หนุ่มถูกจับเมาแล้วขับ ทั้งที่ไม่ดื่ม ที่แท้ป่วยโรคแปลก ร่างกายกลั่นเหล้าได้เอง

หนุ่มถูกจับเมาแล้วขับ ทั้งที่ไม่ดื่ม ที่แท้ป่วยโรคแปลก ร่างกายกลั่นเหล้าได้เอง

หนุ่มถูกจับเมาแล้วขับ ทั้งที่ไม่ดื่ม ที่แท้ป่วยโรคแปลก ร่างกายกลั่นเหล้าได้เอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มถูกจับเมาแล้วขับ แอลกอลฮอล์เกินทั้งที่ไม่ได้ดื่ม เพิ่งรู้ตัวป่วยเป็นโรคกลั่นเหล้า ร่างกายผลิตแอลกอฮอล์ได้เอง

CNN รายงานว่า ชายชาวเบลเยียมวัย 40 ปี พ้นผิดจากข้อกล่าวหาคดีเมาแล้วขับ หลังพบว่าเขาป่วยเป็นโรค Auto-Brewery Syndrome หรือ ABS ทำให้ร่างกายผลิตแอลกอฮอล์ได้เอง 

ตามรายงานของศาล ระบุว่า ผู้ต้องหาชายรายนี้ ถูกตำรวจเรียกให้จอดเมื่อเดือนเมษายน 2565 และผลการเป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ชี้ว่า เขามีแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำให้เขาถูกควบคุมตัวดำเนินคดี

ทนายความของอดีตผู้ต้องหารายนี้ ยื่นหลักฐานในศาลว่า ผู้ต้องหาได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ถึง 3 คน ว่า เขาป่วยเป็นโรค ABS จริง ศาลจึงตัดสินให้เขาพ้นจากข้อกล่าวหา พร้อมทั้งเน้นย้ำในคำตัดสินด้วยว่า จำเลยไม่มีอาการมึนเมาใดๆ

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2562 ผู้ต้องหาชายคนนี้เคยถูกปรับและโดนระงับใบขับขี่จากข้อหาเมาแล้วขับมาแล้ว ทั้งที่ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้ดื่มสุรา ซึ่งตอนนั้นเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองป่วยเป็นโรค ABS 

นักชีววิทยาคลินิกประจำโรงพยาบาลในเบลเยียม อธิบายว่าผู้ที่มีอาการนี้ จะผลิตแอลกอฮอล์ประเภทเดียวกันกับในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่โดยทั่วไปแล้วคนที่เป็นจะไม่รู้ถึงความผิดปกติ

โรคนี้พบครั้งแรกในปี 1944 เพราะในลำไส้ของคนเราจะมีจุลินทรีย์อยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือเชื่อว่าเกิดจาก ยีสต์ที่ชื่อว่า Saccharomyces Cerevisiae ในลำไส้ทำงานผิดปกติ หมักและย่อยแป้งที่เรากินเข้าไปและหมักบ่ม ให้กลายเป็นแอลกอฮอล์ คนที่เป็นโรคนี้ ต้องลดการกินแป้งและคาร์โบไฮเดรต เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ระบบทางเดินอาหาร ผลิตแอลกอฮอล์ออกมามากจนเกินไป นอกจากนี้ คนที่ไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน ก็สามารถเป็นได้หากป่วยเป็นโรคลำไส้อื่นอยู่ก่อนแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook