หอบข้อมูลย้าย ตร.ซักฟอกรัฐบาล

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทร ปราการ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ซึ่งมีการพิจารณากรณี พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ เนื้อนวล ผกก.ฝอ.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม โดยเชิญผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งโยกย้ายเข้าชี้แจง พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ ชี้แจงว่า เดิมตนนั่งในตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองสุรินทร์ ต่อมามีคำสั่งขอตัวให้ตนไปนั่งในตำแหน่ง ผกก.ฝอ.ภ.จว.กาฬสินธุ์ โดยไม่มี การแจ้งล่วงหน้า ทั้ง ๆ ที่การทำงานของตนในพื้นที่เดิมทำได้ดี ได้รับการประเมินประสิทธิภาพจาก สตช. อันดับที่ 1 ของจังหวัด และผลพวงจากการโดนย้ายทำให้ตนเสียโอกาสในการเจริญเติบโตในตำแหน่งหน้าที่ เพราะถือเป็นการย้ายข้ามภาค เพราะเงื่อนไขในการพิจารณาขยับตำแหน่ง ต้อง ทำงานในพื้นที่นั้น 2 ปีขึ้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น กมธ. หลายคนรุมซักถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายว่าสอดคล้องระเบียบ สตช. หรือไม่ โดยเฉพาะการย้ายข้ามภาคจนทำให้ผู้ถูกย้ายเสียโอกาส ด้าน นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน กมธ. จากพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้รู้กันว่าฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงมักจะเกิดปัญหา กองกำลังพลก็เหมือนเป็นเจ้าพ่อ ไปย้ายข้ามภาคแล้วอ้างเสมอว่าเพื่อประสิทธิภาพการทำงาน แล้วย้ายแบบไม่สมัครใจแบบนี้ จะทำให้เกิดประสิทธิภาพขึ้นได้อย่างไร ตนไม่เคยเห็นยุคไหนที่การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจมีปัญหาเท่านี้ ทำให้นายตำรวจออกมาร้องขอความเป็นธรรมหรือต้องไปฟ้องศาลปกครองเพราะการเมืองเข้ามายุ่งมากเกินไป สตช. ต้องตอบให้ได้ว่าใครเป็นคนสั่ง เหตุผลคืออะไร แล้วการย้ายแบบทำให้เสียโอกาสทางราชการถือว่าขัดระเบียบ สตช. หรือไม่ นายสุทัศน์ กล่าว

ขณะที่ นายประชา ประธาน กมธ. กล่าวสรุปว่า การเมืองมาแทรกแซง ไม่ชอบหน้าใครก็ย้าย ซึ่งตนจะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและนำไปเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป.