เหลิมอัดเจ๊มิ่งฝันส้มหล่นหวังสูงนั่งนายกฯ

เหลิมอัดเจ๊มิ่งฝันส้มหล่นหวังสูงนั่งนายกฯ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มาร์คเหล่สอบนายอำเภอโยงนักการเมืองเชือดแน่

เหลิมซัดมิ่งขวัญอย่ารอส้มหล่นสับอยากได้ดี ต้องหัดออกอาวุธ ค้าน เพื่อไทย ชูเสนอชื่อนายกฯ ในญัตติซักฟอก หากดื้อขอไม่ร่วมอภิปราย ลั่นต้องโหวตเลือก ในพรรคเท่านั้น ได้ เก่ง การุณ ก็ต้องเอา ยอมรับตัวเองเจียมตัวไม่ใช่ดาวรุ่ง วรวัจน์ ยันเห็นต่างกันไม่แปลก ตั้ง วิทยา บุรณศิริ โฆษกแจงซักฟอก ปชป.เยาะแค่นี้แย่งกันทึ้ง ยุนายใหญ่ฟันธงมาเลย นายกฯ ส่ง สุเทพ เป็นมวยแทน กินข้าวพรรคร่วม ปู่ชัย หน่าย ส.ส.โดดร่ม ให้ชาวบ้านดูพฤติกรรมเอาเอง แล้วไปวัดใจวันเลือกตั้ง นายกฯ เริ่มเหล่ทุจริตโรงเรียนนายอำเภอ สอบ 258 ล. ใกล้ถึงฝั่ง

* เหลิมค้านพท.ชูคนนอก

เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่รัฐสภา ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงยืนยันว่า ไม่งอนที่ไม่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะโอกาสใส่ชื่อและจะได้เป็นนายกฯ คงต้องรออีก 3 ชาติ บวกอีก 7 ชาติ ทั้งนี้ ตนขอย้ำว่าจะไม่ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากจะเสนอชื่อคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในพรรคเพื่อไทยก็มีสมาชิกถึง 190 คน แต่หาไม่ได้จริง ๆ ก็ให้โหวตเลือกคนในพรรค เช่น ถ้าพรรคโหวตเลือกนายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย หรือแคนดิเดตนายกฯ 5 คน ตนก็ไม่ขัดข้อง ไม่จำเป็นต้องเป็นชื่อตน ตนไม่เคยงอนใครนอกจากภรรยาที่บ้าน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าสมาชิกพรรคเพื่อไทยเสนอให้ร.ต.อ.เฉลิม เป็นนายกฯจะรับหรือไม่ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตนไม่เคยปฏิเสธว่าจะไม่รับ แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องมีคนนำ และการที่ตนมาทำหน้าที่คณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ใช่ผู้นำอภิปราย ดังนั้น คนอยากเป็นนายกฯ ไม่ใช่นั่งเฉย ๆ อย่างนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่ได้แต่นั่งจิบน้ำชาข้างเวทีแล้วรอส้มหล่น อยากเป็นใหญ่ต้องแสดงบทบาท ที่ผ่านมายอมรับว่ามีความคิดของคนกลุ่มหนึ่งจะให้คนนอกมาเป็นนายกฯ ซึ่งถ้าทำเช่นนี้ก็ทำให้พรรคเสียแนวทางการเมือง

* เจียมตัวไม่ใช่ดาวรุ่งพุ่งแรง

เมื่อถามว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทยออก มาระบุว่าไม่ได้สกัดดาวรุ่ง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะตนไม่ใช่ดาวรุ่ง ดาวค้างฟ้า ดาวสภา และในชีวิตทางการเมืองของตนจะไม่เอ่ยชื่อคน ๆ นี้อีกเลย เมืองไทยเป็นพุทธ ใครซื่อสัตย์สุจริต ชีวิตก็จะเจริญ แต่ถ้าใครปลิ้นปล้อน ทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ให้เป็นเรื่อง ก็แล้วแต่ แล้วอย่านึกว่าตนไม่รู้ว่าใครโทรศัพท์ไปล็อบบี้ให้ใครมาใส่ร้ายตน อีกทั้งตนไม่เคยทุจริต ทหารปฏิวัติก็ไม่เคยไปค้นบ้านแล้วเจอเงินมากถึง 800 ล้านบาท เหมือนบางคน

