบกับป๋า แต่ไม่มีใครสู้ป๋าได้เลย มีนายกรัฐมนตรีมา 3 คน ก็นอนตายหมดเราต้องทำ 4 อย่าง ไม่ให้ทหารออกมาปราบเรา คือ 1.ใ ห้พล.อ.ชวลิตเป็นแกนนำ 2.เอาครอบครัวทหารมาร่วมกับเราเพื่อไม่ให้ทหารยิง 3.ไม่ให้ทหารกลับเข้ากรมกอง และ 4.หากเราหยุด ทหารไม่ได้ก็ต้องใช้ทหารพรานพาประชาชน ออก ถ้าไม่มีกองกำลังรักษาความสงบของ เสธ.แดงจะทำอย่างไร ใครจะมารู้จัก จปร. จปร.ต้องปราบ จปร. รถถังต้องปราบรถถัง ตอนนี้ เสธ.แดงคนเดียวทำผู้การกรมแต๋วแตกหมด ดีไม่แต่งชุดนอนมาวิ่งไล่กัน

* แม้วทวีตบอกแฟนคลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ (www.twitter. co*) ตอบคำถามแฟนคลับที่ทวีตข้อความเข้ามาถามถึงความขัดแย้งระหว่าง นายจตุพร กับ พล.อ.พัลลภ ว่า ฝากบอกทุกคนด้วยครับไม่ต้องตกใจ ช่วงนี้อาจมีความเครียดของคนทำงานและไปตื่นเต้นกับข่าวมากไปหน่อย โดยเฉพาะกับบางสื่อที่อย่างไรก็ตีเรา นอกจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ยังทวีตข้อความว่า อยู่ดูไบครับจะยังไม่ไปไหนจนกว่า 13 ก.พ. จะไปทำธุรกิจที่อูกานดาครับ

* ห่วงเหตุรุนแรงบานปลาย

ที่พรรคการเมืองใหม่ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรค และนายประพันธ์ คูณมี ผอ.พรรค ร่วมกันแถลงแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การเมืองในช่วงระหว่างคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ และช่วงหลัง 26 ก.พ. นี้ โดยนายสุริยะใส กล่าวว่า สถานการณ์ การเมืองขณะนี้ท่ามกลางกระแสปฏิวัตินั้น เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ตราบใดที่ยังมีความรุนแรงเกิดขึ้น และประชาชนหวาดผวา ดังนั้นจึงเรียกร้องรัฐบาลให้ความสำคัญการเมือง ช่วง 2-3 เดือนนี้ โดยเฉพาะช่วงการพิจารณา คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท วันที่ 26 ก.พ. นี้

นายสุริยะใส กล่าวถึงความขัดแย้งใน นปช.ว่า ว่าจะไม่มีปัญหาระยะยาวเป็นการแข่งขันเอาใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ฐานะนายใหญ่เท่านั้น และมองว่าการจัดตั้งกองทัพประชาชน เป็นเพียงเพื่อหวังเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างใดอย่างหนึ่ง พร้อมให้จับตาว่าจะมีการเปลี่ยนบทบาทแกนนำ นปช. สามเกลอมาเป็น พล.อ.พัลลภ และ พล.ต.ขัตติยะ

นายสำราญ กล่าวว่า สถานการณ์จากนี้ไปมีโอกาสที่จะเกิดความตึงเครียด รุนแรงได้ ทั้งก่อนและหลังวันที่ 26 ก.พ. นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงเคลื่อนไหวกดดันและคั่วไพ่หลายหน้าเช่นเดิมเพื่อให้บรรลุชัยชนะ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเข้มแข็งเด็ดขาดในการใช้กฎหมาย ใช้สื่อรัฐชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องสำคัญ ๆ ที่ถูกบิดเบือน

* อัดรัฐ-นายกฯ อ่อนแอ

นายสุริยะใส กล่าวถึงปัญหาพื้นที่ทับซ้อนหลังจากที่สมเด็จฮุนเซน เดินทางมาเยือนว่า เป็นการแสดงความได้เปรียบทางสากล รัฐบาลไม่ควรไว้วางใจในท่าทีและพฤติกรรมของสมเด็จฮุนเซน แต่รัฐบาลไทยโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีแสดงความอ่อนแอในเรื่องนี้ที่ปล่อยให้กองกำลังทหารของกัมพูชา เข้ามาพื้นที่ประเทศไทยอย่างง่ายดาย ดังนั้นขอให้รัฐบาลออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แสดงถึงจุดยืนของประเทศไทยในการปกป้อง อธิปไตยของไทยให้ทั่วโลกได้รับทราบด้วย

นายประพันธ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าทวงคืนเขาพระวิหารต่อ ศาลโลก โดยปราสาทพระวิหารเป็นของ

ประเทศไทย ดังนั้นรัฐบาลไทยและกระทรวงการต่างประเทศ ต้องหยิบยกประเด็นนี้ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงฟ้องร้องต่อศาลโลกเพื่อยืนยันว่าไทยมีสิทธิเหนือตัวปราสาทพระวิหาร โดยจะต้องนำข้อเท็จจริงขึ้นร้องต่อศาลโลกต่อไป

* ตรึงกำลังตาเมือนธม

วันเดียวกัน ที่ จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก กำลังกองร้อยทหารพราน กรมททหารพรานที่ 26 และกองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 960 กรมทหารพรานที่ 26 กกล.สุรนารี ยังคงตรึงกำลังอยู่ที่บริเวณชายแดน รอบปราสาทและทางเข้าอย่างเข้มงวด โดยตลอดทั้งวันนี้มีทหารกัมพูชาระดับสูง ปราศจากอาวุธเข้าเยี่ยมชมและสังเกตการณ์ที่ตัวปราสาท รวมถึงเตรียมพร้อมที่จะต้อนรับสมเด็จฮุนเซน ที่จะเดินทางมาในวันที่ 8 ก.พ. นี้

สำหรับกำหนดการเดินทางมาของสมเด็จฮุนเซน จะเดินทางมาเปิดที่ทำการกองพันทหารราบที่ 422 ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านโอรรูมจอง ห่างจากปราสาทตาเมือนธม 6 กิโลเมตร จากนั้นก็จะมาเปิดป้ายหมู่บ้านตาเมือน ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาเมือน 4 กิโลเมตร ทั้งนี้หากสมเด็จฮุนเซน จะเข้าพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมจะต้องผ่านขั้นตอนทางการทูต ด้วย ทั้งนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปักหลักแสดงพลังได้เข้าไปในปราสาทเช่นเดียวกันโดยไม่มีการปะทะกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

* ไม่ขอโทษจ้องแฉเสธ.แดง

วันเดียวกัน นายจตุพร กล่าวว่า ตนตัดสินใจแล้วว่าจะไม่มีการประสานเข้าขอโทษ พล.อ.พัลลภ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น เรื่องนี้ได้หารือกับแกนนำคนเสื้อแดงคน อื่น ๆ แล้วว่าเป็นเรื่องหลักการ ไม่เกี่ยวกับเรื่องอาวุโส แต่เป็นเรื่องของความถูกต้อง วันนี้มันมาถึงจุดที่ว่าใครที่อยู่ข้างเดียวกันบ้าง พวกตนยืนหยัดอยู่ข้างนี้มาตลอด 17 ปี โดยไม่เคยเปลี่ยนไปไหนแต่บางคนเวียนไปเวียนมาอยู่หลายรอบ ส่วน พล.ต.ขัตติยะ เป็นอีกคนหนึ่งที่จะต้องหยุดการเคลื่อนไหวพูดจาพาดพิงตนและแกนนำคนเสื้อแดง ถ้าไม่หยุดก็จะมีการกระชากหน้ากากกัน

บางคนแต่งชุดนักรบก็ไม่ได้หมายความว่า เป็นนักรบ บางคนดูเหมือนของจริง แต่เป็นของปลอมก็เยอะ อย่างพวกเราไม่ใช่นักรบ แต่โดนมา 30 คดีไม่เคยหนี แต่บางคนใส่ชุดทหาร บอกว่า ตัวเองเป็นนักรบ แค่จะโดนออกหมายจับก็หนีไปต่างประเทศ อย่างนี้หรือนักรบ วันนี้ถึงวันที่ คนเสื้อแดงจะต้องมานั่งคุยกันว่าอะไรของจริง อะไรของปลอม เพราะวันนี้พวกเราเหมือนคนที่ลอยอยู่กลางน้ำ เห็นเงาตะคุ่ม ๆ มา ตอนแรกก็นึกว่าขอนไม้ แต่พอเกาะไปแล้วสุดท้ายไม่ใช่ขอนไม้ เป็นแค่หมาเน่าตัวหนึ่งเท่านั้น เรื่องนี้ตนได้สื่อสารกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องการจะเคลียร์ ทุกอย่างให้จบเหมือนกัน นายจตุพร กล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook