เผยผลวิจัยนักธุรกิจไทยนิยมแต่งงานเพื่อสร้างเครือข่าย สยายปีกทางการธุรกิจ
รศ.ดร.ประมวล กล่าวอีกว่างานวิจัยชิ้นนี้ยังมีทฤษฏีที่บอกว่าในประเทศที่ระบบกฎหมายหรือระบบสถาบันที่เกี่ยวข้องกับระบบธุรกิจที่อ่อนแอ ไม่แข็งแรงจะมีจุดอ่อนในเรื่องความเชื่อมั่นกับคู่เจรจาทางธุรกิจเพราะฉะนั้นการสร้างความสัมพันธ์ผ่านครอบครัวโดยการแต่งงานจึงเป็นการแก้ปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นได้อีกทางหนึ่ง ลดปัญหาในเรื่องการทำธุรกิจและต้องมีกฎหมายเข้ามารองรับจึงจะเชื่อมั่นอีกฝ่ายหนึ่ง ในประเทศที่กฎหมายอาจจะยังไม่พร้อม ยกตัวอย่างตลาดเกิด การสร้างสถาบันที่ไม่ได้เป็นรูปของกฏหมายมันก็สามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ ประเทศกำลังพัฒนาจะมีการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจโดยผ่านการแต่งงาน โดยสมาชิกในในครอบครัวนักธุรกิจมากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในประเทศที่พัฒนาแล้วสามารถสร้างได้หลากหลายกว่า เช่นการส่งลูกเรียนโรงเรียนเดียวกัน หรือการไปเรียนโรงเรียนชั้นสูงในฝรั่งเศส จะมีการสร้างเพื่อนผ่านการทำความรู้จักกัน และเพื่อนคือส่วนสำคัญในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจในอนาคต สำหรับประเทศไทยนั้นเราเชื่อว่าการแต่งงานเป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ให้ธุรกิจแน่นแฟ้นลึกซึ้งมากขึ้น จากเดิมความสัมพันธ์ของนักธุรกิจมีอยู่แล้ว แต่จะไม่แน่นแฟ้นเท่ากับการใช้พิธีกรรมแต่งงานเข้ามาหลอมรวม "ถึงวันนี้งานวิจัยชี้นนี้สามารถบอกได้ว่านักลงทุนมองว่าบริษัทที่ครอบครัวมีการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจโดยการแต่งงานจะเกิดประโยชน์สร้างประโยชน์ในอนาคต และยิ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทที่มีการซื้อขายในตลาด ราคาหุ้นจะสะท้อนผลประโยชน์ในอนาคตในการปรับราคาหุ้น ณ วันนี้ได้ งานวิจัยชิ้นนี้เราได้ใช้เทคนิคทางเศรษฐศาสตร์ ทางโมเเดลเข้าไปจับว่า ประโยชน์ที่จะได้รับในอนาคตที่เกิดจากการแต่งงานโดยใช้เครือข่ายความเป็นธุรกิจมีประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นอย่างมาก ถึงวันนี้เราอาจจะตั้งสมมติฐานได้ต่อไปว่าการสร้างเครือข่ายของนักธุรกิจโดยการแต่งงานของคนในตระกูลของนักธุรกิจไทย หากมีเพียงแค่บางตระกูล บางกลุ่มก้อนที่สร้างเครือข่ายอย่างเหนียวแน่น จะเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะไปกีดกันผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ที่จะเข้ามาสู่ตลาดการแข่งขัน มันจะเกิดการผูกขาด ซึ่งเครือข่ายที่มีความเหนียวแน่นนี้จะสามารถรวมกันเพื่อไปบีบผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ได้เพื่อไม่ให้เข้าสู่ตลาดที่เขายึดครองไว้แล้วงานวิจัยชิ้นนี้คงต้องทำต่อไป โดยเฉพาะการเก็บตลาดหรือการจำกัดผู้แข่งขันทางการตลาดรายอื่นๆ ผ่านระบบเครือญาติในบางธุรกิจซึ่งในเมืองไทยบางธุรกิจ ถ้าเราโยงสายสัมพันธ์เครือญาติ พี่น้องจะพบว่าไม่มีนักธุรกิจกลุ่มอื่นหรือกลุ่มใหม่ๆสามารถเข้าสู่ตลาดการแข่งขันได้เลย ด้านดร.จิตตรา ดุษฎีเมธา ประธานโครงการให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่าในเทศกาลแห่งความรักหลายคนมีนิยามรักไม่เหมือนกัน ในกลุ่มนักธุรกิจที่ใช้การแต่งงานเพื่อสร้างเครือข่ายให้ธุรกิจตัวเองได้ผลประโยชน์นั้นก็มีนิยามรักที่ต่างกันไป ส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้จะใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ความรู้สึก ซึ่งถ้ามีเหตุผลมากเกินไปบางครั้งก็ทำให้มองแต่ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง ความรัก ความผูกพัน เอื้ออาทร ช่วยเหลือทางจิตใจเติมเต็มในส่วนที่อีกฝ่ายหนึ่งขาดจะหายไป เพราะความรักที่มุ่งแต่ผลประโยชน์หรือตัวเลขทางธุรกิจนั้นจะคิดแต่เติมเต็มผลประโยชน์เพื่อธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ และคิดแต่จะกอบดกย ทำให้ความรู้สึกแห่งรักแท้คนกลุ่มนี้จะไม่เคยได้สัมผัส ท้ายที่สุดก็จะโดดเดี่ยวอ้างว้าง แม้ว่าบางคนจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแต่ก็ยังรู้สึกห่างเหินกัน เพราะเขาขาดซึ่งอารมณ์และความรู้สึก บางครอบครัวดูเหมือนจะรักกันดี ออกงานสังคม ดูมีเกียรติแต่เมื่อกลับมาถึงบ้านต่างคนต่างอยู่ก็มีให้เห็นมากมาย บางคนไม่ยอมแยกทางแม้ว่าจะดูห่างเหินกันก็ตามเพราะเขายึดเหตุผลเรื่องผลประโยชน์ คือต้องอยู่เพื่อผลประโยชน์เป็นหลัก คนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยมีความสุขมากนัก จะเห็นบางคนมีข่าวคบหาคนอื่นๆ ขณะตัวเองก็ยังมีสามีหรือภรรยาอยู่แล้ว