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวเพิ่มอีกว่า บางคนลอยหน้าลอยตาในสังคม แต่พอกลับบ้านเอามือก่ายหน้าผาก เพราะความตายมาถึงแล้ว เพราะเดือนมีนาคมจะมีการฌาปนกิจศพนักการเมืองบางคน เพราะมีเรื่องทุจริต

* วรวัจน์ยันไม่ใช่เรื่องใหญ่

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมประกาศถอนตัวออกจากทีมอภิปรายหากพรรคเสนอชื่อคนนอกเป็นนายกรัฐมนตรีแนบท้ายญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ในหลักการวันนี้ ทุกอย่างยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด สำหรับพรรคเพื่อไทยไม่ได้ปิดกั้นฝ่ายใด ทุกคนมีสิทธิเสนอความเห็น แต่ต้องเอาพรรคเป็นหลัก วันนี้เราพยายามเอาประชาธิปไตยกลับคืนมา ดังนั้นจะไปปิดกั้นไม่ได้ บางครั้งเราก็ต้องยอมเจ็บปวด

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะหาทางออกจากความ ขัดแย้งอย่างไร นายวรวัจน์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ พรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้มีปัญหา ตรงกันข้ามสถานการณ์อย่างนี้ก็ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยุบสภาเร็ว ในพรรคเพื่อไทยเวลานี้ต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ ขับเคลื่อนพรรคตามปกติ วันนี้ ส.ส.ร่วมลงชื่อเป็นที่เรียบร้อย หากได้ข้อสรุปว่าจะยื่นวันใด พร้อมดำเนินการภายใน 3 ชั่วโมง ส่วนที่ร.ต.อ. เฉลิมพาดพิงนายมิ่งขวัญ ตนก็ยังงงไม่เข้าใจ บางทีเราก็ยังงงว่าใครเล่นอะไร หลอกกันเองก็มีจนบางทีก็ตามไม่ทัน ต่อข้อถามว่าหาก ส.ส. เสนอให้โหวตชื่อนายกฯ ในที่ประชุมพรรค นายวรวัจน์ กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่เวลา เชื่อว่าจะไม่มีการเสนอให้โหวต แค่พูดคุยกันเข้าใจก็จบ

* มอบวิทยาแจงอภิปราย

สำหรับความคืบหน้าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ขณะนี้มีข้อมูลในส่วนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ นาย กรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว. มหาดไทย นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ในฐานะอดีต รมว.ศึกษาธิการ ล่าสุดก็ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม รวุจริตในโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขซึ่งกำลังดูว่าจะไปถึงใครบ้าง แม้ว่าจะมีการปรับย้ายรัฐมนตรีแต่ไม่มีผล กระทบเพราะสุดท้ายทุกอย่างเชื่อมโยงไปที่นายกรัฐมนตรี

รายงานข่าวแจ้งว่าในการประชุมระดับแกนนำพรรคเพื่อไทย เมื่อเย็นวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมาซึ่งมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯเข้าร่วม ได้มอบหมายนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยาในฐานะรองประธานคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำหน้าที่โฆษกเฉพาะกิจ เป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่เพียงผู้เดียวเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

* ปชป.เยาะพท.ทึ้งกันเอง

ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมรับการอภิปราย ไม่ไว้วางใจขึ้นมา 1 ชุด โดยมีคณะทำงานรวม 33 คน มีนายจุติ ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก เป็นประธาน ทั้งนี้อยากให้พรรคเพื่อไทยแสดงความเป็นเอกภาพ โดยระบุวันที่จะยื่นอภิปรายที่ชัดเจน เพราะที่ผ่านมาต่างคนต่างพูด

นายเทพไท กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นผู้นำในการอภิปราย แต่ร.ต.อ.เฉลิมต้องทำใจ เพราะพรรคเพื่อไทยมีระบบนายใหญ่ นายหญิง มีระบบที่ผูกพันลึกซึ้ง แต่ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นเพียงบ่าว จึงต้องทำใจ อย่างไรก็ตามแค่ตั้งนายกฯ สมมุติ ก็ยังแย่งกันถึงขนาดนี้ หากตั้งนายกฯจริงจะแก่งแย่งกันขนาดไหน จึงอยากให้นายใหญ่ฟันธง

* คาด18ก.พ.พรรคร่วมนัดคุย

นายสุวิทย์ คุณกิตติ ในฐานะหัวหน้าพรรคกิจสังคม กล่าวถึงความคืบหน้าในการเป็นเจ้าภาพในการเชิญพรรคร่วมรัฐบาลนัดทานข้าวเพื่อหารือร่วมกันว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการนัดทานข้าวร่วมกันแต่ยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นสถานที่ใด เบื้องต้นได้แจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบแล้ว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีข่าวว่านายสุวิทย์ นัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหารกลางวันในวันที่ 18 ก.พ.นี้ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะไปร่วมงานนี้แทนตน

รายงานข่าวแจ้งว่า จะมีการนัดรับประ ทานอาหารกลางวันที่โรงแรมโอเรียนเต็ล โดยเป็นกลุ่ม 111 กับนายสุเทพ เพื่อหารือสถานการณ์การเมือง

* ปู่ชัยหน่ายส.ส.โดดร่มอื้อ

ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาลจะเปลี่ยนเวลาประชุมสภาเพื่อแก้ปัญหาองค์ประชุมไม่ครบและล่มบ่อยครั้งว่า แก้ยากมันไม่มีทาง มันอยู่ที่คน คนจะประชุม 6 โมงเช้าก็ได้ ประชุม 6 โมงเย็นก็ได้ มันอยู่ที่คนและสำนึกความรับผิดชอบ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนควรพิจารณาคนที่จะเป็น ส.ส.ให้ดีก่อนที่จะใช้สิทธิออกเสียง โดยพิจารณาให้ดีว่าผู้รับการเลือกตั้งคนใดจะปกปักคุ้มครองอำนาจอธิป ไตยได้ เรื่องทำนองนี้ไม่ต้องประจานเพราะ ถ้าประจานได้ ปัญหาคงไม่เกิด พระอยู่ในวัดยังปาราชิกได้เลย

* ปธ.วิปคาด ส.ส.หัดตื่นเช้า

นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐ บาลประเมินผลมาตรการเปลี่ยนเวลาการประชุมว่า เชื่อว่าขณะนี้สมาชิกอยู่ระหว่างการปรับตัว อย่างไรก็ดี สมาชิกทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้ หากเห็นว่ากำหนดเวลาประชุมเช้าเกินไปก็อาจจะเลื่อนให้สายขึ้นเพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียงในการประชุม อย่างไรก็ดี การประชุมช้าหรือประชุมเร็วขึ้นอยู่กับความเห็นของที่ประชุม ส่วนปัญหาการนับองค์ประชุม ตนเห็นว่า หากประธานสภาผู้แทนราษฎรยังไม่กล้าใช้อำนาจในการนับองค์ประชุมโดยนับจากผู้เข้าประชุมจริง ปัญหาก็จะยังเกิดขึ้นเช่นนี้ต่อไป เรื่องนี้เป็นเรื่องของอำนาจประธานสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่ามีมาตรการลดความขัดแย้งในสภาอย่างไรหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ในสภาไม่น่าเป็นห่วง ปัญหาในสภาเป็นเรื่องความเห็นไม่ตรงกันเมื่ออภิปรายโต้แย้งกันก็จบในสภา ไม่เคยมีการอภิปรายในสภาคู่ไหนที่ขัดแย้งกันแล้วไปมีเรื่องกันข้างนอก เจตนาของสภาคือการใช้สภาเป็นเวทีแสดงความคิดเห็น เมื่อคุยกันในสภาทุกอย่างจะได้ข้อยุติ

* นายกฯ เหล่ รร.นายอำเภอ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบพบพยานหลักฐานการทุจริตในการสอบเพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าโรงเรียนนายอำเภอว่า ตนรับทราบข่าวนี้เบื้องต้น แต่ยังไม่มีการรายงานเข้ามา ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนอีกชุดหรือไม่นั้น ต้องดูว่าเขาสรุปมาอย่างไร มีปัญหาหรืออุปสรรคใดหรือไม่ ถ้าเขาทำได้เต็มที่แล้ว ก็ดำเนินอำนาจหน้าที่ของเขาได้ ซึ่งถ้ามีการสอบสวนพบว่าเรื่องนี้โยงไปถึงนักการเมือง ก็ต้องบอกและมีส่งเรื่องมาให้ตนแล้วตนก็ต้องดำเนินการ

เมื่อถามว่าช่วงนี้มีข่าวการซื้อขาย ตำแหน่งค่อนข้างมาก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะตรวจสอบจริงจัง แล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเป็นรูปธรรม ซึ่งขณะนี้เราทำเช่นนี้ในทุกเรื่อง เช่น กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 กรณีของกระทรวงสาธารณสุข ที่เราทำไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งทุกเรื่อง เราไม่มีปล่อย

* เผยใกล้ถึงฝั่งสอบ 258 ล.

