ผัวตายแล้วฟื้นคืนชีพ กลายเป็นคนละคน เมียเผย "นิสัยการกิน" ที่น่ากลัวสุดๆ ถึงขั้นขอหย่า!

ผัวตายแล้วฟื้นคืนชีพ กลายเป็นคนละคน เมียเผย "นิสัยการกิน" ที่น่ากลัวสุดๆ ถึงขั้นขอหย่า!

ผัวตายแล้วฟื้นคืนชีพ กลายเป็นคนละคน เมียเผย "นิสัยการกิน" ที่น่ากลัวสุดๆ ถึงขั้นขอหย่า!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สามีกลายเป็นคนละคน หลังจาก “ตายแล้วฟื้น” เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ภรรยาเผยสิ่งพฤติกรรมที่น่ากลัวสุดๆ จนทำให้ขอหย่าทันที

ในปี ค.ศ. 2010 เกิดเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ขึ้นที่เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน นายหว่อง (นามสมมุติ) ได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ว่า "เสียชีวิตแล้ว" และครอบครัวของเขาถูกนำตัวไปที่โรงเผาศพ แต่ใครจะคิดว่าวันรุ่งขึ้นภรรยากลับพบว่าสามีของเธอนั่งอยู่กลางห้องนั่งเล่นของบ้าน โดยที่ยังคงห่อหุ้มร่างกายด้วยผ้าห่อศพ ตั้งแต่นั้นมาสามีก็กลายเป็นคนละคน จากคนชอบเผ็ด กลายเป็นคนไม่กินเผ็ด แถมยังชอบ "กินแก้ว" ด้วย ทำให้ภรรยากลัวและขอหย่าหลังจากแต่งงานกันมา 10 ปี

นักข่าวที่ลงพื้นที่ได้พูดคุยกับภรรยา เธอเล่าว่าชีวิตการแต่งงานอยู่ในภาวะวิกฤติ และพานักข่าวไปยังสถานที่ที่สามีชอบไปขลุกตัวอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่าติดถนนเล็กๆ แต่เมื่อไปถึงไม่พบนายหว่องอยู่ที่นั่น เห็นเพียงเศษกระจกแตกอยู่สองสามชิ้นบนพื้น และมีเลือดกระจายอยู่ทั่ว แต่ไม่รู้ว่าสามีหายตัวไปไหน กระทั่งสองวันต่อมาจึงได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของสามี บอกว่านายหว่องรู้สึกเหนื่อยจึงจะไปพักที่บ้านเพื่อน

อย่างไรก็ดี เมื่อเขากลับมาบ้านในอีกไม่กี่วันต่อมา กลับพบว่าภรรยากำลังเก็บข้าวของของเธอ และบอกว่าเธอต้องการหย่า เพราะรู้สึกกลัวเมื่อสามีของเธอกลายเป็นคนอื่นหลังจาก "ตายและฟื้นคืนชีพ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่จู่ๆ ก็ชอบกินแก้ว มักจะทุบสิ่งของที่ทำจากแก้วให้แตกแล้วเคี้ยวเหมือนของว่าง และกลืนลงไปได้โดยไม่เป็นอันตราย ทำให้เธอไม่สามารถยอมรับความผิดปกตินี้ได้

 

เป็นที่ทราบกันดีว่านายหว่องเกิดในครอบครัวธรรมดา เมื่อเขายังเด็กเขาตั้งใจเรียนหนัก และได้งานในองค์กรของรัฐในที่สุด ด้วยงานและเงินเดือนที่มั่นคงจึงสามารถหาคู่แต่งงานที่เหมาะสมได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ในปี 1999 เมื่อหน่วยงานของรัฐหลายแห่งประสบปัญหาและเลิกจ้างพนักงานอย่างต่อเนื่อง เขาก็เป็นหนึ่งคนที่ต้องลาออกจากงานเช่นกัน ทำให้เศรษฐกิจของครอบครัวเขาถดถอยอย่างรุนแรง

ไม่กี่ปีต่อมา เมื่อเขาค่อยๆ ฟื้นฟูการเงินของครอบครัว เขาก็ได้รับข่าวร้ายว่าป่วยหนัก ในตอนแรกเพียงรู้สึกว่าร่างกายของเขาเหนื่อยล้าโดยไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นก็ค่อยๆ รู้สึกเจ็บที่แขนขาอย่างมาก แม้จะพักผ่อนแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น เมื่อเห็นเช่นนี้ภรรยาจึงเร่งเร้าให้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลทันที อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะไปโรงพยาบาล 3-4 แห่ง แต่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ แพทย์ทำได้เพียงสั่งยาแก้อักเสบและยาแก้ปวดเท่านั้น

หลังจากนั้น อาการของนายหว่องก็เริ่มรุนแรงขึ้น การล้มป่วยทำให้ภรรยาต้องคอยดูแลเขาอยู่เสมอ สองปีผ่านไป สุขภาพไม่เพียงแต่ไม่ดีขึ้น แต่ยังทำให้การเงินของครอบครัวหมดไปด้วย ด้วยความสิ้นหวังเขาจึงเริ่มคิดถึงความตาย ดังนั้น จึงรอช่วงเวลาที่ภรรยาไม่อยู่บ้าน และกินยายนอนหลับเข้าไปมากถึง 20 เม็ด เมื่อภรรยากลับมาถึงบ้านเห็นขวดยานอนหลับเปล่า เธอก็เข้าใจสถานการณ์ทันที รีบโทรหาเพื่อนบ้านให้ช่วยพาสามีไปโรงพยาบาลเขตเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน น่าเสียดายที่แพทย์วินิจฉัยว่าเสียชีวิตแล้ว

ภรรยารู้สึกเศร้าโศกอย่างยิ่ง เธอนำศพสามีกลับบ้านเพื่อเตรียมงานศพ แต่เนื่องจากโรงเผาศพมีผู้ใช้บริการมากเกินไป เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้กลับบ้านไปก่อน แล้วค่อยมาเผาศพสามีในวันรุ่งขึ้น กลับบ้านด้วยจิตใจที่หนักอึ้ง แต่แล้วในวันรุ่งขึ้นขณะเตรียมไปเผาศพ เธอก็ตกใจเมื่อเห็นสามีตัวเป็นๆ นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น โดยยังคงถูกห่อด้วยผ้าห่อศพ เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้ววิ่งออกจากบ้านพร้อมกับกรีดร้อง เพราะกลัวมากคิดว่าเพิ่งเห็นผี แต่เมื่อเพื่อนบ้านพากันมาดูก็เห็นนายหว่องยังมีชีวิตอยู่จริงๆ

เมื่อเธอสงบจิตใจได้จึงรีบพาสามีไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลทันที และผลปรากฏว่าอาการของนายกว่องทั้งหมด "เป็นปกติ" แพทย์คาดการณ์ว่าปริมาณยานอนหลับที่เขากินเข้าไปอาจไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ทำให้เขาตกอยู่ในอาการโคม่าโดยมีอาการต่างๆ เช่น หยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้น เนื่องจากโรงพยาบาลเขตไม่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการตรวจ แพทย์ที่นั่นจึงเข้าใจผิดคิดว่าเขาเสียชีวิตแล้ว

ขณะที่นายหว่องนอนรออยู่ในโรงเผาศพ ยานอนหลับค่อยๆ หมดฤทธิ์ลง เขาจึงตื่นขึ้นมา เขาสับสนและปีนออกจากโลงศพ เพราะอากาศหนาวเขาจึงคลุมผ้าห่อศพและเดินกลับบ้าน เนื่องจากโรงเผาศพมีคนพลุกพล่านจึงไม่มีใครสังเกตเห็น ฝ่ายภรรยาหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดก็ดีใจมาก หวังว่าครอบครัวจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขอีกครั้ง

โดยไม่คาดคิด หลังจากประสบการณ์ "ความตายและการฟื้นคืนชีพ" นาหว่องดูเหมือนจะกลายเป็นคนละคน เดิมทีเขาเป็นคนเก็บตัว แต่จู่ๆ เขาก็เข้าสังคมได้ และชอบพูดคุยกับผู้คนมากมาย เดิมทีเขามีพื้นเพมาจากมณฑลเสฉวน ชอบปรุงพริกเพิ่มในมื้ออาหาร แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถกินอาหารรสเผ็ดได้เลยแม้แต่น้อย

ภรรยายังบอกด้วยว่า หลายครั้งที่เธอตื่นขึ้นมากลางดึกและเห็นสามียืนนิ่งจ้องมองเธอนิ่งๆ ซึ่งทำให้เธอกลัว แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากที่สุดก็คือ จู่ๆ สามีก็ชอบกินแก้ว โดยมักจะทำให้แก้วในบ้านแตกและเคี้ยวมันอย่างตะกละตะกลาม สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอไม่สามารถยอมรับได้ บวกกับการที่สามีของเธอหายออกไปจากบ้านเป็นเวลาหลายวัน เธอจึงตั้งใจที่จะหย่าร้าง

อย่างไรก็ดี นายหว่องอธิบายว่า นิสัยการกินแก้วของเขามีมานานแล้ว และก่อนหน้านี้พวกเขาก็เคยหย่ากันครั้งหนึ่งเพราะเหตุนี้ หลังจากแต่งงานกันเป็นครั้งที่สอง เขากลัวว่าภรรยาของเขาจะทิ้งเขาไปอีกครั้ง เขาจึงพยายามซ่อนมันไว้ เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ นักข่าวจึงพยายามช่วยโน้มน้าวใจภรรยา โดยบอกว่านายหว่องอาจมีโรคแปลกๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้

สุดท้ายทุกคนก้พาเขาไปโรงพยาบาลใหญ่เพื่อตรวจสุขภาพ โดยแพทย์พบว่าอุจจาระของนายหว่องไม่มีเศษแก้ว ซึ่งพิสูจน์ได้ว่ากรดในกระเพาะของเขาสามารถย่อยแก้วได้ โรคนี้พบไม่บ่อยเรียกว่า ภาวะการกินสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร (Pica Syndrome) คนที่เป็นโรคนี้ชอบทานอาหารที่ไม่ใช่อาหาร เช่น แก้ว ชอล์ก อิฐ หรือแม้แต่โลหะ สำหรับการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ของนายหว่อง แพทย์คาดการณ์ว่าประสบการณ์ "ตายแล้วฟื้น" ทำให้เขาเกิดความเครียดและบาดแผลทางจิตใจ

เมื่อทุกอย่างกระจ่างแล้ว ภรรยาจึงล้มเลิกความคิดเรื่องการหย่าร้าง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนที่ได้ทราบเกี่ยวกับกรณีของนายหว่อง ก็ตัดสินใจติดต่อเขาเพื่อช่วยในการรักษาด้วย

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ ผัวตายแล้วฟื้นคืนชีพ กลายเป็นคนละคน เมียเผย "นิสัยการกิน" ที่น่ากลัวสุดๆ ถึงขั้นขอหย่า!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook