''พิงค์ โปโล'' รวมพลังหญิง

''พิงค์ โปโล'' รวมพลังหญิง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

ท่ามกลางเปลวแดดร้อนระอุ ณ สนามไทย โปโล แอนด์ อีเควสเทรียน คลับ พัทยา จ.ชลบุรี กลุ่มพลังสตรีนัดรวมพลครั้งใหญ่ ไม่ใช่เพื่อประท้วง แต่เป็นการรวมพลังสร้างกุศล เพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ในการแข่งขันขี่ม้าโปโลหญิงการกุศล พิงค์ โปโล ครั้งที่ 2 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ระหว่างทีมออสเตรเลีย และทีมเซ้าธ์ อีสต์ เอเชีย ซึ่ง นันทินี แทนเนอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลบีจี จำกัด ในฐานะประธานจัดการแข่งขันฯ จัดขึ้น เพื่อนำรายได้จากการจัดงานมอบให้ โครงการมะเร็งเต้านม ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ รพ.จุฬา ลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยได้รับเกียรติจาก ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี เป็นประธานในงาน

ธารน้ำใจจากเหล่าเซเลบริตี้หัวใจสีชมพูหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น ฯพณฯ อันตอนิอู ดือ ฟาเรีย อี มายญา เอกอัครราชทูตโปรตุเกสประจำะเทศไทย และ มาดามมาเรีย ดือ ฟาเรีย อี มายญา, คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์, ม.ล.ลักษสุภา กฤดากร, ปวีณา หงสกุล, เพิ่มพูน-จุฑาทิพย์ ไกรฤกษ์, วิภาดา โทณวณิก, พรเทพ-มยุรี พรประภา ฯลฯ ซึ่งมาร่วมลุ้นเชียร์นักกีฬาขี่ม้าโปโลถึงขอบสนาม เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดผลปรากฏว่าทีมเซ้าธ์ อีสต์ เอเชีย ชนะทีมจากออสเตรเลีย ไปด้วยคะแนน5 ต่อ 4 คว้าถ้วยควีนสคัพไปครองได้สำเร็จ

ศึกในสนามร้อนระอุแล้ว ด้านนอกสนามก็คึกคักไม่แพ้กัน บรรดาพิงค์เลดี้ ทั้งหลายต่างสวมชุดสวยเก๋พร้อมหมวกปีกกว้างใบโตมาสร้างสีสันให้งาน ก่อน ร่วมชมแฟชั่นโชว์สุดตระการตาบนหลังม้า จากแบรนด์ ลา มาร์ตินา จากประเทศอาร์เจนตินา ที่รวมสุดยอดกีฬาโปโลทุกชนิดไว้ด้วยกันทั้งเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ นำทีมนางแบบกิตติมศักดิ์โดย มาดามมาเรีย ดือ ฟาเรีย อี มายญา, จิตรามณฑน์ เตชะไพบูลย์, ทิพาพร อัชนันท์, วี มาร์, ฮอลลี่ อัมระนันทน์, ซนย่า วัชรสินธุ์ และ นุสบา ปุณณกันต์ เป็นต้น

รศ.นพ.กฤษณ์ จาฏามระ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เผยว่า ผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมสูงเป็นอันดับ 1 และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เฉพาะที่ศูนย์ฯ ทุก ๆ ปีมี ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นราว 550 คน ขณะนี้ทางศูนย์ฯ มีเครื่องมือในการตรวจมะเร็งเต้านมแบบ 3 มิติ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด โทโมซินเธซิส เพียงเครื่องเดียวในไทย ที่สามารถตรวจหาก้อนเนื้อที่มีขนาดเล็กได้อย่างแม่นยำ และการรักษาก็ไม่จำเป็นต้องตัดเต้านมทิ้ง แต่ใช้วิธีเจาะและดึงส่วนที่เสียออกมา สิ่งสำคัญที่สุดคือ ผู้หญิงต้องกล้ามาตรวจรักษาก่อน มีโอกาสหายขาดได้.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook