ก.ค.ศ.เดินหน้าใช้ว.17ประเมินวิทยฐานะครู
เลขาธิการ ก.ค.ศ.กล่าวต่อไปว่า การประเมินจะมี 3 ด้าน คือ 1.ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ 100 คะแนน 2.ด้านความรู้ความสามารถ 100 คะแนน แบ่งเป็น การเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงาน 60 คะแนน จะดูจากหลักสูตร แผนการจัดการเรียนรู้ สื่อ นวัตกรรมที่ใช้ และแฟ้มสะสมผลงาน และการพัฒนาตนเอง 40 คะแนน ซึ่งครูต้องไปศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น อบรม ประชุม สัมมนา และค้นคว้าทางอินเทอร์เน็ต และนำความรู้ที่ได้รับไปใช้จัดการเรียนการสอน รวมถึงดูวุฒิบัตร เกียรติบัตร หนังสือคำสั่งต่าง ๆ ด้วย และ 3.ด้านผลการปฏิบัติงาน 100 คะแนน แบ่งเป็น การพัฒนาคุณภาพการทำงานในสายงาน 60 คะแนน และผลงานวิชาการ 40 คะแนน ซึ่งในส่วนนี้จะแยกย่อยออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ดูผลงานมีคุณภาพตามหลักวิชาการ มีเนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์ 20 คะแนน และ 2.ประโยชน์ของผลงาน เพื่อนำไปใช้พัฒนานักเรียน และสถานศึกษา 20 คะแนน
ขอฝากถึงเพื่อนครู ว่า อย่าสร้างข้อมูลเท็จ เพื่อให้ได้คะแนนประเมินสูง ๆ เพราะมาตรา 91 ในพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ระบุผู้เข้ารับการประเมินจะต้องไม่ลอกเลียน ไม่จ้างวาน และไม่รายงานอันเป็นเท็จ หากกระทำผิดนอกจากจะไม่ได้รับการประเมินแล้ว ยังมีโทษทางวินัยสูงสุด คือ ปลดออก กับไล่ออกด้วย นายประเสริฐ กล่าวและว่า จากข้อมูลของสำนักงาน ก.ค.ศ.ล่าสุด วันที่ 18 ก.พ. 2553 ระบุว่า ปัจจุบันมีครูที่มีวิทยฐานะชำนาญการ 266,093 คน คิดเป็น 61.46% ชำนาญการพิเศษ 100,818 คน คิดเป็น 23.29% เชี่ยวชาญ 1,275 คน คิดเป็น 0.29% เชี่ยวชาญพิเศษ 1 คน คิดเป็น 0.001% ไม่มีวิทยฐานะ 64,755 คน คิดเป็น 14.96% รวมทั้งสิ้น 432,942 คน.