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความ คืบหน้าการพิจารณาคดี 258 ล้านบาท ของคณะทำงานที่นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตั้งขึ้นว่า ขณะนี้ได้มีความคืบหน้าไปมาก และ อีกไม่นานคงสามารถสรุปเรื่องให้กับนายทะเบียนพรรคการเมืองได้พิจารณา ซึ่งในวันที่ 23 และ 24 ก.พ. คณะทำงานจะมีการนัดประชุมพิจารณาในประเด็นที่เกี่ยวกับระบบบัญชีต่าง ๆ ซึ่งได้เชิญพรรคประชาธิปัตย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล

* โพลสะท้อนเสียงยุบสภา

ธุรกิจบัณฑิตย์โพล มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของชาวกรุงเทพฯ 1,479 คน ระหว่างวันที่ 6-7 ก.พ. ในหัวข้อเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี พบว่า ร้อยละ 34.57 เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ จะสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปอีกได้ไม่เกิน 9 เดือน ร้อยละ 26.95 เชื่อว่าจะดำรงตำแหน่งต่อไปได้อีกไม่เกิน 6 เดือน มีเพียงร้อยละ 8.55 เท่านั้น ที่เชื่อว่าอยู่จนครบวาระ

ในสภาพเศรษฐกิจและการเมืองที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ชาวกรุงเทพฯ ร้อยละ 46.37 อยากให้มีการยุบสภา ร้อยละ 33.09 อยากให้รัฐบาลอยู่แก้ปัญหาต่อไป และร้อยละ 19.46 อยากให้นายกฯลาออก สำหรับความคิดเห็นเรื่องการพิจารณายึดทรัพย์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ในวันที่ 26 ก.พ. พบว่า ร้อยละ 60.20 คิดว่าจะถูกยึดบางส่วน มีเพียงร้อยละ 14 เท่านั้นที่คิดว่าจะไม่ถูกยึดทรัพย์เลย และเมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯได้อีกหรือไม่ ร้อยละ 36.36 คิดว่ามีโอกาสค่อนข้างน้อย และไม่มีโอกาสเลยถึงร้อยละ 35.12

* ทักษิณเซ็งบ่นคดี258ล.อืด

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ดำเนินรายการสถานีวิทยุออนไลน์ Thank sinlive Radio ซึ่งเป็นโปรแกรมถ่ายทอดเสียง ลงเว็บไซต์ www.thanksinlive.com และรายการโทรทัศน์ พีเพิลชาแนล โดยได้เล่าถึงเหตุการณ์เลือกตั้งที่ผ่าน ๆ มาว่า ที่พรรคพลังประชาชนได้รับชัยชนะแบบถล่มทลาย แต่ก็มีหลายจุดที่โพลออกมาชนะ แต่ก็แพ้เพราะโดยเฉพาะจังหวัดแถบชายฝั่งทะเล ตอนหลังเป็นนายกฯ ก็ทราบว่ามีการพิมพ์บัตรเกิน จนต้องย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องในขณะนั้น ต่อ ๆ มาพรรคของตนก็โดนสกัดมาเรื่อย ๆ โดยที่ กกต.ไม่ยอมทำอะไร เหมือนคดี 258 ล้าน ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ยอมทำอะไรเลย

ผมบอกได้เลยว่าที่บ้านเมืองเราวุ่นวายแบบนี้เพราะองค์กรอิสระไม่เป็นกลางจริง มีความพยายามเตะสกัดพรรคผมมาโดยตลอดเป็นฤทธิเดชของพวกอำมาตย์ที่ทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคนี้เลือกตั้งเข้ามาทีไร ก็แพ้ทุกครั้ง แม้เป็นรัฐบาลเมื่อมาเลือกตั้งก็แพ้เพราะทำงานไม่เป็นวันนี้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ก็แพ้ นายอภิสิทธิ์ ได้เป็นนายกฯ ก็เอาอำมาตย์มาช่วย เอาทหารมากดดัน วันนี้ผม ไม่ผิด ผมเชื่อว่าผมทำความดีมากกว่าความบกพร่อง ดังนั้นอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมผมก็ต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวย้ำ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook