แดงกว่า200ปิดถนนราชปรารภปะทะทหาร

แดงกว่า200ปิดถนนราชปรารภปะทะทหาร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กลุ่มคนเสื้อแดง กว่า 200 คน ส่วนใหญ่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ปักหลักอยู่ที่บริเวณสะพานราชปรารภ ฝั่งถนนที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่ ถ.ศรีอยุธยา โดยมีการนำยางรถยนต์ มาจุดไฟเผา สร้างความวุ่นวายให้พื้นที่ เนื่องจาก มีเจ้าหน้าที่ทหารได้ตรึงกำลังอยู่ที่ ถ.ศรีอยุธยา ทำให้เกิดการปะทะกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางทหารได้ยิงปืนขึ้นฟ้าจำนวนหลายนัด เพื่อเป็นการข่มขู่กลุ่มผู้ชุมนุม จนทำให้ กลุ่มคนเสื้อแดง ต้องถอยร่นออกมาจากบริเวณดังกล่าว 400 เมตร แต่ยังคงรวมตัวกันต่อต้านทหารต่อไป อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ประชาชนที่สัญจรทั่วไป ต่างได้รับผลกระทบ เนื่องจาก ไม่ทราบว่า ถนนเส้นนี้ถูกปิด โดยประชาชนบางราย แสดงความไม่พอออกมาอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่บางส่วนเดินทางออกมาจากรถ เพื่อมาสอบถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทำให้การจราจรติดขัด ไม่สามารถใช้การได้

บรรยากาศ บนถนนราชปรารภ ตั้งแต่แยกมักกะสัน จนถึงแยกสามเหลี่ยมดินแดง ยังคงมีทหารตรึงกำลังรักษาความปลอดภัย ทั้ง 2 ฝั่งของถนนตลอดแนวอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะเช่นกัน ทั้งนี้ ทหาร ได้นำรั้วลวดหนามหีบเพลง มาวางขวางถนนดังกล่าว ก่อนออกไปยังแยกสามเหลี่ยมดินแดงด้วย พร้อมกับกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ออกจากพื้นที่ทั้งหมด ส่วนร้านค้าและบ้านเรือนของประชาชนบริเวณนี้ ได้ปิดทำการ รวมทั้ง ปิดไฟหน้าบ้านส่งผลให้ ตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา ถนนราชปรารภ มีเพียงแสงสว่างจากไฟถนนเท่านั้น ซึ่งทำให้เป็นพื้นที่ล่อแหลม ที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ทหารบางส่วนได้แบ่งกันหยุดพักรับประทานอาหารเย็นด้วย

ขณะที่ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์เอราวัณ เปิดเผยตัวเลขล่าสุด ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์ปะทะกัน บริเวณแยกวิทยุตลอดทั้งวันที่ผ่านมา พบว่าขณะนี้มีตัวเลขผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 81 ราย มีเสียชีวิตทั้งสิ้น 4 ราย ซึ่งทราบชื่อต่อมา คือ นายอินแปลง เทศวงษ์ นายเสน่ห์นิลเหลือง นายปิยะพงษ์ กิติวงศ์ และ นายประจวบ สิราพันธ์ ส่วนผู้บาดเจ็บได้กระจายรักษาตัวตาม ร.พ.ต่างๆ รวม 11 ร.พ. คือ ร.พ.ราชวิถี 21 ราย ร.พ.ตำรวจ 18 ราย ร.พ.เจริญกรุงประชารักษ์ 10 ราย ร.พ.กล้วยน้ำไทย 8 ราย ร.พ.รามาธิบดี ร.พ.เทพธารินทร์ 5 ราย ร.พ.ทหารผ่านศึก และ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ที่ละ 4 ราย ร.พ.เลิดสิน 3 ราย ร.พ.ตากสิน 2 ราย ร.พ.บำรุงราษฎร์ 1 ราย


อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทางศูนย์เอราวัณได้แจ้งความคืบหน้าตัวเลขผู้บาดเจ็บเพิ่มเป็น 101 ราย และเสียชีวิตเพิ่มเป็น 7 ราย
แล้วในขณะนี้

ด้านบรรยากาศที่สี่แยกศาลาแดง ภายหลังจากเหตุการณ์ปะทะกันสงบลงประมาณ 2 ชม. ที่ผ่านมาล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. ได้มีผู้ไม่หวังดียิงระเบิด M79 ลงที่บริเวณสี่แยกซึ่งเป็นจุดใกล้เคียงกับจุดที่เกิดเหตุเดิมเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาจำนวน 2 นัด โดยเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุทำให้เจ้าหน้าที่กำลังทหารและตำรวจได้ตั้งกำลังเตรียมพร้อมในการรับมือกับกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์อย่างเต็มกำลัง


ขณะที่บรรยากาศบริเวณแยกบ่อนไก่ ขณะนี้ผู้ชุมนุม ยังคงปักหลักชุมนุมกันอย่างโดยสักครู่ที่ผ่านมา ทหารซึ่งตั้งกำลังอยู่ที่บริเวณสะพานไทย-เบลเยี่ยม ได้ประกาศออกเครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมสลายการชุมนุม ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้จากผู้ชุมนุมด้วยการโห่ร้อง และจุดดอกไม้ไฟ อย่างไรก็ตามบริเวณนี้ยังคงมีเสียงประทัด และเสียงดังคล้ายระเบิด รวมถึงเสียงปืนดังเป็นระยะๆ แต่ไม่ปรากฎผู้ได้รับบาดเจ็บ สำหรับการจราจรบริเวณนี้ได้ปิดอย่างถาวรแล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา



กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนกว่า 100 คน ได้นำยางรถยนต์มาวางเรียงเป็นแถวหน้ากระดาน ปิดกั้นบริเวณเชิงสะพานข้ามแยกสามเหลี่ยมดินแดงฝั่งที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตรงอาคารสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) เพื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายและก่อกวนทางเจ้าหน้าที่ทหารที่คุมกำลังอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ชัย ฯ จนทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงต่างพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยชาวบ้านบางส่วนต่างแสดงความไม่พอใจอีกทั้งยังไม่สามารถระบุได้ว่าประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เป็นฝ่ายใด เพราะแต่ละคนต่างแต่งกายกันตามปกติ ไม่ได้มีการแสดงสัญลักษณ์ว่ามาจากกลุ่มใด อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลให้ประชาชนทีสัญจรในเส้นทางตามปกติ ต่างได้รับความเดือดร้อนเพราะมีการปิดถนนดินแดง ฝั่งที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่อนุสาวรีย์ชัย ฯ ประกอบไปด้วยถนนวิภาวดีรังสิต และถนนพระราม 9 โดยปราศจากเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกในด้านการจราจร



ด้านเจ้าหน้าที่ทหารเข้าควบคุมตัวชายต้องสงสัยที่ตู้โทรศัพท์ ริมฟุทบาทถนนราชปรารภ หลังเกิดเหตุระเบิด M-79 ยิงใส่พื้นที่ถึง 4 นัด ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารต้องระมัดระวังในการดูแลความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรึงพื้นที่ก็ยังมีเสียงปืน และเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทหารที่ดูแลความเรียบร้อยมีการบุกเข้าไปใก้ลกับจุดกั้นลวดหนาม
ที่ถ.ราชปรารภ และถอยร่นเมื่อมีเสียงปืน ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุในพื้นที่ ถ.ราชปรารภ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ แต่ก็ยังมีส่วนของสื่มวลชนที่เกาะติดสถานการณ์อยู่ริมบาทวิถี และเสาของอาคารห้างร้านริมถนนเป็นที่กำบังกระสุน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook