รมช.ศธ. เร่ง สอศ.ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ในแผน SP 2 ภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เร่ง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้ นายสุทธิชัย จันทร์อารักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ ตามโครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง(SP 2) ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า คณะกรรมการตรวจสอบที่มีนายนพพร สุวรรณรุจิ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ได้รายงานผลการตรวจสอบมายังนางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยพบว่ามี 7 รายการที่ไม่พบความผิดปกติและไม่เข้าข่ายมีการกระทำในลักษณะที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ดังนั้นจึงได้ทำหนังสือรายงานต่อนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาะการ และนายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.) เพื่อทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณให้โอนงบประมาณให้แก่สถานศึกษา ซึ่งจะได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ทันภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553 นายสุทธิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับครุภัณฑ์ 7 รายการที่ตรวจสอบไม่ผิดความผิดปกติ ประกอบด้วย กลุ่มครุภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วนชั้นสูง กลุ่มครุภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วนพื้นฐาน กลุ่มครุภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม กลุ่มครุภัณฑ์สิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน กลุ่มครุภัณฑ์เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มครุภัณฑ์เครื่องหนังเซรามิคและงานศิลปกรรม และวิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ โดยใช้งบประมาณเกือบ 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันนางสาวนริศรา ได้ตั้งคณะกรรมการเร่งรัดติดตามการดำเนินงานจัดซื้อครุภัณฑ์ในโครงการเอสพี 2 โดยมีนายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน อย่างไรก็ตามยังเหลือการจัดซื้อครุภัณฑ์อีกประมาณ 4,000 ล้านบาทและการจัดซื้อเทคโนโลยีสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์ เกือบ 1,000 ล้านบาท จะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 31 มีนาคม 2553 ไม่เช่นนั้นจะต้องส่งคืนงบฯ ซึ่งผู้ที่จะเสียประโยชน์คือสถานศึกษา