ไมค์ พิรัชต์: สิ่งสำคัญที่สุดในวงการบันเทิง ไม่ใช่ "ความสามารถ"

ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล หรือ Mike Angelo นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง และเมนเทอร์คนเก่งของรายการ CHUANG ASIA THAILAND ผู้โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมานานหลายปี ทั้งยังมีประสบการณ์ทำงานคลุกคลีกับทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมากมาย เรียกว่าไมค์มีความเข้าใจอุตสาหกรรมบันเทิงเป็นอย่างดี ซึ่งเขาได้เปิดเผยว่า “สิ่งสำคัญ” ที่จะนำไปสู่ “ความสำเร็จ” ในวงการบันเทิงไม่ใช่ “ความสามารถ” อย่างที่ใครหลายๆ คนคิด

Sanook ชวนไมค์ พิรัชต์ มาพูดคุยสุดเอ็กซ์คลูซีฟถึงเส้นทางในการเป็นศิลปิน และการเติบโตจากอดีตจนถึงปัจจุบันที่ทำให้ผู้ชายคนนี้กลายเป็น “ซูเปอร์สตาร์” ตัวจริง 

เส้นทางสายบันเทิงของไมค์

แม้จะไม่เคยฝันว่าจะเข้ามาโลดแล่นในวงการบันเทิง แต่พี่ชาย 2 คนที่เดินเข้าสู่วงการเพลงก่อนหน้า ก็เปรียบเสมือนการปูเส้นทางให้ไมค์เดินเข้าสู่วงการนี้ได้ไม่ยากนัก กระทั่งเขาและกอล์ฟ พิชญะ ผ่านการคัดเลือกในโครงการ G-Junior ของบริษัท GMM Grammy ก่อนจะได้เดบิวต์เป็น “กอล์ฟ-ไมค์” ที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง และทำให้ทั้งคู่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตกในช่วงเวลานั้น 

หลังจากประสบความสำเร็จ สองพี่น้องจึงแยกออกไปทำในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งไมค์ก็เริ่มต้นจากการออกเพลงเดี่ยว ก่อนจะหันเหตัวเองไปสู่เส้นทางสายการแสดง และโด่งดังในระดับนานาชาติ โดยไมค์ระบุว่า “การเดินทางของไมค์เหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง ทุกครั้งก็มีเริ่มต้นบทใหม่ๆ ซึ่งหลังจากไปจีนมาแล้ว มีโอกาสเล่นหนังฮอลลีวูดมาแล้ว ตอนนี้ก็เป็นบทใหม่ของชีวิตในการทำงาน คือการกลับมาเมืองไทย และวางแผนว่าจะผันตัวไปทำเบื้องหลัง แต่แน่นอนว่าจะไม่ทิ้งเบื้องหน้า”

ต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง

“จากประสบการณ์ที่บอกได้หลังจากทำงานมาหลายประเทศ สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราอยู่รอดได้คือการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบตัว สถานการณ์รอบข้าง และวัฒนธรรมต่างๆ เราต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าหาสิ่งใหม่ๆ ได้เร็ว ถ้าเราปรับตัวไม่ได้ เราก็จะอยู่ในที่เหล่านั้นไม่ได้” ไมค์บอก 

ไม่ใช่แค่การปรับตัวเร็วเท่านั้นที่สำคัญต่อการทำงานในระดับนานาชาติ แต่การยอมรับว่า “ทุกอย่างมีขึ้นลง” ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องระลึกเอาไว้เสมอเมื่อก้าวเท้าเข้าสู่วงการบันเทิง

“ถ้าเรายอมรับตอนลงไม่ได้ เราจะกลับขึ้นไปค่อนข้างยาก ซึ่งผมก็ผ่านมาเหมือนรถไฟเหาะค่อนข้างเยอะ ผมเลยค่อนข้างชินว่าเมื่อไรที่เราขึ้นมาอยู่ข้างบน เราก็จะพยายามอยู่ให้ได้นานที่สุด และเมื่อถึงตอนลง เราจะลงอย่างไรให้มันสวยงาม และเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นครั้งต่อไป มันต้องมีการวางแผนอยู่ตลอดเวลา คือสมัยนี้เราไม่ได้แค่เต้นกินรำกินแล้ว แต่เราต้องมีความคิดเรื่องการบริหารด้วย” 

“สิ่งจำเป็นที่ต้องมีคือคุณต้องเรียนรู้และฝึกฝน พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา มันจะไม่มีวันหยุดพัฒนา ถ้าใครหยุดพัฒนาเมื่อไร คุณก็จะไปถึงทางตันในวันหนึ่ง ผมจะมีคำถามกับตัวเองเสมอว่า ‘แล้วยังไงต่อ’ คือเมื่อพลุที่มันขึ้นไปบนฟ้าและมีคนเห็นแล้ว คุณจะทำยังไงต่อให้มันไปได้ไกลกว่านั้นอีก”

"ดวง" สำคัญมากกว่า "ความสามารถ" 

เมื่อถามถึงเคล็ดลับความประสบความสำเร็จของไมค์ เขาบอกว่า “มีหลายปัจจัยเลยครับ ดวงคือ 50% เลย ผมมีอยู่ 3 อย่างในวงการบันเทิง คือ 1.ความสามารถ 2.คอนเน็กชัน และ 3.ดวง ถามว่าอันไหนที่สำคัญที่สุด ‘ดวง’ สำคัญที่สุด คอนเน็กชันรองลงมา สามคือความสามารถ อันนี้ผมพูดจากประสบการณ์ของผมเองเลย ของคนอื่นผมไม่รู้นะ แต่จากประสบการณ์ของผม ไม่ว่าคุณจะมีความสามารถ หรือเก่งแค่ไหน มันต้องมีอีกเป็นล้านคนที่เก่งเหมือนกัน”

เพราะคนที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้ บางทีก็มีคนที่เก่งกว่าเขาเยอะ แต่ทำไมถึงไม่ประสบความสำเร็จ นั่นเป็นเพราะปัจจัยเรื่อง ‘คอนเน็กชัน’ และ ‘ดวง’ ซึ่งไมค์เล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังว่า  “คนเราดวงจะขึ้น ไม่ต้องทำอะไรเลย อยู่เฉยๆ ก็ประสบความสำเร็จได้ ผมเคยเห็นมาแล้ว วันไหนที่ผมเริ่มยอมแพ้ ตอนนั้นมันจะประสบความสำเร็จ วันไหนที่เราไม่คาดหวัง วันนั้นจะประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นให้ใช้ชีวิตในวงการแบบไม่ต้องคาดหวังเลย คุณทำให้ดีที่สุดในส่วนที่คุณต้องทำ ทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุด ไม่ต้องสนใจว่าวันนี้จะมีคนเห็นหรือไม่มีคนเห็น จะประสบความสำเร็จไหม ไม่เป็นไร ทุกอย่างคือจุดที่เราวางเอาไว้ แล้วจุดพวกนี้มันจะเชื่อมโยงกันเองในอนาคต บางทีคุณทำสิ่งนี้ในวันนี้ ซึ่งคุณอาจจะคิดว่า ‘เราทำไปทำไม’ แต่มันกลายเป็นว่ามันอาจจะมีประโยชน์กับคุณในอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้าก็ได้ ไม่มีใครรู้”

การวางแผนชีวิตของไมค์

นอกจากเรื่องของดวง การวางแผนชีวิตก็สำคัญเช่นกัน ไมค์เล่าต่อว่า “การตัดสินใจของคนเราชี้ได้เลยว่า ชีวิตเราจะไปที่ไหนต่อ การตัดสินใจของเราในวันนี้ ณ โมเมนต์นี้ บอกได้เลยว่าอนาคตของเราในอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้าจะเป็นยังไง เพราะเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่ผมตัดสินใจจะไปจีน วันนี้ผมเลยได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ได้มาอยู่ในรายการ CHUANG ASIA THAILAND แต่ถ้าวันนั้นผมไม่ได้ตัดสินใจไปจีน และยังอยู่ที่ไทย ผมอาจจะไม่ได้ไปไหนต่อในเส้นทางอาชีพของผม อาจจะแค่เล่นละครไปเรื่อยๆ แล้ววันนึงคลื่นลูกใหม่ก็จะมา แล้วคุณก็จะหายไป แล้วเราก็ต้องมาวางแผนว่าทำยังไงให้เรายังอยู่ตรงนี้ให้เรายังอยู่ในทุกยุคทุกสมัยได้”

“ตรงนี้มันต้องการการวางแผนที่ต้องมีการวิเคราะห์ตลาด และอีกหลายๆ อย่าง ซึ่งมันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดถึงตรงนี้ ปกติเค้าก็อาจจะยกหน้าที่นี้ให้กับผู้จัดการ แต่ว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างที่จะลงสนามด้วยตัวเองค่อนข้างเยอะ ผมก็เลยต้องคิดเยอะ ต้องวางแผนเยอะ ต้องคิดมากกว่าคนอื่น เพราะดวงของผมคือต้องทำเองเท่านั้นมันถึงจะประสบความสำเร็จ ถ้าไม่ทำเองไม่ได้”

“มันก็มีนะคนที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เกิดมาก็คาบช้อนทอง แต่เราไม่ใช่ เราไม่ได้เกิดมามีความสามารถ พรสวรรค์ เราไม่ได้เต้นเก่ง ร้องเก่งเท่าคนอื่น เราไม่ได้เพอร์ฟอร์มบนเวทีเก่งเท่าคนอื่น เพราะฉะนั้นผมก็ต้องเอาอย่างอื่นเข้าสู้ ผมต้องวางแผนให้มากกว่าคนอื่น ผมต้องมีกลยุทธ์มากกว่าคนอื่น ปรับความคิดของตัวเองให้ดีกว่าคนอื่นให้ได้ มันคือความพยายาม ความมุมานะ ความดึงดัน และความไม่ยอมแพ้”

คำแนะนำสำหรับเด็กรุ่นใหม่

ไมค์บอกว่าในวงการบันเทิงตอนนี้เต็มไปด้วยเด็กรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ และเขาเองก็ตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับเด็กรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับคำแนะนำที่ไมค์อยากบอกเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง ไมค์ผู้เป็นหนึ่งในศิลปินไอดอลรุ่นเปิดตลาดของไทยฝากบอกน้องๆ ว่า 

“สู้ๆ นะครับ อย่างที่ผมบอกว่าในยุคนี้ใครๆ ก็เป็น somebody ได้ แต่ว่าจะอยู่ยังไง ให้อยู่ไปได้นานๆ ยาวๆ อยู่ไปได้อย่างมีคุณภาพ และที่สำคัญที่สุดคืออยู่ยังไงให้มีความสุข นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะตราบใดที่เรามีความสุข เราก็จะไม่สนไม่แคร์เรื่องอื่น นอกจากว่าเราทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เราทำงานของเราไป เรามีเป้าหมายของเราไป แต่ถ้ามีวันที่เราไม่มีความสุข มันก็ไม่มีอะไรที่จะขับเคลื่อนเราไปต่อ มันไม่มีอะไรที่จะทำให้เราอยากจะไปต่อในเส้นทางนี้ เพราะฉะนั้นอยากให้มีความสุขเข้าไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่ หลังจากเข้าวงการมาแล้ว เจอเรื่องอะไรก็ตามแต่ ให้คิดวิธีหาความสุขเข้าไว้ ง่ายที่สุดคือช่างแม่ง” 

ผู้เขียน: ริญญภัสร์ วัฒนาพีรวิชญ์ 

ชมคลิปบทสัมภาษณ์ ไมค์ พิรัชต์ ถึงเส้นทางในการเป็นศิลปินตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และประสบการณ์ในวงการบันเทิงทั้งในและต่างประเทศที่ทำให้กลายเป็นไมค์ในวันนี้