''ถนนปลอดฝุ่น'' กำลังถูกปัดฝุ่น

''ถนนปลอดฝุ่น'' กำลังถูกปัดฝุ่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังเป็นที่จับตาของทุกฝ่ายว่าโครงการถนนปลอดฝุ่น 1 ในโครงการไทยเข้มแข็งที่อยู่ในความดูแลของนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นั้นควรเป็นโครงการจำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ ทีมการเมืองเดลินิวส์ ได้สัมภาษณ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการติดตามการใช้งบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร

** มองอย่างไรกับข้อเสนอที่ให้ปรับเปลี่ยนจากเดิมที่โครง การถนนไร้ฝุ่นใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านมาเป็นการใช้งบประมาณปกติ

ในเรื่องทฤษฎีผมว่าความคิดของ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นความคิดที่ถูกต้องเพราะการที่เรากู้เงินมาโดยหลักเราต้องคำนวณความคุ้มค่าการใช้จ่ายเงินกู้ เมื่อเรากู้มามันมีดอกเบี้ย เมื่อมีดอกเบี้ยต้องดูว่าความคุ้มทุนในเรื่องการใช้จ่ายมันเป็นอย่างไร อันนี้ผมเชื่อว่าในมุมมองของ ดร.ไตรรงค์มองในฐานะที่เป็นอาจารย์สอนเศรษฐศาสตร์มามีหลักทฤษฎีประกอบ สิ่งเหล่านี้ในเมื่อเราคิดว่าเรากู้มามีดอกเบี้ยเราต้องคิดว่าจะทำอย่างไร ถ้าคิดในแง่นี้ก็ต้องเอาโครงการที่ให้ผล ตอบแทนที่คุ้มค่าในเรื่องการลงทุนที่ท่านพูดว่าโครงการใหญ่ ๆ ในระยะยาวมันจะให้ผลตอบแทนอย่างคุ้มค่ากับการลงทุน ต่อการจ้างงาน ท่านก็มีเหตุผลของท่าน ขณะที่เราต้องยอมรับความจริงว่าพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 4 แสนล้านบาท เป็นการคิดท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนกังวลว่าจะมีวิกฤติเกิดขึ้น จึงคิดว่ารัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลงทุนด้วยการกู้เงิน โดยคิดในมุมมองว่าโครงการอะไรก็ได้ที่มันมีการใช้จ่ายให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะผลักดันให้มีการใช้จ่ายงบประมาณลงทุนเหล่านี้จึงเป็นที่มาของการคิดโครงการ อย่างโครงการทางสังคมก็คิดว่า การทำให้คุณภาพชีวิตของคนในชนบทดีขึ้นก็มี 1. การรักษาพยาบาล 2. การศึกษา และ 3. โครงสร้างพื้นฐานการคมนาคม สิ่งเหล่านี้จึงถูกบรรจุในแผนที่เรียกว่าแผนไทยเข้มแข็ง

** ถนนปลอดฝุ่นหรือถนนไร้ฝุ่นคืออะไร

คำว่าถนนปลอดฝุ่นก็คือถนนลาดยาง เป็นโครงการเดียวกับถนนลาดยางในชนบท ผมเข้าใจว่าตัวเลขที่ยังเป็นถนนลูกรังมีอยู่ประมาณ 7,000 กว่ากิโลเมตร จึงเป็นที่มาว่าเราจะทำอย่างไรจึงจะลาดยางที่อยู่ในการดูแลให้แล้วเสร็จ จึงเป็นที่มาของการเป็น 1 ในโครงการไทยเข้มแข็ง ผมเข้าใจว่ามี 2 ระยะในการใช้เงินระยะแรกประมาณ 14,000 ล้านบาท ระยะที่ 2 วงเงิน 19,000 ล้านบาท

** ส่วนตัวมองว่าโครงกานี้มีความจำเป็นหรือไม่

ในแง่ของสุขภาพประชาชนที่หายใจเอาฝุ่นเข้าไปทุกวันก็น่าเห็นใจ ขณะที่ในแง่เศรษฐกิจมันก็มีประโยชน์ในเรื่องที่ว่าภาคเกษตรกรส่วนใหญ่ของเราอยู่ในชนบท ต้องมีการลำเลียงสินค้าเพื่อให้เกิดความสะดวกผมว่าโครงการนี้มีความจำเป็น แต่ปัญหาก็คือ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นที่เรากังวลคือมันมีการกระจายความเป็นธรรมในงบประมาณแค่ไหนอันนี้คือหลักมากกว่า

** จากการติดตามมีการร้องเรียนความไม่ปกติเข้ามาหรือไม่

มี ผมถึงบอกว่าต้องตอบให้ได้ว่าการกระจายงบประมาณมันมีความเป็นธรรมอย่างทั่วถึงหรือไม่ หรือมันกระจุกตัวอยู่ในแวดวงของคนมีอำนาจหรือเปล่า ซึ่งเราต้องยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมามันมีการกระจุกตัวของการจัดงบประมาณ ถ้าไม่มีการกระจายของงบประมาณอย่างเป็นธรรม อันนี้คือสิ่งที่น่าเป็นกังวล ผมมองในแง่ความเป็นธรรมโดยเฉพาะในพื้นที่ที่เขาไม่ได้รับความเป็นธรรมในอดีตที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าเรื่องความไม่เป็นธรรมในการกระจายงบประมาณนั้นมีอยู่จริง อย่างที่เคยพูดว่าใครไม่เลือกเรา เราไม่ให้งบประมาณ อันนั้นเจ็บปวดมากสำหรับคนในชนบท

** เคยได้ยินเรื่องประเด็นการรั่วไหลของการใช้งบประมาณ

การรั่วไหลก็เป็นอีกประเด็นที่เรามีความเป็นห่วง เพราะคุณต้องใช้งบประมาณให้หมดภายในระยะเวลาที่จำกัดเพราะการกระตุ้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องการ ปัญหาคือเมื่อเร็วมันก็มีช่องว่าง ก็มีปัญหาขึ้นและยังมีข้อจำกัดในเรื่องการตรวจสอบอีก ในมุมมองของผมกังวลเรื่องนี้มาก และในการประชุมกรรมาธิการก็สนใจในประเด็นนี้ ผมจำได้ว่าเคยเชิญตัวแทนกรมทางหลวงชนบทเข้ามาให้ข้อมูลไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแล้ว เพราะมีการร้องเรียนเข้ามาเยอะมากทั้ง 1. เรื่องความไม่โปร่งใส และ 2. เรื่องความไม่เสมอภาคของการกระจายงบประมาณ

ถ้าถามว่าโครงการนี้มีประโยชน์หรือไม่ ผมต้องตอบว่ามีประโยชน์ แต่ว่าถ้าเลยจากกรอบระยะเวลาที่เราต้องการจะกระตุ้นแล้วผมก็เห็นด้วยกับ ดร.ไตรรงค์ที่ว่าในภาวะปกติมันก็ควรจะใช้งบ ประมาณปกติซึ่งเราจะได้มีการตรวจสอบกันได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น

** แสดงว่าการใช้งบประมาณตาม พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทตรวจสอบยาก

เราต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่า การตรวจสอบการใช้เงินปกติของสภาผู้แทนราษฎรมันมีความละเอียดกว่า เพราะมีการตั้งกรรมาธิการ มีการลงไปดูการใช้จ่ายงบประมาณ เราต้องรู้หมดว่าอันี้ราคานี้ อะไรเท่าไร มีอนุกรรมาธิการการลงไป เรามีคนไปติด ตามดูว่าทำที่ไหน ซ้ำซ้อนหรือไม่อย่างไร

** แสดงว่าทุกวันนี้ไม่ทราบรายละเอียดโครงการ

ข้ออ่อนของโครงการนี้ก็คือว่าไม่มีรายละเอียดของโครงการ อันนี้เป็นข้ออ่อนที่เราต้องยอมรับ มีการขออนุมัติเฉพาะกรอบวงเงินเท่านั้น แต่รายละเอียดไม่มี ก็อย่างที่ผมบอกว่าเรื่องนี้ต้องแยกเรื่องความจำเป็นที่คนในชนบทที่เขามีความหวังว่า ถนนเหล่านี้เมื่อไรจะได้ลาดยาง แต่ว่าเมื่อทำไปแล้วสิ่งที่เราบอกว่าต้องแก้ไขให้ได้คือ ความโปร่งใส การตรวจสอบได้ ต้องไม่เกิดช่องว่างให้มีการทุจริตเกิดขึ้น ความเท่าเทียมความเสมอภาค

** หลายคนกังวลว่าถนนดังกล่าวจะเป็นลักษณะมาเร็วไปเร็ว

อันนี้ที่ผมถึงบอกว่าความโปร่งใส ความโปร่งใสมันคือการมีการตรวจสอบอย่างโปร่งใส และไม่ได้หมายถึงแค่การจัดซื้อจัดจ้าง อย่างเดียว แต่ต้องรวมไปถึงว่าเป็นไปตามมาตรฐานของงานหรือไม่ ถ้าคุณเอาเวลามากำหนดอันนี้คือช่องว่างที่ก่อให้เกิดการทุจริต

** พื้นที่ไหนมีการร้องเรียนกันเข้ามามากที่สุด

ตอนนี้มีเจอมากคือภาคอีสานเพราะภาคอีสานเป็นภาคที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไปมาก แต่ก็อยากจะพูดให้ความเป็นธรรมด้วยเพราะภาคนี้มีพื้นที่ใหญ่มีถนนอยู่มาก เขาก็จำเป็นต้องได้รับการจัดสรรงบประมาณที่มากต้องมองด้วยความเป็นธรรมนะครับ แต่สิ่งที่ต้องไปดูคือต้องไปดูว่า ในภาคอีสานมันกระจายหรือมันกระจุกตัว นอกจากมองเรื่องภาคแล้วยังจะต้องมองรายจังหวัดด้วยว่ามีความทั่วถึงและมีความเป็นธรรมหรือไม่

ผมคิดว่าถ้าตอบคำถาม 2-3 ตัวนี้ได้โครงการนี้มันก็เป็นประโยชน์อยู่ แต่วันนี้ 2-3 คำถามนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ผม คิดว่าผู้ที่รับผิดชอบระดับกรม ระดับกระทรวงต้องตอบคำถามให้ชัดเจน เพราะเขามีความกังวลใจในเรื่องเหล่านี้ แต่ตอนนี้ยังไม่มี การพูดกันตรง ๆ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook