"ปานปรีย์" ยื่นลาออก รมว.ต่างประเทศ หลังปรับ ครม. แล้วหลุดจากรองนายกฯ

"ปานปรีย์" ยื่นลาออก รมว.ต่างประเทศ หลังปรับ ครม. แล้วหลุดจากรองนายกฯ

"ปานปรีย์" ยื่นลาออก รมว.ต่างประเทศ หลังปรับ ครม. แล้วหลุดจากรองนายกฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปานปรีย์ ยื่นจดหมายลาออก รมว.ต่างประเทศ หลังปรับ ครม. แล้วหลุดจากรองนายกฯ ระบุ เปิดทางให้คนอื่นทำงาน  

จากกรณีเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 โดย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี แต่ยังคงเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เช่นเดิม

ล่าสุด 28 เมษายน 2567  นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยเนื้อหาในหนังสือ ระบุว่า ตามที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีบางตำแหน่ง และปรากฏว่าผมยังคงดำรง ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่เพียงตำแหน่งเดียวนั้น ผมมีความประสงค์จะขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และทุกตำแหน่งที่ได้รับมอบหมาย ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2567 เพื่อเปิดทางให้ท่านอื่นเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน  

สาเหตุของการปรับผมออกจากรองนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ผมเชื่อว่าไม่เกี่ยวกับผมไม่มีผลงานแน่นอน เพราะผมทุ่มเทการทำงานด้านต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และตั้งใจทำหน้าที่ด้วยความชื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีนักลงทุนต่างชาติสนใจมาลงทุนมากขึ้น ตามที่รัฐบาลได้แถลงผลงานไปแล้ว จนสามารถตอบสนองต่อนโยบายการ ทูตเศรษฐกิจเชิงรุกอย่างเด่นชัด วันนี้ไทยหวนกลับมาขึ้นบนจอเรด้าของโลก มีมิตรประเทศเพิ่มขึ้น และมีนักลงทุนต่างชาติสนใจมาลงทุนในไทยมากขึ้น  

นอกจากนั้นการให้ความสำคัญกับคนไทยในต่างประเทศ ผมยังไปเจรจาด้วยตัวเอง เพื่อนำคนไทยผู้ถูกจับเป็นตัวประกันในอิสราเอลกลับไทยได้ถึง23 คน แรงงานไทย 8,000 คน และจากเล่าก็ก่ายในเมียนมาอีก 1,000 คน เปิดวีซ่าฟรีกับหลายประเทศ เพื่อคนไทยมีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเมียนมา ฟื้นความสัมพันธ์กับอาเซียน สหภาพอียู อินเดีย และประเทศมหาอำนาจ ทั้งสหรัฐอเมริกา และ จีน จนเกิดการเจรจา ลดความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ในประเทศไทยอีกด้วย  

สุดท้ายนี้ ผมหวังว่า การปรับคณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จะช่วยให้ การบริหารราชการแผ่นดิน มีประสิทธิภาพมากขึ้น โปร่งใส และรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป ขอขอบพระคุณนายกรัฐมนตรี ที่ให้โอกาสผมได้ทำงานกับรัฐบาลนี้มาช่วงเวลาหนึ่ง  

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง

ลงชื่อนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook