เมืองช้างเกมส์กระแสคึกคัก

เมืองช้างเกมส์กระแสคึกคัก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นักกีฬา5พันชิงชัยชุมพลร่วมพิธีเปิด

นายพัฒนาชาติ กฤดิบวร รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (สพก.) เป็นประธานแถลงข่าวและเสวนาการแข่งขันกีฬานักเรียนคนพิการแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 เมืองช้างเกมส์ โดยมี นายไพฑูรย์ ศิริบูรณ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุรินทร์, พันเอกโอสถ ภาวิไล นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าว เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ห้องประชุมศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ สำหรับ เมืองช้างเกมส์ จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 มี.ค. ที่ จ.สุรินทร์ โดยมีการแข่ง 10 ชนิด คือ กรีฑา, โกล บอล, เซปักตะกร้อ, เทเบิลเทนนิส, บอคเซีย, เปตอง, แบดมินตัน, ฟุตซอล, วอล เลย์บอล, และว่ายน้ำ ซึ่งมีโรงเรียน และสถานศึกษาคนพิการจากทั่วประเทศเข้าร่วมทั้งหมด 61 โรงเรียน มีเจ้าหน้าที่และนักกีฬาจำนวน 2,545 คน โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 10-16 ปี และรุ่นอายุ 17-25 ปี แบ่งความพิการออกเป็น 5 กลุ่ม คือ กลุ่มพิการทางตา 163 คน, กลุ่มพิการทางสมอง 69 คน, กลุ่มพิการทางปัญญา 529 คน, กลุ่มพิการทางหู 1,174 คน และกลุ่มพิการร่างกาย 97 คน โดยการแข่งขันครั้งนี้มีการชิงเหรียญทองทั้งหมด 482 เหรียญทอง

สำหรับในวันที่ 4 มี.ค. เวลา 15.00 น. จะมีการประชุมหัวหน้าคณะนักกีฬา และเวลา 17.00 น. จะมีพิธีเปิดหมู่บ้านนักกีฬา ที่โรงแรมทองธารินทร์ ส่วนเวลา 18.00 น. จะมีการจัดงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าหน้าที่ นักกีฬาคนพิการ และคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ ที่ลานอเนกประสงค์ห้างสรรพสินค้า เทสโก้โลตัส จ.สุรินทร์ ด้านพิธีเปิดการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 5 มี.ค. เวลา 16.00 น. ที่สนามกีฬาศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ โดยมี นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธี ส่วนพิธีปิดการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 9 มี.ค. เวลา 16.00 น. มี นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธี พร้อมพิธีมอบธงการแข่งขันกีฬานักเรียนคนพิการแห่งประเทศไทยให้ จ.เพชรบุรี เจ้าภาพครั้งต่อไป

นอกจากนี้การแข่งขัน ยังมีประเทศในภูมิภาคอาเซียน ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 5 ประเทศ คือ มาเลเซีย 30 คน, ลาว 30 คน, ฟิลิปปินส์ 2 คน, สิงคโปร์ 2 คน และอินโดนีเซีย 2 คน โดยคาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่กีฬา คณะกรรมการจัดการแข่งขัน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จากในประเทศและต่างประเทศ จำนวนประมาณ 5,000 คน ซึ่งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ของ จ.สุรินทร์ เป็นมูลค่าประมาณ 80-100 ล้านบาท.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook