ประท้วงใหญ่! อเมริกาตัดงบการศึกษา

ประท้วงใหญ่! อเมริกาตัดงบการศึกษา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ได้เกิดการประท้วงใหญ่ที่แคลิฟอร์เนียและกระจายไปเกือบทุกรัฐทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องการตัดงบการศึกษา ทำให้นักศึกษาที่อเมริกาจะต้องแบกงานหนักหลายจ๊อบเพื่อนำมาแลกเป็นค่าเทอม

จุดเริ่มต้นมาจากการที่รัฐแคลิฟอร์เนียได้ตัดเงินงบประมาณของรัฐด้านการศึกษาลงถึง 34,000 ล้านบาทที่จะให้กับทุกมหาวิทยาลัยของรัฐแคลิฟอร์เนีย นอกจากนี้ก็มีความเป็นไปได้ว่าเกือบทุกรัฐในสหรัฐก็จะตัดงบประมาณด้านการศึกษาเพราะพิษปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ การตัดงบประมาณก้อนนี้ไปทำให้มหาวิทยาลัยของรัฐไม่มีทางเลือกจะต้องขึ้นค่าเล่าเรียน ตัดลดทุน การศึกษาและคณาจารย์ตกงาน ผู้เดือดร้อนโดยตรงคือนักศึกษาเพราะจะต้องแบกภาระงานมากขึ้นหลายคนจะต้องทำงานถึง 2 หรือ 3 แห่ง เพื่อนำรายได้มาแลกกับค่าเล่าเรียน ที่แพงขึ้นและก็ยังไม่พอจับจ่ายใช้สอย มหาวิทยาลัยเอกชนซึ่งมีนักศึกษาที่ได้รับทุนของรัฐมาเรียนก็มีจำนวนลดลง

การประท้วงที่เมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2553 ตำรวจได้จับผู้ประท้วงไป 160 คนที่เข้าไปปิดการจราจรบนถนนหลวง มีคนหนึ่งดิ้นหนีการจับกุมต้องกระโดดลงจากถนนลอยฟ้าพลัดจากต้นไม้ใหญ่ลงมาสู่พื้นอาการสาหัส ตำรวจต้องใช้ปืนลูกยางยิงลงสู่พื้นเพื่อกันไม่ให้ผู้ประท้วงปิดทางสัญจรบนถนนหลวง

ที่มหาวิทยาลัยรัฐวิสคอนซิน มิลวอกี มีผู้ประท้วงถูกจับกุม 15 คน และเกิดความวุ่นวายมีผู้ประท้วงเข้าไปยังสำนักงานใหญ่ของอธิการบดี (Chancellor) ของรัฐ

ที่รัฐจอร์เจีย มีข่าวว่าสภาแห่งรัฐจอร์เจียจะเสนอตัดงบการศึกษาจำนวน 10,000 ล้านบาท ซึ่งปีที่แล้วตัดไปจำนวน 3,400 ล้านบาท จึงเกิดการประท้วงทั่วไปในรัฐจอร์เจีย

ที่รัฐโคโลราโดมีผู้ประท้วงนับร้อยที่ศาลาว่าการรัฐที่เมืองเดนเวอร์ ที่รัฐแมริแลนด์นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมริ แลนด์เมืองคอลเลจพาร์คก็มีการจัดเตรียมการประท้วงใหญ่ เรื่องการตัดงบประมาณการศึกษา ที่รัฐนิวยอร์ก รัฐเทกซัส และรัฐแอริโซนา ก็เกิดกลุ่มปะทุการประท้วงเรื่องการตัดงบประมาณนี้

ทางสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ได้รายงานล่าสุดว่าการประท้วงได้ลุกลามอย่างรวดเร็วไปยัง 33 รัฐรวมทั้งกรุงวอชิงตันดี.ซี.ซึ่งเป็นเมืองหลวง

นักศึกษาทั้งประเทศได้ใช้อินเทอร์เน็ตผ่านระบบเครือข่ายสังคมมายสเปซ เฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์ จำนวนมากเพื่อสร้างเครือข่ายการประท้วงใหญ่ทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา

ข่าวแบบนี้ไม่เคยได้ยินมานานหลายสิบปีตั้งแต่ครั้งมีสงครามเวียดนาม เข้าใจว่าพิษเศรษฐกิจครั้งนี้ของสหรัฐอเมริกาสาหัส การที่ผู้นำสหรัฐอเมริกาตัดสินใจทำสงครามกับหลายประเทศในตะวันออกกลาง เช่น อิรัก อัฟกานิสถาน ก็น่าจะทำให้ได้บทเรียนอีกเป็นครั้งที่สองหลังจากพ่ายสงครามเวียดนามมาแล้ว

นักศึกษาสู้อุตส่าห์แบกงานหลายจ๊อบหาเงินมาเรียน ก็ไม่มีเงินพอเสียค่าเล่าเรียน ทำให้โอกาสจบปริญญาตรีน้อยลง ไม่พอ ถ้าหากจบแล้วเป็นบัณฑิตหางานทำไม่ได้อีกเหมือนบางประเทศก็จะยิ่งหนัก

แต่ภาคเอกชนก็คงจะต้องช่วยตัวเองมาก ๆ แหละครับ ผมว่าภาคเอกชนนี่แหละจะเป็นจักรกลขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย ครับ.

รองศาสตราจารย์

ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล

มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด

boonmark@stamford.edu

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook